ยะลา - สภาวะการซื้อขายทองคำใน อ.เบตง จ.ยะลา ย่ำแย่ และมียอดลดลงกว่า 50% โดยมีผลพวงมาจากราคายางพาราที่ตกต่ำอย่างมาก แถมยังมีการนำทองคำมาจำนำเพิ่มขึ้น และไม่ยอมมาไถ่ถอนคืน
วันนี้ (9 ธ.ค.) จากปัญหาวิกฤตราคายางพาราตกต่ำ ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจจนขยายวงกว้างแล้ว โดยเฉพาะธุรกิจจำหน่ายทองคำต่างๆ ซึ่ง นางจินดา ห่อวงศ์สกุล เจ้าของห้างทองจินดา กล่าวว่า ขณะนี้ราคายางพาราที่ตกต่ำได้เริ่มส่งกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในท้องถิ่น จนทำให้การค้าขายทองคำเงียบเหงาลงไปมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่ยางพารามีราคาดี หรือมียอดการซื้อขายลดลงไป 50-60% แถมยังมีการนำทองคำมาจำนำเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนประจำวัน และไม่ยอมมาไถ่ถอนคืนด้วย
นางจินดา กล่าวว่า การซื้อขายทองคำของแต่ละร้านมีสภาพย่ำแย่เหมือนกันหมด โดยเฉพาะร้านทองขนาดเล็กจะมีผลกระทบมากกว่า เพราะชาวบ้านต่างห่วงเรื่องปากท้องเป็นสำคัญ ต่างไปจากเมื่อก่อนในช่วงที่ยางพารามีราคาดีร้านทองแต่ละแห่งจะขายดีมาก จนแทบจะหาทองคำมาให้ไม่ทันเลย แต่ขณะนี้กลับมีผลกระทบไปหมดจนแทบขายไม่ได้ เนื่องจากยางพารามีผลต่อภาวะเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างมาก อีกทั้งยังมีราคาตกต่ำลงไปจนเหลือแค่กิโลกรัมละ 36-37 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สถานการณ์อาจจะกลับมาคึกคัก เพราะเป็นช่วงเทศกาลที่ผู้คนเริ่มใช้จ่ายเงินมากขึ้น
ทางด้าน หจก.ซุ่นฮองจั่น ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสุขยางค์ ในเขตเทศบาลเมืองเบตง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรับซื้อยางพาราแผ่นดิบในอำเภอเบตง กล่าวว่า ในช่วง 1-2 วันนี้ ราคายางพาราแผ่นดิบปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยอยู่ที่กิโลกรัมละ 36-37 บาท จากราคาที่เคยสูงสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 66 กว่าบาท จึงถือได้ว่าราคายางพาราปรับลดลงมากว่า 50%
ทั้งนี้ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีเนื้อที่ปลูกยางพาราทั้งหมด 364,513 ไร่ และสามารถผลิตยางพารากว่า 73,300 ตันต่อปี และมีมูลค่าการส่งออกยางพาราผ่านด่านการค้าชายแดน อำเภอเบตง ในแต่ละเดือนเป็นเงินกว่า 349.93 ล้านบาท