ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
เสียงระเบิด 2 ตูมที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อคำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แทบไม่ต้องสืบสวนเลยว่า มีเป้าหมายเพื่ออะไร และกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังคำบงการ
การวางระเบิดสร้างสถานการณ์ย่านสถานที่คนพลุกพล่าน ใจกลางเมือง เกิดขึ้นภายหลังจากที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ลงมติถอดถอน ในความผิดทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
ก่อนที่ สนช.ลงมติถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ มีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยรวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดงเรียงหน้าออกมา ประกาศข่มขู่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่าจะเกิดการนองเลือด ถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ถูกถอดถอน
และลักษณะของระเบิด รวมทั้งการวางระเบิดสร้างสถานการณ์ เพื่อคุกคามและข่มขู่ ก็เป็นวิธีการของกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยใช้มาแล้วกับมวลมหาประชาชนที่ลุกฮือขึ้นมาขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เคยเกิดมาแล้วกับองค์กรอิสระ
ระเบิดที่สยามพารากอนจึงถูกพุ่งเป้าไปที่พรรคเพื่อไทย เป้าหมายเพื่อสร้างความวุ่นวาย และท้าท้าย พล.อ.ประยุทธ์
เสียงระเบิดที่ดังขึ้น น่าจะเป็นคำตอบในนโยบายสร้างความปรองดองของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเป็นคำตอบว่า นโยบายปรองดองคงไปไม่ถึงฝั่ง
และเป็นคำตอบว่า นโยบายปรองดอง ใช้กับคนชั่วไม่ได้ และเสียเวลาเปล่าในความพยายามปรองดองกับคนที่ยังฝันที่จะกลับมากุมอำนาจใหม่
พล.อ.ประยุทธ์สัมผัสได้ด้วยตัวเองแล้วว่า การนำคนชั่วมาจับมือกับคนดี ไม่ใช่วิธีที่จะสร้างความปรองดองได้และได้รู้ได้เห็นแล้วว่า การเปิดโอกาสคนโกง คนที่กระทำความผิด หันหน้ามาปรองดองกัน โดยลืมพฤติกรรมในอดีตนั้น เป็นการเสียเวลาเปล่า
เพราะคนโกง คนที่กล้ากระทำความผิด มักเป็นคนที่ไม่มีสำนึก ซึ่งไม่มีวันกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้
พล.อ.ประยุทธ์ต้องตื่นจากความฝัน ต้องเลิกหลอกตัวเอง และหันมามองการแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง จะใช้ไม้นวมต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องหันมาใช้ไม้แข็ง ต้องเคร่งครัดในกฎหมาย ใครทำความผิดต้องถูกลงโทษ โดยไม่ละเว้น
เลิกเรียกร้องให้คนดีหันไปคืนดีกับคนชั่วเสียที เลิกขอร้องให้ประชาชนที่ถูกรัฐบาลภายใต้คำบงการของพ.ต.ท.ทักษิณกดขี่รังแกลืมอดีตได้แล้ว และพอกันทีสำหรับการให้โอกาสบรรดาลูกสมุน พ.ต.ท.ทักษิณปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เพราะระเบิดที่สนามพารากอน บอกให้รู้ว่า คนบางกลุ่มปราณีไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์เริ่มปรับจุดยืนถูกที่ถูกทางแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่า การประกาศไม่ปรองดองกับคนโกง คนซุกหุ้น คนทำผิดกฎหมาย หรือล่าสุด การตอบโต้สหรัฐที่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน
แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องเปลี่ยนจุดยืนใหม่ รวมทั้งนโยบายการปรองดอง ซึ่งไม่แยกแยะคนดีคนชั่ว การปราณีกับรัฐบาลขี้โกง การใจดีกับนักการเมืองเลวๆ การให้โอกาสบรรดาลูกสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ และการแผ่เมตตากับแกนนำคนเสื้อแดงที่รอโอกาสปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวาย
พล.อ.ประยุทธ์ควรต้องตระหนักแล้วว่า คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณเปลี่ยนไม่ได้ นักการเมืองสังกัดพรรคเพื่อไทยไม่มีวันกลับตัวกลับใจ สมุนรับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะแกนนำคนเสื้อแดงไม่ใช่คนดีที่จะต้องมัวเกรงใจและคอยให้ความปราณี
การวางตัวเป็นผู้นำประเทศที่ไม่เลือกข้าง ลอยตัวเหนือปัญหาเรื่องสีเสื้อ พยายามแสดงจุดยืนของรัฐบาลที่เป็นกลาง เพื่อแก้ปัญหาของทุกฝ่าย และนำความสามัคคีความสุขคืนสู่ประชาชน ถูกตอกย้ำแล้วว่า ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เมื่อสิ้นเสียงระเบิด 2 ตูมใหญ่ที่สยามพารากอน
พล.อ.ประยุทธ์ต้องเลือกข้าง ต้องเลือกยืนอยู่ฝ่ายคนดี เลิกปราณีคนชั่ว โดยหันมาใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นเพื่อจัดการกับคนชั่ว
นักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ แกนนำคนเสื้อแดง หรือใครก็ตามที่แสดงตัวชัดเจนว่าเป็นขี้ข้า พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้ากระทำความผิดไว้ ต้องเร่งงานอย่างเด็ดขาด ไม่เว้นแม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งวันนี้ยังไม่มีการถอดยศ ไม่มีการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีแต่อย่างใด
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์มุ่งมั่นในนโยบายปรองดอง พรรคเพื่อไทยกำลังแช่งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์อยู่ อยากให้สิ้นอายุไขในเร็ววัน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์พยายามคืนความสุขให้ประชาชน แต่ฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในภาวะ พร้อมจะทำอะไรได้ทุกอย่าง บ้านเมืองจะยับเยินช่วงหัวมัน ขอให้ได้กลับมากุมอำนาจใหม่เท่านั้น
สัญญาณจากฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณถูกส่งมาแล้ว ผ่านแรงระเบิดที่สยามพารากอน บอกให้รู้ว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์คงไม่ได้อยู่อย่างสงบ แต่จะเจอการก่อกวนหนักขึ้น
ยุทธการก่อกวน สร้างความปั่นป่วน ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ท้าทายกฎอัยการศึกได้เริ่มขึ้นแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์กำลังถูกกลุ่มกวนเมืองท้าท้ายครั้งใหญ่ ถึงขั้นเล่นแรงด้วยระเบิด จะปรองดองกับคนที่เป็นภัยคุกคามความมั่นคงต่อไปก็เชิญดันทุรังไปคนเดียวเถอะ
ถ้าไม่จัดหนักกับลูกสมุน พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้ายังทำเป็นล้อเล่นกับพรรคเพื่อไทย ระบบทักษิณฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่อย่างไร คิดไว้บ้าง จะได้กล้าๆ หน่อย
