การเดินทางมาของนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และแสดงท่าทีจุ้นจ้านกับการเมืองภายใน ตามด้วยเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ นัดหมายพูดคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน ทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีความรู้สึกเหมือนกันว่า
สหรัฐฯ วุ่นวายมากเกินไปแล้ว สหรัฐฯ กำลังเลือกข้าง เลือกที่จะเอาใจพรรคเพื่อไทย เลือกที่จะเห็นใจฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีทุจริต
การเสนอให้ยกเลิกกฎอัยการศึก เรียกร้องให้เลือกตั้งโดยเร็ว ถือว่าผิดมารยาทอย่างมาก แต่ยังสร้างเรื่องที่เลวร้ายหนักขึ้นอีก โดยเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศไทย นัดปะพูดคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงในภาคอีสาน
แม้รายการพบปะแลกเปลี่ยนกับแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสานจะถูกยกเลิกไป แต่การที่เจ้าหน้าที่สถานทูตจะไปพูดคุยกับคนเสื้อแดง เป็นเรื่องที่ไม่สมควร หรือจะใช้คำว่าแส่ก็คงไม่ผิด
มีธุระจำเป็นอะไรที่สหรัฐฯ จะไปคุยกับแกนนำคนเสื้อแดง ถ้าอยากรู้สถานการณ์ประเทศไทย ทำไมไม่คุยกับรัฐบาล หรือถ้าต้องการรู้ความเป็นไปในเรื่องสิทธิเสรีภาพ เรื่องความเป็นประชาธิปไตย ทำไมต้องคุยกับแกนนำคนเสื้อแดง
ทำไมไม่คุยกับแกนนำคนเสื้อเหลืองบ้าง ทำไมไม่คุยกับแกนนำประชาชนกลุ่มที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำไมต้องพุ่งเป้าเจาะจงไปที่แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่นิยมความรุนแรง
ในช่วงที่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน ในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 สหรัฐฯ หายหัวไปไหน ในช่วงที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ สั่งตำรวจเข่นฆ่าประชาชน ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง และสลายการชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ จนมีผู้เสียชีวิตหลายราย ช่วงปลายปี 2557 สหรัฐฯ ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน
ในช่วงที่มวลมหาประชาชนนับสิบล้านคนออกมาขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย และถูกกลุ่มคนเสื้อแดงคุกคาม ถูกอันธพาลลอบกัด ใช้อาวุธสงครามถล่มใส่ ทำไมสหรัฐฯ ไม่เข้ามากดดันให้นางสาวยิ่งลักษณ์ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนที่ บริสุทธิ์
สหรัฐฯ ไม่โง่จนถึงขั้นไม่รู้ว่าสถานการณ์การเมืองของไทยเป็นอย่างไร และคงไม่โง่จนถึงขั้นไม่รู้ว่า รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณและรัฐบาลหุ่นเชิดทั้งหมด ชนะการเลือกตั้งมาได้อย่างไร
อย่าอ้างระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ยอมรับรู้ว่า รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณนิยมใช้ความรุนแรง พร้อมจะปราบปรามประชาชนที่ออกมาต่อต้าน แม้จะเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตยด้วยหลักสันติ อหิงสาก็ตาม
สิ่งที่คนไทยอยากตะโกนถามสหรัฐฯ ก็คือ ทำไมจึงถือหางพ.ต.ท.ทักษิณ ทำไมจึงปกป้องรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำไมจึงลงไปคุยกับแกนนำคนเสื้อแดง ทั้งที่เป็นกลุ่มนิยมความรุนแรง และมีพฤติกรรมเข้าข่ายก่อการร้าย
คนเสื้อแดงที่เงียบไปในช่วงนี้ เพราะไม่มีนักการเมืองปลุกระดม ไม่มีใครบงการ ไม่มีน้ำเลี้ยงสนับสนุน และที่สำคัญคือ ไม่มีอำนาจรัฐคุ้มกะลาหัว
แต่สหรัฐฯ กลับจะเข้ามาก่อหวอดคนเสื้อแดง สหรัฐฯ กำลังจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย และสหรัฐฯ กำลังจะจุดชนวนการก่อการร้ายเสียเอง
ประชาชนส่วนใหญ่ แม้จะอึดอัดกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนกับกฎอัยการศึก ไม่ได้รู้สึกจะเป็นจะตาย ถ้าการเลือกตั้งจะช้าไปบ้าง
แต่สหรัฐฯ มา ส.ใส่เกือกอะไรกับประเทศไทย หรือมีความจงใจที่จะโค่นล้มรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยกลับมามีอำนาจใหม่ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า สหรัฐฯ มีข้อตกลงผลประโยชน์อะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณ จึงเป็นเดือดเป็นร้อนแทน
พล.อ.ประยุทธ์แสดงจุดยืนถูกต้องแล้วในการตอบโต้สหรัฐฯ แต่ควรเพิ่มดีกรีให้เข้มข้นอีก เพราะการ ส.ใส่เกือกเลือกข้างรัฐบาลขี้โกง เลือกที่จะเอาใจพ.ต.ท.ทักษิณ เลือกที่จะปกป้องมวลชนจัดตั้งของพรรคเพื่อไทย จึงไม่จำเป็นต้องไว้หน้าสหรัฐฯ อีกต่อไป
จะไล่ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ออกไป จะตะเพิดเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ ที่นัดพบปะคนเสื้อแดงกลับบ้าน ก็คงไม่มีใครว่า
เพราะสหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายใน ยุยงปลุกปั่นคนเสื้อแดง จุดชนวนความวุ่นวายในประเทศไทย ส.ใส่เกือกขนาดนี้ ดับเครื่องชนได้แล้ว
สหรัฐฯ วุ่นวายมากเกินไปแล้ว สหรัฐฯ กำลังเลือกข้าง เลือกที่จะเอาใจพรรคเพื่อไทย เลือกที่จะเห็นใจฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีทุจริต
การเสนอให้ยกเลิกกฎอัยการศึก เรียกร้องให้เลือกตั้งโดยเร็ว ถือว่าผิดมารยาทอย่างมาก แต่ยังสร้างเรื่องที่เลวร้ายหนักขึ้นอีก โดยเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศไทย นัดปะพูดคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงในภาคอีสาน
แม้รายการพบปะแลกเปลี่ยนกับแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสานจะถูกยกเลิกไป แต่การที่เจ้าหน้าที่สถานทูตจะไปพูดคุยกับคนเสื้อแดง เป็นเรื่องที่ไม่สมควร หรือจะใช้คำว่าแส่ก็คงไม่ผิด
มีธุระจำเป็นอะไรที่สหรัฐฯ จะไปคุยกับแกนนำคนเสื้อแดง ถ้าอยากรู้สถานการณ์ประเทศไทย ทำไมไม่คุยกับรัฐบาล หรือถ้าต้องการรู้ความเป็นไปในเรื่องสิทธิเสรีภาพ เรื่องความเป็นประชาธิปไตย ทำไมต้องคุยกับแกนนำคนเสื้อแดง
ทำไมไม่คุยกับแกนนำคนเสื้อเหลืองบ้าง ทำไมไม่คุยกับแกนนำประชาชนกลุ่มที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำไมต้องพุ่งเป้าเจาะจงไปที่แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่นิยมความรุนแรง
ในช่วงที่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน ในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 สหรัฐฯ หายหัวไปไหน ในช่วงที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ สั่งตำรวจเข่นฆ่าประชาชน ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง และสลายการชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ จนมีผู้เสียชีวิตหลายราย ช่วงปลายปี 2557 สหรัฐฯ ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน
ในช่วงที่มวลมหาประชาชนนับสิบล้านคนออกมาขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย และถูกกลุ่มคนเสื้อแดงคุกคาม ถูกอันธพาลลอบกัด ใช้อาวุธสงครามถล่มใส่ ทำไมสหรัฐฯ ไม่เข้ามากดดันให้นางสาวยิ่งลักษณ์ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนที่ บริสุทธิ์
สหรัฐฯ ไม่โง่จนถึงขั้นไม่รู้ว่าสถานการณ์การเมืองของไทยเป็นอย่างไร และคงไม่โง่จนถึงขั้นไม่รู้ว่า รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณและรัฐบาลหุ่นเชิดทั้งหมด ชนะการเลือกตั้งมาได้อย่างไร
อย่าอ้างระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ยอมรับรู้ว่า รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณนิยมใช้ความรุนแรง พร้อมจะปราบปรามประชาชนที่ออกมาต่อต้าน แม้จะเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตยด้วยหลักสันติ อหิงสาก็ตาม
สิ่งที่คนไทยอยากตะโกนถามสหรัฐฯ ก็คือ ทำไมจึงถือหางพ.ต.ท.ทักษิณ ทำไมจึงปกป้องรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำไมจึงลงไปคุยกับแกนนำคนเสื้อแดง ทั้งที่เป็นกลุ่มนิยมความรุนแรง และมีพฤติกรรมเข้าข่ายก่อการร้าย
คนเสื้อแดงที่เงียบไปในช่วงนี้ เพราะไม่มีนักการเมืองปลุกระดม ไม่มีใครบงการ ไม่มีน้ำเลี้ยงสนับสนุน และที่สำคัญคือ ไม่มีอำนาจรัฐคุ้มกะลาหัว
แต่สหรัฐฯ กลับจะเข้ามาก่อหวอดคนเสื้อแดง สหรัฐฯ กำลังจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย และสหรัฐฯ กำลังจะจุดชนวนการก่อการร้ายเสียเอง
ประชาชนส่วนใหญ่ แม้จะอึดอัดกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนกับกฎอัยการศึก ไม่ได้รู้สึกจะเป็นจะตาย ถ้าการเลือกตั้งจะช้าไปบ้าง
แต่สหรัฐฯ มา ส.ใส่เกือกอะไรกับประเทศไทย หรือมีความจงใจที่จะโค่นล้มรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยกลับมามีอำนาจใหม่ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า สหรัฐฯ มีข้อตกลงผลประโยชน์อะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณ จึงเป็นเดือดเป็นร้อนแทน
พล.อ.ประยุทธ์แสดงจุดยืนถูกต้องแล้วในการตอบโต้สหรัฐฯ แต่ควรเพิ่มดีกรีให้เข้มข้นอีก เพราะการ ส.ใส่เกือกเลือกข้างรัฐบาลขี้โกง เลือกที่จะเอาใจพ.ต.ท.ทักษิณ เลือกที่จะปกป้องมวลชนจัดตั้งของพรรคเพื่อไทย จึงไม่จำเป็นต้องไว้หน้าสหรัฐฯ อีกต่อไป
จะไล่ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ออกไป จะตะเพิดเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ ที่นัดพบปะคนเสื้อแดงกลับบ้าน ก็คงไม่มีใครว่า
เพราะสหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายใน ยุยงปลุกปั่นคนเสื้อแดง จุดชนวนความวุ่นวายในประเทศไทย ส.ใส่เกือกขนาดนี้ ดับเครื่องชนได้แล้ว
