**แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอม ถูกปล่อยมาอาละวาดในโลกโซเชียลมีเดียได้เพียงแค่ 2 วัน เจ้าหน้าที่ก็สามารถไล่ล่าตัว “กฤษณ์ บุตรดีจีน” หนุ่มจังหวัดเพชรบูรณ์ มือปล่อยแถลงการณ์ปลอมลำดับต้นๆ เอาไว้ดำเนินคดีได้ทันควัน
เรียกได้ว่าสีกากียุค “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำงานได้รวดเร็ว ถูกใจ“ขุนทหาร” คนที่ได้เครดิตหนีไม่พ้น “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ”รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ผู้เลือก “บิ๊กอ๊อด”มากับมือ คงยิ้มแก้มปริ
ตามรายงานของหน่วยงานความมั่นคง ชื่อของ“กฤษณ์”คือมือทำงานด้านโซเชี่ยล “ใต้ดิน”ให้กับ แกนนำพรรคเพื่อไทย มาสักระยะหนึ่ง และได้รับการชุบเลี้ยงจากแกนนำ นปช. เป็นอย่างดี จนได้รับความไว้วางใจให้เป็น แกนนำ นปช.เพชรบูรณ์
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า บรรดามือดีด้านโซเชียลมีเดียของ “คนเสื้อแดง”กระจัดกระจายอยู่ในหลายจังหวัดโซนภาคเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบรรดา นักศึกษาจบใหม่ ที่มีแนวคิดเอนเองมาทาง คนเสื้อแดง
ยิ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พยายามตรึงพื้นที่ “บนดิน”ให้หนาแน่น บีบ-กดดัน ไม่ให้มีการเคลื่อนไหวบนดินได้สะดวก ทำให้ “ขบวนการใต้ดิน” ของคนเสื้อแดงต้องขยายตัวมากขึ้น เพราะนี่คือทางรอดเดียวของคนเสื้อแดง ที่ยังสามารถตรึงมวลชน ไม่ให้เผลอใจ เอนเอียงไปกับสิ่งที่ คสช. พยายามจะเข้าไปปลูกฝัง แนวคิด-อุดมการณ์ ทางการเมือง หรือชุดความรู้ทางการเมือง ชุดใหม่
“คนเสื้อแดง-นายใหญ่”รู้ดีว่าหากจะต่อสู้กับ“ทหาร-กปปส.”ในระยะยาว ต้องไม่ทิ้งกระแสให้เงียบลง วิธีการที่ดีที่สุดคือ ปลุกปั่น “ใต้ดิน” ทางที่ คนเสื้อแดง ถนัดจึงเป็นทางออก
เพราะอย่าลืมว่า ไม่ช้าก็เร็ว การเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นแน่นอน หาก “นายใหญ่”ปล่อยให้กระแสตก “ท่อน้ำเลี้ยง”ที่เคยเฟื่องฟู ตีบตันลงไป มีหวังคะแนนนิยมต้องหดหายตาม แถมกติกาการเลือกตั้งที่ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะออกแบบ ไม่มีทางที่จะเอื้อประโยชน์ให้ “นายใหญ่-คนเสื้อแดง”
**การขยับสู้ “ใต้ดิน”ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นทางเดียว ที่สามารถทำได้
แต่หากไล่เรียงดูที่มาที่ไปของแถลงการณ์ปลอมแล้ว ไม่ได้ถูกส่งต่อมาจาก“คนในประเทศ”อย่างแน่นอน เพราะจากการไล่รีเช็ค ของหน่วยงานความมั่นคง พบความเคลื่อนไหวของการฟอร์เวิร์ด ส่งต่อมาจากต่างแดน
ทิศทางข่าวช่วงแรกของตำรวจ จึงระบุว่า “มือดี”ที่ปล่อยแถลงการณ์ปลอมให้“คนไทย”บางกลุ่มต้องตกเป็นเหยื่อนั้น อยู่ต่างประเทศ แต่ไม่สามารถระบุ ชื่อประเทศได้ เพราะเกรงว่าจะส่งผลต่อความสัมพันธ์อันยาวนาน
ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุด้วยตัวเองว่า ให้นำตัว “กฤษณ์”มาสอบสวนเพิ่มเติม แสดงว่า งานนี้คดีไม่หยุดที่ “ลิ่วล้อแดง” รายนี้แน่นอน
"จับได้หรือไม่ได้ ก็ต้องรู้ว่าอยู่ตรงไหน ถ้าอยู่ในต่างประเทศ จะทำอย่างไร เขาจะมีการส่งตัวหรือเปล่า เพราะเราไม่สามารถไปจับกุมตัวยังต่างประเทศได้" บิ๊กตู่ ระบุ
แต่พอถามว่า มีความเคลื่อนไหวจากประเทศอะไร “บิ๊กตู่”กลับเลี่ยงที่จะตอบ เพราะรู้ดีว่า กำลังประสานขอข้อมูลกันอยู่ หากโผงผางบอกชื่อประเทศออกไปมีหวัง “ปฏิบัติการลับ”ต้องจบเห่กันพอดี
ขบวนการปล่อยแถลงการณ์ปลอม จึงอยู่ไกลมากกว่าตัวของ“กฤษณ์”ที่อยู่ในระดับปลายทาง แต่ตำรวจก็ต้องใช้ “กฤษณ์”ให้เป็นประโยชน์เพื่อต่อจิ๊กซอว์ ลากตัวการใหญ่ออกมาให้ได้
เป้าหมายในการสอบปากคำ “กฤษณ์”คือ ช่องทางในการติดต่อกับตัวการใหญ่ และช่องทางสนับสนุน“ท่อน้ำเลี้ยง” มาให้ “กลุ่มแดงโซเชี่ยล” ว่ามีมากขนาดไหน มีกี่เส้นทางกันแน่ ที่สำคัญ หรือแนวร่วม “แดงโซเชี่ยล” มีใครบ้างหน้าตาเป็นอย่างไร
**ส่วนตัวการใหญ่พอเดากันได้ว่า รูปร่างหน้าตาเป็นใคร เคลื่อนไหวอยู่ส่วนไหนของโลก เพราะถือเป็นขบวนการเดียวกับ“คนปล่อยข่าว” อัปมงคลที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปั่นป่วน ดิ่งลงเหวมาแล้ว ในช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา
โฟกัสพื้นที่ ที่ “ขบวนการล้มเจ้า”จัดทำ พร้อมปล่อยแถลงการณ์ปลอมออกมา ตามรายงานแล้วความเป็นไปได้มากที่สุด น่าจะอาศัยอยู่ในถิ่นฐานของประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ที่ชอบเข้ามาวุ่นวายกับการเมืองไทย
แต่บางกระแสระบุว่า พบความเคลื่อนไหวของ “ขบวนการล้มเจ้า”ในแถบประเทศยุโรป เพราะระยะหลังกลุ่มดังกล่าวมักไม่ใช่พื้นที่ของประเทศใดประเทศหนึ่งเคลื่อนไหว แต่จะอาศัยเดินทางไปเรื่อย โดยมีเครือข่าย “แดงต่างแดน”คอยให้ความช่วยเหลือ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า ประเทศมหาอำนาจ ไม่ค่อยแฮปปี้กับระบบการปกครองของไทย ที่ยังมี“สถาบันพระมหากษัตริย์”เป็นที่พึงยึด เหนียวของคนไทยทั้งชาติ
เพราะมองว่า“สถาบันพระมหากษัตริย์”คอยกีดกันผลประโยชน์และคอยให้คำเสนอแนะ ไม่ให้“ไทย”ตกเป็นเครื่องมือ ในการเข้ามาใช้เป็นถิ่นฐานทางยุทธศาสตร์ ต่อรองเชิงอำนาจได้
**ประเทศมหาอำนาจ จึงต้องสนับสนุนคนไทย ที่มีแนวคิด “ล้มเจ้า”ให้มาทำร้ายประเทศไทยด้วยกันเอง เพราะลำพังจะเดินเกมเองทั้งหมด คงไมสำเร็จ ต้องยืมมือคนไทย ฆ่า คนไทย ล้มล้างสิ่งที่ คนไทยรัก และเคารพ ด้วยมือของคนไทย เอง
ทว่า“รัฐบาลบิ๊กตู่”ยังพอมีมารยาททางการทูตอยู่บ้าง โดยไม่ต้องการเปิดเผย “ชื่อต้นตอ”ของประเทศที่บรรดาขบวนการล้มเจ้าใช้เป็นที่ปล่อยแถลงการณ์ปลอมออกมา เพราะยังเกรงว่า จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
แต่ “รัฐบาลบิ๊กตู่”ขีดเส้นใต้เอาไว้ว่า หากไม่ได้รับความร่วมมือ จะมีมาตรการกดดันเพิ่มเติม เพราะไม่ต้องการให้“ไทยนอกคอก”ไปใช้พื้นที่ประเทศอื่นมา ทำลายความรู้สึกของ คนไทย
ได้กำหนดเอาไว้ว่าภายใน 2 สัปดาห์ หากไม่ได้รับความร่วมมือ จะเปิดชื่อประเทศที่ให้ “ขบวนการล้มเจ้า”เคลื่อนไหว เหมือนกับที่เคยเปิดชื่อ “นิวซีแลนด์”ที่ให้ “ไอ้ตั้ง อาชีวะ”ใช้เป็นที่ซุกหัวนอน
หลังจากนี้ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดว่า“รัฐบาลบิ๊กตู่”จะสาวไส้-ลากไส้ บรรดาขบวนการล้มเจ้า มารับโทษได้มากน้อยแค่ไหน เพราะ“กฤษณ์” สมุนปลายแถว เป็นแค่น้ำจิ้ม แต่ไอ้โม่งตัวจริง ยังไม่โผล่
**เพื่อให้ “สถาบันพระมหากษัตริย์”ปลอดภัยจากคนไม่หวังดี “รัฐบาลบิ๊กตู่”ต้องถอนรากถอนโคน ขบวนการล้มเจ้า ไม่ให้เหลือซากไว้หนัก
แผ่นดินอีกต่อไป
เรียกได้ว่าสีกากียุค “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำงานได้รวดเร็ว ถูกใจ“ขุนทหาร” คนที่ได้เครดิตหนีไม่พ้น “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ”รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ผู้เลือก “บิ๊กอ๊อด”มากับมือ คงยิ้มแก้มปริ
ตามรายงานของหน่วยงานความมั่นคง ชื่อของ“กฤษณ์”คือมือทำงานด้านโซเชี่ยล “ใต้ดิน”ให้กับ แกนนำพรรคเพื่อไทย มาสักระยะหนึ่ง และได้รับการชุบเลี้ยงจากแกนนำ นปช. เป็นอย่างดี จนได้รับความไว้วางใจให้เป็น แกนนำ นปช.เพชรบูรณ์
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า บรรดามือดีด้านโซเชียลมีเดียของ “คนเสื้อแดง”กระจัดกระจายอยู่ในหลายจังหวัดโซนภาคเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบรรดา นักศึกษาจบใหม่ ที่มีแนวคิดเอนเองมาทาง คนเสื้อแดง
ยิ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พยายามตรึงพื้นที่ “บนดิน”ให้หนาแน่น บีบ-กดดัน ไม่ให้มีการเคลื่อนไหวบนดินได้สะดวก ทำให้ “ขบวนการใต้ดิน” ของคนเสื้อแดงต้องขยายตัวมากขึ้น เพราะนี่คือทางรอดเดียวของคนเสื้อแดง ที่ยังสามารถตรึงมวลชน ไม่ให้เผลอใจ เอนเอียงไปกับสิ่งที่ คสช. พยายามจะเข้าไปปลูกฝัง แนวคิด-อุดมการณ์ ทางการเมือง หรือชุดความรู้ทางการเมือง ชุดใหม่
“คนเสื้อแดง-นายใหญ่”รู้ดีว่าหากจะต่อสู้กับ“ทหาร-กปปส.”ในระยะยาว ต้องไม่ทิ้งกระแสให้เงียบลง วิธีการที่ดีที่สุดคือ ปลุกปั่น “ใต้ดิน” ทางที่ คนเสื้อแดง ถนัดจึงเป็นทางออก
เพราะอย่าลืมว่า ไม่ช้าก็เร็ว การเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นแน่นอน หาก “นายใหญ่”ปล่อยให้กระแสตก “ท่อน้ำเลี้ยง”ที่เคยเฟื่องฟู ตีบตันลงไป มีหวังคะแนนนิยมต้องหดหายตาม แถมกติกาการเลือกตั้งที่ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะออกแบบ ไม่มีทางที่จะเอื้อประโยชน์ให้ “นายใหญ่-คนเสื้อแดง”
**การขยับสู้ “ใต้ดิน”ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นทางเดียว ที่สามารถทำได้
แต่หากไล่เรียงดูที่มาที่ไปของแถลงการณ์ปลอมแล้ว ไม่ได้ถูกส่งต่อมาจาก“คนในประเทศ”อย่างแน่นอน เพราะจากการไล่รีเช็ค ของหน่วยงานความมั่นคง พบความเคลื่อนไหวของการฟอร์เวิร์ด ส่งต่อมาจากต่างแดน
ทิศทางข่าวช่วงแรกของตำรวจ จึงระบุว่า “มือดี”ที่ปล่อยแถลงการณ์ปลอมให้“คนไทย”บางกลุ่มต้องตกเป็นเหยื่อนั้น อยู่ต่างประเทศ แต่ไม่สามารถระบุ ชื่อประเทศได้ เพราะเกรงว่าจะส่งผลต่อความสัมพันธ์อันยาวนาน
ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุด้วยตัวเองว่า ให้นำตัว “กฤษณ์”มาสอบสวนเพิ่มเติม แสดงว่า งานนี้คดีไม่หยุดที่ “ลิ่วล้อแดง” รายนี้แน่นอน
"จับได้หรือไม่ได้ ก็ต้องรู้ว่าอยู่ตรงไหน ถ้าอยู่ในต่างประเทศ จะทำอย่างไร เขาจะมีการส่งตัวหรือเปล่า เพราะเราไม่สามารถไปจับกุมตัวยังต่างประเทศได้" บิ๊กตู่ ระบุ
แต่พอถามว่า มีความเคลื่อนไหวจากประเทศอะไร “บิ๊กตู่”กลับเลี่ยงที่จะตอบ เพราะรู้ดีว่า กำลังประสานขอข้อมูลกันอยู่ หากโผงผางบอกชื่อประเทศออกไปมีหวัง “ปฏิบัติการลับ”ต้องจบเห่กันพอดี
ขบวนการปล่อยแถลงการณ์ปลอม จึงอยู่ไกลมากกว่าตัวของ“กฤษณ์”ที่อยู่ในระดับปลายทาง แต่ตำรวจก็ต้องใช้ “กฤษณ์”ให้เป็นประโยชน์เพื่อต่อจิ๊กซอว์ ลากตัวการใหญ่ออกมาให้ได้
เป้าหมายในการสอบปากคำ “กฤษณ์”คือ ช่องทางในการติดต่อกับตัวการใหญ่ และช่องทางสนับสนุน“ท่อน้ำเลี้ยง” มาให้ “กลุ่มแดงโซเชี่ยล” ว่ามีมากขนาดไหน มีกี่เส้นทางกันแน่ ที่สำคัญ หรือแนวร่วม “แดงโซเชี่ยล” มีใครบ้างหน้าตาเป็นอย่างไร
**ส่วนตัวการใหญ่พอเดากันได้ว่า รูปร่างหน้าตาเป็นใคร เคลื่อนไหวอยู่ส่วนไหนของโลก เพราะถือเป็นขบวนการเดียวกับ“คนปล่อยข่าว” อัปมงคลที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปั่นป่วน ดิ่งลงเหวมาแล้ว ในช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา
โฟกัสพื้นที่ ที่ “ขบวนการล้มเจ้า”จัดทำ พร้อมปล่อยแถลงการณ์ปลอมออกมา ตามรายงานแล้วความเป็นไปได้มากที่สุด น่าจะอาศัยอยู่ในถิ่นฐานของประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ที่ชอบเข้ามาวุ่นวายกับการเมืองไทย
แต่บางกระแสระบุว่า พบความเคลื่อนไหวของ “ขบวนการล้มเจ้า”ในแถบประเทศยุโรป เพราะระยะหลังกลุ่มดังกล่าวมักไม่ใช่พื้นที่ของประเทศใดประเทศหนึ่งเคลื่อนไหว แต่จะอาศัยเดินทางไปเรื่อย โดยมีเครือข่าย “แดงต่างแดน”คอยให้ความช่วยเหลือ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า ประเทศมหาอำนาจ ไม่ค่อยแฮปปี้กับระบบการปกครองของไทย ที่ยังมี“สถาบันพระมหากษัตริย์”เป็นที่พึงยึด เหนียวของคนไทยทั้งชาติ
เพราะมองว่า“สถาบันพระมหากษัตริย์”คอยกีดกันผลประโยชน์และคอยให้คำเสนอแนะ ไม่ให้“ไทย”ตกเป็นเครื่องมือ ในการเข้ามาใช้เป็นถิ่นฐานทางยุทธศาสตร์ ต่อรองเชิงอำนาจได้
**ประเทศมหาอำนาจ จึงต้องสนับสนุนคนไทย ที่มีแนวคิด “ล้มเจ้า”ให้มาทำร้ายประเทศไทยด้วยกันเอง เพราะลำพังจะเดินเกมเองทั้งหมด คงไมสำเร็จ ต้องยืมมือคนไทย ฆ่า คนไทย ล้มล้างสิ่งที่ คนไทยรัก และเคารพ ด้วยมือของคนไทย เอง
ทว่า“รัฐบาลบิ๊กตู่”ยังพอมีมารยาททางการทูตอยู่บ้าง โดยไม่ต้องการเปิดเผย “ชื่อต้นตอ”ของประเทศที่บรรดาขบวนการล้มเจ้าใช้เป็นที่ปล่อยแถลงการณ์ปลอมออกมา เพราะยังเกรงว่า จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
แต่ “รัฐบาลบิ๊กตู่”ขีดเส้นใต้เอาไว้ว่า หากไม่ได้รับความร่วมมือ จะมีมาตรการกดดันเพิ่มเติม เพราะไม่ต้องการให้“ไทยนอกคอก”ไปใช้พื้นที่ประเทศอื่นมา ทำลายความรู้สึกของ คนไทย
ได้กำหนดเอาไว้ว่าภายใน 2 สัปดาห์ หากไม่ได้รับความร่วมมือ จะเปิดชื่อประเทศที่ให้ “ขบวนการล้มเจ้า”เคลื่อนไหว เหมือนกับที่เคยเปิดชื่อ “นิวซีแลนด์”ที่ให้ “ไอ้ตั้ง อาชีวะ”ใช้เป็นที่ซุกหัวนอน
หลังจากนี้ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดว่า“รัฐบาลบิ๊กตู่”จะสาวไส้-ลากไส้ บรรดาขบวนการล้มเจ้า มารับโทษได้มากน้อยแค่ไหน เพราะ“กฤษณ์” สมุนปลายแถว เป็นแค่น้ำจิ้ม แต่ไอ้โม่งตัวจริง ยังไม่โผล่
**เพื่อให้ “สถาบันพระมหากษัตริย์”ปลอดภัยจากคนไม่หวังดี “รัฐบาลบิ๊กตู่”ต้องถอนรากถอนโคน ขบวนการล้มเจ้า ไม่ให้เหลือซากไว้หนัก
แผ่นดินอีกต่อไป