ASTVผู้จัดการรายวัน – บอร์ดปตท.อนุมัติขายหุ้นบางจากให้กองทุนวายุภักษ์ 15% ที่เหลืออีก 12.22%เจรจากับผู้ที่สนใจซื้อ โดยเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจเสนอเงื่อนไขและราคาเข้ามา ส่วนกลุ่มเดิม"ประยุทธ์-พิชัย"ต้องรอพิจารณาเช่นกัน มั่นใจแล้วเสร็จในไตรมาส1/2558 ย้ำเหตุเลือกกองทุนวายุภักษ์เนื่องจากเสนอราคาและเงื่อนไขดีที่สุดมา มั่นใจดีลนี้ได้เงินไม่ต่ำกว่า 1หมื่นล้านบาท และรับรู้เป็นกำไรจากการขายหุ้น 4-5 พันล้านบาท
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)วาระพิเศษเรื่องการขายหุ้นบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(BCP)ที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ 27.22%วานนี้ (3 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมบอร์ดปตท.พิจารณาอนุมัติให้ขายหุ้นบางจากฯทั้งหมด โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน
คือส่วนแรกขายหุ้นบางจากฯสัดส่วน 15% ให้กับกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งรายละเอียดจะมีการเจรจากันอีกครั้ง
ส่วนที่ 2 จำนวนหุ้นบางจากที่เหลืออีก 12.22%นั้นกำลังเจรจาขายหุ้นกับผู้ที่สนใจที่เสนอเงื่อนไขและราคาที่ดี โดยเปิดกว้างให้กับผู้ที่สนใจนอกเหนือจากผู้สนใจที่ยื่นราคาเสนอซื้อมาก่อนหน้านี้จำนวน 2 ราย คือ บริษัท เมอร์ริเมดไทม์ของกลุ่มนายประยุทธ์ มหากิจศิริ และกลุ่มเอ็มบีโอ ซึ่งนำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการบริษัทบางจากกลุ่มผู้บริหารและพนักงานบางจากฯ โดยจะเลือกผู้ที่ยื่นข้อเสนอมาดีที่สุด คาดว่าการเจรจาขายหุ้นบางจากทั้งหมดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2558 นี้
นายไพรินทร์ กล่าวยอมรับ การตัดสินใจขายหุ้นบางจากฯ 15%ให้กับกองทุนวายุภักษ์นี้ แม้ว่ากองทุนฯจะยื่นข้อเสนอเงื่อนไขและราคาภายหลังจากที่บริษัทปิดรับผู้ที่สนใจเสนอเงื่อนไขมาก็ตาม แต่ราคาและเงื่อนไขที่กองทุนวายุภักษ์เสนอมานั้นดีที่สุด อีกทั้งกองทุนวายุภักษ์เองก็ถือหุ้นในปตท.อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ปตท.มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นบางจากทั้งหมด 27.22%จะได้เงินไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะบันทึกเป็นกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าวอยู่ที่ 4-5 พันล้านบาท
“ เราตั้งใจขายหุ้นบางจากฯทั้งหมดอยู่แล้ว เบื้องต้นขายหุ้นบางจากให้กองทุนวายุภักษ์ 15% โดยราคาได้มีการตกลงกันแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้จนกว่าจะเจรจาขายหุ้นบางจากส่วนที่เหลือจบก่อน แต่ยืนยันว่าเป็นข้อเสนอที่เหมาะสมต่อทั้งคนซื้อและคนขาย โดยอยากให้ราคาเสนอขายหุ้นบางจากทั้ง 2 ส่วนมีราคาที่เท่ากัน โดยยืนยันว่าการเสนอขายหุ้นที่เหลืออีก 12.22%จะไม่ปิดทางใคร
โดยเชื่อว่าภายในไตรมาส 1นี้จะได้ข้อสรุปทั้งหมด “
นายไพรินทร์ ยืนยันว่า มติบอร์ดปตท.ในครั้งนี้ไม่ถือว่าเป็นการล้มดีล เนื่องจากมีการขายหุ้นบางจากฯอยู่ เพียงแต่ข้อเสนอของบริษัทที่เสนอซื้อหุ้นบางจากมาก่อนหน้านี้ทั้ง 2 รายยังไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีที่สุด และยืนยันว่าการขายหุ้นบางจากไม่มีเงื่อนไขบังคับให้ผู้ที่สนใจต้องมีแบงก์การันตีถึง 1 หมื่นล้านบาทแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวออกมาว่าดีลการขายหุ้นบางจากฯถูกเบรกไม่ให้ขายหุ้นให้กลุ่มนายประยุทธ์ที่เสนอราคาซื้อหุ้นบางจากฯมาสูงกว่ากลุ่มนายพิชัย เนื่องจากป้องกันไม่ให้กลุ่มทุนการเมืองเข้ามามีบทบาทการบริหารจัดการบางจากฯ หลังจากมีกระแสคัดค้านจากพนักงานบางจากที่ไม่ต้องการให้ปตท.ขายหุ้นออกไป
จึงเสนอให้กระทรวงการคลังเข้ามาซื้อแทนผ่านกองทุนวายุภักษ์ แต่เนื่องจากติดเงื่อนไขบางอย่าง ทำให้กองทุนวายุภักษ์ไม่สามารถเข้ามาซื้อหุ้นบางจากทั้งหมดได้ คงซื้อได้เพียง 15%เท่านั้น
ส่วนแนวทางการการดึงกองทุนวายุภักษ์เข้ามาถือหุ้นบางจากนี้ เชื่อว่าฝ่ายบริหารและพนักงานบางจากฯจะเห็นชอบแนวทางนี้ ดีกว่าอยู่ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มนายประยุทธ์อย่างแน่นอน เพราะถ้าบริษัท เมอร์ริเมดไทม์เข้ามาถือหุ้นใหญ่ สิ่งแรกคือการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัทบางจากฯ รวมทั้งแนวนโยบายการบริหารงานซึ่งไม่ส่งผลดีต่อผู้บริหารและพนักงานบางจากฯ
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)วาระพิเศษเรื่องการขายหุ้นบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(BCP)ที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ 27.22%วานนี้ (3 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมบอร์ดปตท.พิจารณาอนุมัติให้ขายหุ้นบางจากฯทั้งหมด โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน
คือส่วนแรกขายหุ้นบางจากฯสัดส่วน 15% ให้กับกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งรายละเอียดจะมีการเจรจากันอีกครั้ง
ส่วนที่ 2 จำนวนหุ้นบางจากที่เหลืออีก 12.22%นั้นกำลังเจรจาขายหุ้นกับผู้ที่สนใจที่เสนอเงื่อนไขและราคาที่ดี โดยเปิดกว้างให้กับผู้ที่สนใจนอกเหนือจากผู้สนใจที่ยื่นราคาเสนอซื้อมาก่อนหน้านี้จำนวน 2 ราย คือ บริษัท เมอร์ริเมดไทม์ของกลุ่มนายประยุทธ์ มหากิจศิริ และกลุ่มเอ็มบีโอ ซึ่งนำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการบริษัทบางจากกลุ่มผู้บริหารและพนักงานบางจากฯ โดยจะเลือกผู้ที่ยื่นข้อเสนอมาดีที่สุด คาดว่าการเจรจาขายหุ้นบางจากทั้งหมดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2558 นี้
นายไพรินทร์ กล่าวยอมรับ การตัดสินใจขายหุ้นบางจากฯ 15%ให้กับกองทุนวายุภักษ์นี้ แม้ว่ากองทุนฯจะยื่นข้อเสนอเงื่อนไขและราคาภายหลังจากที่บริษัทปิดรับผู้ที่สนใจเสนอเงื่อนไขมาก็ตาม แต่ราคาและเงื่อนไขที่กองทุนวายุภักษ์เสนอมานั้นดีที่สุด อีกทั้งกองทุนวายุภักษ์เองก็ถือหุ้นในปตท.อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ปตท.มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นบางจากทั้งหมด 27.22%จะได้เงินไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะบันทึกเป็นกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าวอยู่ที่ 4-5 พันล้านบาท
“ เราตั้งใจขายหุ้นบางจากฯทั้งหมดอยู่แล้ว เบื้องต้นขายหุ้นบางจากให้กองทุนวายุภักษ์ 15% โดยราคาได้มีการตกลงกันแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้จนกว่าจะเจรจาขายหุ้นบางจากส่วนที่เหลือจบก่อน แต่ยืนยันว่าเป็นข้อเสนอที่เหมาะสมต่อทั้งคนซื้อและคนขาย โดยอยากให้ราคาเสนอขายหุ้นบางจากทั้ง 2 ส่วนมีราคาที่เท่ากัน โดยยืนยันว่าการเสนอขายหุ้นที่เหลืออีก 12.22%จะไม่ปิดทางใคร
โดยเชื่อว่าภายในไตรมาส 1นี้จะได้ข้อสรุปทั้งหมด “
นายไพรินทร์ ยืนยันว่า มติบอร์ดปตท.ในครั้งนี้ไม่ถือว่าเป็นการล้มดีล เนื่องจากมีการขายหุ้นบางจากฯอยู่ เพียงแต่ข้อเสนอของบริษัทที่เสนอซื้อหุ้นบางจากมาก่อนหน้านี้ทั้ง 2 รายยังไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีที่สุด และยืนยันว่าการขายหุ้นบางจากไม่มีเงื่อนไขบังคับให้ผู้ที่สนใจต้องมีแบงก์การันตีถึง 1 หมื่นล้านบาทแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวออกมาว่าดีลการขายหุ้นบางจากฯถูกเบรกไม่ให้ขายหุ้นให้กลุ่มนายประยุทธ์ที่เสนอราคาซื้อหุ้นบางจากฯมาสูงกว่ากลุ่มนายพิชัย เนื่องจากป้องกันไม่ให้กลุ่มทุนการเมืองเข้ามามีบทบาทการบริหารจัดการบางจากฯ หลังจากมีกระแสคัดค้านจากพนักงานบางจากที่ไม่ต้องการให้ปตท.ขายหุ้นออกไป
จึงเสนอให้กระทรวงการคลังเข้ามาซื้อแทนผ่านกองทุนวายุภักษ์ แต่เนื่องจากติดเงื่อนไขบางอย่าง ทำให้กองทุนวายุภักษ์ไม่สามารถเข้ามาซื้อหุ้นบางจากทั้งหมดได้ คงซื้อได้เพียง 15%เท่านั้น
ส่วนแนวทางการการดึงกองทุนวายุภักษ์เข้ามาถือหุ้นบางจากนี้ เชื่อว่าฝ่ายบริหารและพนักงานบางจากฯจะเห็นชอบแนวทางนี้ ดีกว่าอยู่ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มนายประยุทธ์อย่างแน่นอน เพราะถ้าบริษัท เมอร์ริเมดไทม์เข้ามาถือหุ้นใหญ่ สิ่งแรกคือการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัทบางจากฯ รวมทั้งแนวนโยบายการบริหารงานซึ่งไม่ส่งผลดีต่อผู้บริหารและพนักงานบางจากฯ