นักข่าวหลายคนตั้งวงรอบโต๊ะกาแฟ ด้วยความตื่นเต้ลส์กับข่าว “ปู” โดนถอดถอน
“190 เสียงลงมติถอดถอนนายกฯ ปู ก็เธอปล่อยให้ผลาญเงินและโกงชาติอย่างชัดแจ้ง ในโครงการจำนำข้าวไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ทำให้ชาติเสียหายอย่างใหญ่หลวงมากเป็นประวัติการณ์เลยนะ”
นักข่าววัยกลางคนเปิดฉากการถกแถลง
“อเมริกาที่ถือว่าจีนเป็นภัยอันดับหนึ่ง จะทนนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะพี่น้องตระกูล ‘โกงจนชิน’ ที่เป็นผู้จัดผลประโยชน์ของชาติไทย ประเคนให้ชาติอเมริกันมากมายมาโดยตลอด อย่างเรื่องสัมปทานน้ำมันครั้งที่ 21 กับการจะยกสนามบินอู่ตะเภาให้อเมริกาใช้เป็นฐานปิดล้อมจีน ฯลฯ แต่เรื่องยังไม่ทันจบ...คุณเธอผู้น้องสาวดันโดนรัฐประหารเสียก่อน”
นักข่าวสาวเชี่ยวงานต่างประเทศพูดเสริมขึ้น อธิบายต่อว่า
“ถอดถอนปูเลยสะเทือนถึงโอบามา แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรมว.ตปท.มะกัน จึงมาเมืองไทยจ้อกับปู และพูดจาโน้มน้าวรั้งรัฐบาลบิ๊กตู่ ไม่ให้เอนไปทางจีนมากนัก แต่เรื่องพูดคุยที่ไม่เปิดเผย คือมาหาทางช่วยปูให้พ้นผิด โดยใช้คำ ‘ห่วงใย’ นำหน้าว่า ห่วงว่าไทยจะไม่เป็นประชาธิปไตย ทำให้อดีตนายกฯ ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่เงินกว่า 7 แสนล้านบาทที่เธอปล่อยให้เกิดการโกงอุตลุด จนคนไทยทุกคนต้องใช้หนี้ตั้ง 50 ปี รัฐบาลอเมริกันไม่แยแสใดๆ ทั้งสิ้น เข้าตำรา ‘ขอมะกันได้ก็แล้วกัน’ แหม...สันดานช่างเหมือนพี่น้องตระกูล ‘โกงจนชิน’ เสียนี่กระไร...”
นักข่าวการเมืองที่นั่งนิ่ง...พูดขึ้นว่า
“การถอดถอนปูน่ะ เหลี่ยมถือเป็นการ ‘ผิดสัญญาปากเปล่า’ กับใครบางคนที่มีอำนาจ! เพราะตกลงไว้ว่า-จะปล่อย แต่ดันคุมเกมไม่อยู่ จนน้องสาวถูกถอดถอนห้ามเล่นการเมือง 5 ปี แถมยังโดนอัยการฟ้องคดีอาญาตามหลังอีกต่างหาก จนกลายเป็นหนังซีรีย์เรื่องยาว จากศาลรัชดาฯ ไปคุกคลองเปรมเลย”
นักข่าวอาชญากรรมวัย 28 พูด ก่อนที่พิธีกรหนุ่มจะชิงพูดแทรกขึ้นว่า
“งานนี้...เหลี่ยมไม่นิ่งเฉยแน่ แม้เขาและเครือญาติจะมีธุรกิจมากมายอยู่ในประเทศไทยกับผลประโยชน์มหาศาล เรื่องสัมปทานน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา แต่เหลี่ยมจะนิ่งเฉยได้นานแค่ไหน เพราะความรับผิดชอบที่เหลี่ยมใช้น้องสาวทำงานการเมืองให้ตนจนเสียชื่อเสียงป่นปี้ แล้วยังโดนคดีอาญาจนอาจถึงขั้นติดคุก นั่นคือปัญหาใหญ่ที่เหลี่ยมต้องแก้ไขให้ได้โดยด่วนที่สุด...”
ป้าหญิงวางแก้วชาเขียวร้อนลงหลังจิบแล้ว ก่อนจะพูดว่า...
“คดีของปู...ยังต้องสู้กันในศาลอีกนาน แต่ปัญหาตอนนี้ของเหลี่ยม คือ ตอนนี้เหลี่ยมพร้อมจะแตกหักกับใครบางคนใน คสช.หรือเปล่า? รัฐบาล คสช.ยังใช้กฎอัยการศึกเป็นอาวุธ สถานการณ์เหลี่ยมจึงเสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ? กองกำลังรับจ้างของเหลี่ยมพร้อมจะตายแทนเหลี่ยมแล้วหรือ? หากเปิดศึกแตกหักในตอนนี้ เหลี่ยมจะชนะศึกได้แน่หรือ? เหลี่ยมมีสันดานเอาแต่ได้...ถ้าเสียไม่เอาด้วยแน่นอน...”
พิธีกรหนุ่มปรายตามองป้าหญิง เขาพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะเอ่ยปากว่า
“นั่นสิ! ตอนนี้เหลี่ยมจึงต้องกลืนเลือด ใช้แผน ‘ปลาใหญ่กบดานในน้ำลึก’ รอเวลาที่ คสช.อ่อนแอหรือเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง พลพรรคเหลี่ยมจึงค่อยออกมา สำแดงพลังโค่นรัฐบาล คสช.ลง แต่ถ้ารัฐบาล คสช.ยังประคองตัวไปได้เรื่อยๆ แบบนี้ เหลี่ยมคงต้องรอการเลือกตั้ง ถึงตอนนั้น...เหลี่ยมจะประเมินสถานการณ์อีกทีว่า จะใช้วิธีไหนเข้ายึดอำนาจรัฐ”
ป้าหญิงยิ้มแบบรู้ทันเหลี่ยม
“เหลี่ยมมีหลายวิธีที่จะเข้าสู่อำนาจรัฐ เช่น ยกอดีต ส.ส.ทั้งหมดไปหนุนใครบางคนที่กุมอำนาจอยู่ในปัจจุบัน ให้ขึ้นเป็นนายกฯ แล้วตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ ก่อนจะลงท้ายด้วยการนิรโทษกรรมทางการเมือง ที่มีทั้งตนและน้องสาวให้พ้นผิดก็ได้ แต่ถ้าเหลี่ยมประเมินว่า เงินและการโกงจะทำให้ตนชนะการเลือกตั้ง มีเสียงข้างมากในสภาฯ ได้ เหลี่ยมอาจทุ่มเงินเข้ายึดอำนาจรัฐอีกครั้งเลยก็ได้...”
หนุ่มพิธีกรอดรนทนไม่ไหว เอ่ยปากถามนักข่าวอาวุโสว่า
“ถอดถอนปูเป็นแค่ ‘มวยยกแรก’ ถ้างั้นศึกเหลี่ยมกับ คสช.ก็จะต้องมีมวยยกสอง-ยกสาม-ยกสี่-ยกห้าน่ะสิ พี่คิดว่าใครจะแพ้ใครจะชนะล่ะ?”
บุรุษอาวุโสดื่มด่ำรสชาติกาแฟดำ...ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“คนแดนไกลเหลี่ยมเยอะ ในขณะที่บิ๊กตู่กับพวกก็ใช่ย่อย ลับ-ลวง-พรางจนทำรัฐประหารชนะโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ และสงบราบคาบมาจนทุกวันนี้ ถือว่าบิ๊กตู่กับพวกฝีมือไม่เบาเลยนะ เรื่องความมั่นคงบิ๊กตู่กับ คสช.สอบผ่าน ถึงจะเป็นการสงบเพียงแค่ชั่วคราวก็ตาม ส่วนใครจะแพ้-ใครจะชนะนั้น ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินตอนนี้...”
นักข่าวด้านเศรษฐกิจกล่าวเสริมว่า
“แต่เรื่องเศรษฐกิจบิ๊กตู่สอบตกนะ เพราะแก้ปัญหายังไม่ตรงเป้า โดยเฉพาะราคาพลังงานต่างๆ ยังขายแพงกว่าราคาในตลาดโลกเยอะเลย ทำให้ค่าไฟฟ้าแพงเกินจริง ตามไปด้วยต้นทุนการผลิต-การขนส่ง-การทำธุรกิจ ในแทบทุกมิติก็สูงตาม ส่งผลให้สินค้าทุกชนิดแพงเกินจริง ทำให้คนจนและชนชั้นกลางในสังคมทุนนิยมสามานย์ต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส”
นักข่าววัยกลางคน คนเดิมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“บิ๊กตู่จะคืนความสุขให้ชาติและประชาชนได้อย่างถาวร ก็ต่อเมื่อ...เอาคนดีขึ้นปกครองบ้านเมืองได้ และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจเท่านั้นแหละ...จริงไหม?”
ป้าหญิงพูดสรุปตบท้าย…
“คนรักชาติอย่าเพิ่งดีใจ อย่าหยุดแค่นี้นะ ต้องผลัก ‘บิ๊กตู่’ ให้เดินหน้าต่อ ด้วยนิติรัฐนิติธรรมเพื่อการปรองดองที่แท้จริง...”
“190 เสียงลงมติถอดถอนนายกฯ ปู ก็เธอปล่อยให้ผลาญเงินและโกงชาติอย่างชัดแจ้ง ในโครงการจำนำข้าวไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ทำให้ชาติเสียหายอย่างใหญ่หลวงมากเป็นประวัติการณ์เลยนะ”
นักข่าววัยกลางคนเปิดฉากการถกแถลง
“อเมริกาที่ถือว่าจีนเป็นภัยอันดับหนึ่ง จะทนนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะพี่น้องตระกูล ‘โกงจนชิน’ ที่เป็นผู้จัดผลประโยชน์ของชาติไทย ประเคนให้ชาติอเมริกันมากมายมาโดยตลอด อย่างเรื่องสัมปทานน้ำมันครั้งที่ 21 กับการจะยกสนามบินอู่ตะเภาให้อเมริกาใช้เป็นฐานปิดล้อมจีน ฯลฯ แต่เรื่องยังไม่ทันจบ...คุณเธอผู้น้องสาวดันโดนรัฐประหารเสียก่อน”
นักข่าวสาวเชี่ยวงานต่างประเทศพูดเสริมขึ้น อธิบายต่อว่า
“ถอดถอนปูเลยสะเทือนถึงโอบามา แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรมว.ตปท.มะกัน จึงมาเมืองไทยจ้อกับปู และพูดจาโน้มน้าวรั้งรัฐบาลบิ๊กตู่ ไม่ให้เอนไปทางจีนมากนัก แต่เรื่องพูดคุยที่ไม่เปิดเผย คือมาหาทางช่วยปูให้พ้นผิด โดยใช้คำ ‘ห่วงใย’ นำหน้าว่า ห่วงว่าไทยจะไม่เป็นประชาธิปไตย ทำให้อดีตนายกฯ ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่เงินกว่า 7 แสนล้านบาทที่เธอปล่อยให้เกิดการโกงอุตลุด จนคนไทยทุกคนต้องใช้หนี้ตั้ง 50 ปี รัฐบาลอเมริกันไม่แยแสใดๆ ทั้งสิ้น เข้าตำรา ‘ขอมะกันได้ก็แล้วกัน’ แหม...สันดานช่างเหมือนพี่น้องตระกูล ‘โกงจนชิน’ เสียนี่กระไร...”
นักข่าวการเมืองที่นั่งนิ่ง...พูดขึ้นว่า
“การถอดถอนปูน่ะ เหลี่ยมถือเป็นการ ‘ผิดสัญญาปากเปล่า’ กับใครบางคนที่มีอำนาจ! เพราะตกลงไว้ว่า-จะปล่อย แต่ดันคุมเกมไม่อยู่ จนน้องสาวถูกถอดถอนห้ามเล่นการเมือง 5 ปี แถมยังโดนอัยการฟ้องคดีอาญาตามหลังอีกต่างหาก จนกลายเป็นหนังซีรีย์เรื่องยาว จากศาลรัชดาฯ ไปคุกคลองเปรมเลย”
นักข่าวอาชญากรรมวัย 28 พูด ก่อนที่พิธีกรหนุ่มจะชิงพูดแทรกขึ้นว่า
“งานนี้...เหลี่ยมไม่นิ่งเฉยแน่ แม้เขาและเครือญาติจะมีธุรกิจมากมายอยู่ในประเทศไทยกับผลประโยชน์มหาศาล เรื่องสัมปทานน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชา แต่เหลี่ยมจะนิ่งเฉยได้นานแค่ไหน เพราะความรับผิดชอบที่เหลี่ยมใช้น้องสาวทำงานการเมืองให้ตนจนเสียชื่อเสียงป่นปี้ แล้วยังโดนคดีอาญาจนอาจถึงขั้นติดคุก นั่นคือปัญหาใหญ่ที่เหลี่ยมต้องแก้ไขให้ได้โดยด่วนที่สุด...”
ป้าหญิงวางแก้วชาเขียวร้อนลงหลังจิบแล้ว ก่อนจะพูดว่า...
“คดีของปู...ยังต้องสู้กันในศาลอีกนาน แต่ปัญหาตอนนี้ของเหลี่ยม คือ ตอนนี้เหลี่ยมพร้อมจะแตกหักกับใครบางคนใน คสช.หรือเปล่า? รัฐบาล คสช.ยังใช้กฎอัยการศึกเป็นอาวุธ สถานการณ์เหลี่ยมจึงเสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ? กองกำลังรับจ้างของเหลี่ยมพร้อมจะตายแทนเหลี่ยมแล้วหรือ? หากเปิดศึกแตกหักในตอนนี้ เหลี่ยมจะชนะศึกได้แน่หรือ? เหลี่ยมมีสันดานเอาแต่ได้...ถ้าเสียไม่เอาด้วยแน่นอน...”
พิธีกรหนุ่มปรายตามองป้าหญิง เขาพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะเอ่ยปากว่า
“นั่นสิ! ตอนนี้เหลี่ยมจึงต้องกลืนเลือด ใช้แผน ‘ปลาใหญ่กบดานในน้ำลึก’ รอเวลาที่ คสช.อ่อนแอหรือเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง พลพรรคเหลี่ยมจึงค่อยออกมา สำแดงพลังโค่นรัฐบาล คสช.ลง แต่ถ้ารัฐบาล คสช.ยังประคองตัวไปได้เรื่อยๆ แบบนี้ เหลี่ยมคงต้องรอการเลือกตั้ง ถึงตอนนั้น...เหลี่ยมจะประเมินสถานการณ์อีกทีว่า จะใช้วิธีไหนเข้ายึดอำนาจรัฐ”
ป้าหญิงยิ้มแบบรู้ทันเหลี่ยม
“เหลี่ยมมีหลายวิธีที่จะเข้าสู่อำนาจรัฐ เช่น ยกอดีต ส.ส.ทั้งหมดไปหนุนใครบางคนที่กุมอำนาจอยู่ในปัจจุบัน ให้ขึ้นเป็นนายกฯ แล้วตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ ก่อนจะลงท้ายด้วยการนิรโทษกรรมทางการเมือง ที่มีทั้งตนและน้องสาวให้พ้นผิดก็ได้ แต่ถ้าเหลี่ยมประเมินว่า เงินและการโกงจะทำให้ตนชนะการเลือกตั้ง มีเสียงข้างมากในสภาฯ ได้ เหลี่ยมอาจทุ่มเงินเข้ายึดอำนาจรัฐอีกครั้งเลยก็ได้...”
หนุ่มพิธีกรอดรนทนไม่ไหว เอ่ยปากถามนักข่าวอาวุโสว่า
“ถอดถอนปูเป็นแค่ ‘มวยยกแรก’ ถ้างั้นศึกเหลี่ยมกับ คสช.ก็จะต้องมีมวยยกสอง-ยกสาม-ยกสี่-ยกห้าน่ะสิ พี่คิดว่าใครจะแพ้ใครจะชนะล่ะ?”
บุรุษอาวุโสดื่มด่ำรสชาติกาแฟดำ...ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“คนแดนไกลเหลี่ยมเยอะ ในขณะที่บิ๊กตู่กับพวกก็ใช่ย่อย ลับ-ลวง-พรางจนทำรัฐประหารชนะโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ และสงบราบคาบมาจนทุกวันนี้ ถือว่าบิ๊กตู่กับพวกฝีมือไม่เบาเลยนะ เรื่องความมั่นคงบิ๊กตู่กับ คสช.สอบผ่าน ถึงจะเป็นการสงบเพียงแค่ชั่วคราวก็ตาม ส่วนใครจะแพ้-ใครจะชนะนั้น ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินตอนนี้...”
นักข่าวด้านเศรษฐกิจกล่าวเสริมว่า
“แต่เรื่องเศรษฐกิจบิ๊กตู่สอบตกนะ เพราะแก้ปัญหายังไม่ตรงเป้า โดยเฉพาะราคาพลังงานต่างๆ ยังขายแพงกว่าราคาในตลาดโลกเยอะเลย ทำให้ค่าไฟฟ้าแพงเกินจริง ตามไปด้วยต้นทุนการผลิต-การขนส่ง-การทำธุรกิจ ในแทบทุกมิติก็สูงตาม ส่งผลให้สินค้าทุกชนิดแพงเกินจริง ทำให้คนจนและชนชั้นกลางในสังคมทุนนิยมสามานย์ต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส”
นักข่าววัยกลางคน คนเดิมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“บิ๊กตู่จะคืนความสุขให้ชาติและประชาชนได้อย่างถาวร ก็ต่อเมื่อ...เอาคนดีขึ้นปกครองบ้านเมืองได้ และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจเท่านั้นแหละ...จริงไหม?”
ป้าหญิงพูดสรุปตบท้าย…
“คนรักชาติอย่าเพิ่งดีใจ อย่าหยุดแค่นี้นะ ต้องผลัก ‘บิ๊กตู่’ ให้เดินหน้าต่อ ด้วยนิติรัฐนิติธรรมเพื่อการปรองดองที่แท้จริง...”
