ตรัง - สภาวะการซื้อขายทองคำใน จ.ตรัง ย่ำแย่ และมียอดลดลงกว่า 50% โดยมีผลพวงมาจากราคายางพาราที่ตกต่ำอย่างมาก แถมยังมีการนำทองคำมาจำนำเพิ่มขึ้น และไม่ยอมมาไถ่ถอนคืน
วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าว จ.ตรัง รายงานว่า จากปัญหาวิกฤตราคายางพาราตกต่ำ ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจจนขยายวงกว้างแล้ว โดยเฉพาะธุรกิจจำหน่ายทองคำต่างๆ ซึ่ง นางลดาวัลย์ ศัยศักดิ์พงษ์ เจ้าของร้านทองตุ้นเฮงหลี ธุรกิจจำหน่ายทองคำรูปพรรณรายใหญ่ในเขตเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ราคายางพาราที่ตกต่ำได้เริ่มส่งกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของภาคใต้ จนทำให้การค้าขายทองคำเงียบเหงาลงไปมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่ยางพารามีราคาดี หรือมียอดการซื้อขายลดลงไป 50-60% แถมยังมีการนำทองคำมาจำนำเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนประจำวัน และไม่ยอมมาไถ่ถอนคืนด้วย
นางลดาวัลย์ กล่าวว่า การซื้อขายทองคำของแต่ละร้านมีสภาพย่ำแย่เหมือนกันหมด โดยเฉพาะร้านทองขนาดเล็กจะมีผลกระทบมากกว่า เพราะชาวบ้านต่างห่วงเรื่องปากท้องเป็นสำคัญ ต่างไปจากเมื่อก่อนในช่วงที่ยางพารามีราคาดี ร้านทองแต่ละแห่งจะขายดีมาก จนแทบจะหาทองคำมาให้ไม่ทันเลย แต่ขณะนี้กลับมีผลกระทบไปหมดจนแทบขายไม่ได้ เนื่องจากยางพารามีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของภาคใต้อย่างมาก อีกทั้งยังมีราคาตกต่ำลงไปจนเหลือแค่กิโลกรัมละ 47-50 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าประมาณเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ สถานการณ์น่าจะกลับมาคึกคัก เพราะเป็นช่วงเทศกาลที่ผู้คนเริ่มใช้จ่ายเงินมากขึ้น
