ASTV ผู้จัดการรายวัน - สมาคมค้าทองคำยังไม่พิจารณาจะตั้งตลาดซื้อขายทองคำหรือไม่ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผนึกก.ล.ต.เร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่าจะสามารถ จัดตั้งตลาดซื้อขายทองคำได้ภายในปีนี้ หลังที่ผ่านมา ตลท.ได้หารือกับธนาคาร แห่งประเทศไทย(ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รวมถึงสมาชิกผู้ประกอบการค้าทองแล้ว เนื่องจาก ไทยมีความเหมาะสมที่จะตั้งตลาดดังกล่าว เพราะที่ผ่านมานักลงทุนมีความต้องการซื้อขายทองเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แนวทางการซื้อขายในตลาดดังกล่าว ยังมี ข้อติดขัดในเรื่องการใช้เงินสกุลดอลลาร์สำหรับการซื้อขาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถ ทำได้ เนื่องจาก ธปท.มีความกังวลในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงอยู่ระหว่าง พิจารณาว่า จะหาทางออกอย่างไร
"เราอยากเห็นการตั้งตลาดในปีนี้ ซึ่งเท่าที่คุยกับแบงก์ชาติ และก.ล.ต. ก็เห็นด้วยในเรื่องนี้" นางเกศรา กล่าว
ก่อนหน้านี้ สมาคมค้าทองคำ เสนอให้ทางการจัดตั้งศูนย์ซื้อขายทองคำ โดยให้สมาคมค้าทองคำเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งศูนย์ฯ ดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นตัวกลาง การซื้อขายทองคำระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ หากมีการเปิดประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสมาคมค้าทองคำ ปรากฏว่า นายกสมาคมค้าทองคำ "จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี" ยังคงมีข้อสังเกตเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ระหว่างค่าเงินบาท-ดอลลาร์สหรัฐ เพราะการนำเงินดอลลาร์เข้ามาในปริมาณมากอาจส่งผลให้ค่าเงินผันผวนได้
ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้นำเข้า และส่งออกสินค้า
"การหารือกันครั้งล่าสุดก่อนปีใหม่ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น การจัดตั้งตลาดซื้อขายทองคำยังไม่เป็นรูปร่าง และยังไมได้ข้อสรุปใดใด เนื่องจากความผันผวนของค่าเงินอาจส่งผลกระทบต่อทั้งผู้นำเข้า และส่งออก รวมถึงกระทบราคาทองคำในประเทศด้วย" แหล่งข่าวกล่าว
อนึ่งการจัดตั้งตลาดซื้อขายทองคำ แม้จะเปิดให้ซื้อ-ขายด้วยเงินสกุลดอลลาร์โดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท แต่การซื้อขายในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับการซื้อขายทองคำแท่งในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์ ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ค้าทองคำรายย่อย ดังนั้น ผู้ที่คิดจะดำเนินการจัดตั้งตลาดฯ นั้นนำองค์ประกอบใดมาพิจาณราประกอบการตัดสินใจ
"ทุกที่ต้องมีทั้งผู้ได้ประโยชน์ และผู้เสียประโยชน์ ดังนั้นต้องถามผู้ที่จะจัดตั้งว่า เขายืนอยู่ในตำแหน่งผู้ได้ประโยชน์ หรือผู้เสียประโยชน์" แหล่งข่าวกล่าวในที่สุด
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่าจะสามารถ จัดตั้งตลาดซื้อขายทองคำได้ภายในปีนี้ หลังที่ผ่านมา ตลท.ได้หารือกับธนาคาร แห่งประเทศไทย(ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รวมถึงสมาชิกผู้ประกอบการค้าทองแล้ว เนื่องจาก ไทยมีความเหมาะสมที่จะตั้งตลาดดังกล่าว เพราะที่ผ่านมานักลงทุนมีความต้องการซื้อขายทองเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แนวทางการซื้อขายในตลาดดังกล่าว ยังมี ข้อติดขัดในเรื่องการใช้เงินสกุลดอลลาร์สำหรับการซื้อขาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถ ทำได้ เนื่องจาก ธปท.มีความกังวลในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงอยู่ระหว่าง พิจารณาว่า จะหาทางออกอย่างไร
"เราอยากเห็นการตั้งตลาดในปีนี้ ซึ่งเท่าที่คุยกับแบงก์ชาติ และก.ล.ต. ก็เห็นด้วยในเรื่องนี้" นางเกศรา กล่าว
ก่อนหน้านี้ สมาคมค้าทองคำ เสนอให้ทางการจัดตั้งศูนย์ซื้อขายทองคำ โดยให้สมาคมค้าทองคำเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งศูนย์ฯ ดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นตัวกลาง การซื้อขายทองคำระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ หากมีการเปิดประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสมาคมค้าทองคำ ปรากฏว่า นายกสมาคมค้าทองคำ "จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี" ยังคงมีข้อสังเกตเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ระหว่างค่าเงินบาท-ดอลลาร์สหรัฐ เพราะการนำเงินดอลลาร์เข้ามาในปริมาณมากอาจส่งผลให้ค่าเงินผันผวนได้
ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้นำเข้า และส่งออกสินค้า
"การหารือกันครั้งล่าสุดก่อนปีใหม่ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น การจัดตั้งตลาดซื้อขายทองคำยังไม่เป็นรูปร่าง และยังไมได้ข้อสรุปใดใด เนื่องจากความผันผวนของค่าเงินอาจส่งผลกระทบต่อทั้งผู้นำเข้า และส่งออก รวมถึงกระทบราคาทองคำในประเทศด้วย" แหล่งข่าวกล่าว
อนึ่งการจัดตั้งตลาดซื้อขายทองคำ แม้จะเปิดให้ซื้อ-ขายด้วยเงินสกุลดอลลาร์โดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท แต่การซื้อขายในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับการซื้อขายทองคำแท่งในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์ ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ค้าทองคำรายย่อย ดังนั้น ผู้ที่คิดจะดำเนินการจัดตั้งตลาดฯ นั้นนำองค์ประกอบใดมาพิจาณราประกอบการตัดสินใจ
"ทุกที่ต้องมีทั้งผู้ได้ประโยชน์ และผู้เสียประโยชน์ ดังนั้นต้องถามผู้ที่จะจัดตั้งว่า เขายืนอยู่ในตำแหน่งผู้ได้ประโยชน์ หรือผู้เสียประโยชน์" แหล่งข่าวกล่าวในที่สุด
