ผู้ว่าฯจันทบุรี-คณะสงฆ์ประชุมกลางดึกกว่า 2 ชั่วโมง สางปมนมัสการรอยพระพุทธบาท ยอดเขาคิชฌกูฏ สรุปได้ข้อยุติฝ่ายวัดกะทิงเปิดทางผ่าน แลกรับโอนเงิน 30 ล้านสร้างมณฑปหลวงพ่อเขียน คิวรถ 22 คันวิ่งรับ-ส่งจนกว่างานจะสิ้นสุด เฟซบุ๊ค "วัดกะทิงแห่งยอดเขาคิชฌกูฏ"โฟสต์รับรองทางเปิดแล้ว แต่หากประท้วงอีกแสดงว่าคณะสงฆ์จันทบุรีผิดคำพูด ด้านผู้ว่าฯขึ้นเขาขอพรช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
จากกรณีคณะศิษยานุศิษย์หลวงพ่อเขียน ขันธสะโร อดีตเจ้าอาวาสวัดกระทิง และชาวบ้านต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ปิดถนนทางเข้าเขาพระบาทพลวง หมู่ 4 ต.พลวง อ้างว่าคณะสงฆ์ผู้จัดงานประเพณีนมัสการพระพุทธบาทพลวง ปี 2558 ไม่ทำตามข้อตกลงร่วมเมื่อวันที่ 12 ม.ค. คือ 1.คณะสงฆ์ผู้จัดงานต้องโอนเงินเข้ากองทุนเพื่อใช้จัดซื้อสิ่งของขึ้นไปจัดงานบนยอดเขา 10 ล้านบาท 2.ตั้งคณะกรรมการทั้ง 3 ฝ่าย บริหารจัดการและตรวจสอบเงินที่ได้จากการจัดงาน ซึ่งไม่มีความคืบหน้า 3.คิวรถบริการขนของฟรีมีซ้ำซ้อนกัน ขอให้รวมเป็นคิวเดียว และมีกองอำนวยการอยู่ที่วัดกะทิง แต่คณะสงฆ์ไม่ทำตาม ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนวังแซ้ม-บ้านปึก และถนนทางเกวียน หมู่ 4 ขึ้นเขาเพื่อนมัสการรอยพระบาทพลวงแทน
วานนี้(22 มค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.40 น. วันที่ 21 ม.ค. ที่วัดโค้งสนามเป้า ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ประชุมรวมกับพระศรีศาสนโมฬี เจ้าอาวาสวัดโค้งสนามเป้า และรองเจ้าคณะจังหวัด พระครูพุทธบทบริบาล ปัญญาทีโป เจ้าอาวาสวัดพลวง ผู้แทนคณะสงฆ์ 8 วัด พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี คณะศิษย์หลวงพ่อเขียน ขันธสะโร อดีตเจ้าอาวาสวัดวัดกะทิง ฝ่ายทหาร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาท จนล่วงเข้าวันที่ 22 ม.ค.
นายสามารถแถลงภายหลังการประชุมว่า ได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ ทุกฝ่ายเน้นทำเพื่อหลวงพ่อเขียน โดยเงิน 30 ล้านบาทที่คณะสงฆ์เก็บไว้ให้วัดกะทิง ได้ข้อยุติว่าต้องการจัดสร้างมณฑปให้หลวงพ่อเขียน ผู้บุกเบิกงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ซึ่งทุกฝ่ายเห็นด้วย เพราะจะเป็นที่สักการะบูชาของพุทธสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อเขียน ดังนั้นเมื่อมีแบบก่อสร้างมณฑป คณะสงฆ์ก็จะโอนเงิน 30 ล้านบาทให้วัดกะทิง โดยงบก่อสร้างสูงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งรองเจ้าคณะจังหวัดจะถ่ายเอกสารบัญชีเงินฝากในนามของคณะสงฆ์ มอบให้กับทางวัดกะทิงเป็นหลักฐาน รวมทั้งแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านได้ทราบทั่วถึงกัน
ส่วนปัญหาคิวรถ 22 คันซึ่งเป็นคิวใหม่ของวัดกะทิง ที่ประชุมจะให้วิ่งรับ-ส่งไปจนกว่างานจะสิ้นสุดลง ส่วนเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่จะใช้ซื้อสิ่งของขึ้นไปจัดงานบนยอดเขา จะให้ห้างสรรพสินค้าเป็นผู้ถือเงิน และนำสินค้าที่ทางคณะสงฆ์และชาวบ้านต้องการไปส่งให้ โดยจะตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่ายดูแลเพื่อความเป็นธรรม
"ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าจะทำเพื่อหลวงพ่อเขียน ทำให้ปัญหาที่บาดหมางกันมานานยุติลง และเปิดถนนให้ผู้แสวงบุญได้ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง โดยจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีก เพื่อให้งานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ดำเนินไปได้อย่างลุล่วง"
ข่าวแจ้งว่า เวลา 10.00 น. วันที่ 22 ม.ค. เฟซบุ๊ค วัดกะทิงแห่งยอดเขาคิชฌกูฏ โฟสต์ข้อความ "แจ้งข่าวทางเปิดแล้ว" ระบุว่า "จากปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ ได้ข้อยุติแล้วครับ ทางคณะสงฆ์และทางแกนนำวัดกะทิง ได้ทำข้อตกลงกันแล้ว จึงทำให้ปัญหาที่ทุกอย่างคลี่คลาย ทางทุกเส้นที่ปิดได้เปิดใช้ตามปกติ รถคิวสามารถวิ่งรับส่งคนได้ปกติ...นักบุญสามารถขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทได้ตามปกติครับ...(แต่ถ้าวันใดเห็นมีการประท้วงอีก แสดงว่าวันนั้นทางคณะสงฆ์จังหวัดจันทบุรีได้ผิดคำพูดอีกครั้ง)...."
ต่อมา นายสามารถ พร้อมด้วยพระศรีศาสนโมลี ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ขณะที่นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยขึ้นยอดเขาอย่างต่อเนื่อง โดยมีรถพร้อมรองรับประชาชน 121 คัน แยกเป็นคิวล่าง 62 คัน คิวบน 59 คัน วัดกระทิง 22 คัน ส่วนผู้ที่ประสงค์จะเดินขึ้นเขา มีทางลัดแยกจากเส้นทางเดินรถ มีไฟฟ้าส่องสว่างตลอดเส้นทาง ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นอีกทางเลือก ทั้งนี้ ปี 2557 มีพุทธศาสนิกชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงประมาณ 1.2 ล้านคน
จากกรณีคณะศิษยานุศิษย์หลวงพ่อเขียน ขันธสะโร อดีตเจ้าอาวาสวัดกระทิง และชาวบ้านต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ปิดถนนทางเข้าเขาพระบาทพลวง หมู่ 4 ต.พลวง อ้างว่าคณะสงฆ์ผู้จัดงานประเพณีนมัสการพระพุทธบาทพลวง ปี 2558 ไม่ทำตามข้อตกลงร่วมเมื่อวันที่ 12 ม.ค. คือ 1.คณะสงฆ์ผู้จัดงานต้องโอนเงินเข้ากองทุนเพื่อใช้จัดซื้อสิ่งของขึ้นไปจัดงานบนยอดเขา 10 ล้านบาท 2.ตั้งคณะกรรมการทั้ง 3 ฝ่าย บริหารจัดการและตรวจสอบเงินที่ได้จากการจัดงาน ซึ่งไม่มีความคืบหน้า 3.คิวรถบริการขนของฟรีมีซ้ำซ้อนกัน ขอให้รวมเป็นคิวเดียว และมีกองอำนวยการอยู่ที่วัดกะทิง แต่คณะสงฆ์ไม่ทำตาม ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนวังแซ้ม-บ้านปึก และถนนทางเกวียน หมู่ 4 ขึ้นเขาเพื่อนมัสการรอยพระบาทพลวงแทน
วานนี้(22 มค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.40 น. วันที่ 21 ม.ค. ที่วัดโค้งสนามเป้า ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ประชุมรวมกับพระศรีศาสนโมฬี เจ้าอาวาสวัดโค้งสนามเป้า และรองเจ้าคณะจังหวัด พระครูพุทธบทบริบาล ปัญญาทีโป เจ้าอาวาสวัดพลวง ผู้แทนคณะสงฆ์ 8 วัด พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี คณะศิษย์หลวงพ่อเขียน ขันธสะโร อดีตเจ้าอาวาสวัดวัดกะทิง ฝ่ายทหาร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาท จนล่วงเข้าวันที่ 22 ม.ค.
นายสามารถแถลงภายหลังการประชุมว่า ได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ ทุกฝ่ายเน้นทำเพื่อหลวงพ่อเขียน โดยเงิน 30 ล้านบาทที่คณะสงฆ์เก็บไว้ให้วัดกะทิง ได้ข้อยุติว่าต้องการจัดสร้างมณฑปให้หลวงพ่อเขียน ผู้บุกเบิกงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ซึ่งทุกฝ่ายเห็นด้วย เพราะจะเป็นที่สักการะบูชาของพุทธสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อเขียน ดังนั้นเมื่อมีแบบก่อสร้างมณฑป คณะสงฆ์ก็จะโอนเงิน 30 ล้านบาทให้วัดกะทิง โดยงบก่อสร้างสูงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งรองเจ้าคณะจังหวัดจะถ่ายเอกสารบัญชีเงินฝากในนามของคณะสงฆ์ มอบให้กับทางวัดกะทิงเป็นหลักฐาน รวมทั้งแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านได้ทราบทั่วถึงกัน
ส่วนปัญหาคิวรถ 22 คันซึ่งเป็นคิวใหม่ของวัดกะทิง ที่ประชุมจะให้วิ่งรับ-ส่งไปจนกว่างานจะสิ้นสุดลง ส่วนเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่จะใช้ซื้อสิ่งของขึ้นไปจัดงานบนยอดเขา จะให้ห้างสรรพสินค้าเป็นผู้ถือเงิน และนำสินค้าที่ทางคณะสงฆ์และชาวบ้านต้องการไปส่งให้ โดยจะตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่ายดูแลเพื่อความเป็นธรรม
"ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าจะทำเพื่อหลวงพ่อเขียน ทำให้ปัญหาที่บาดหมางกันมานานยุติลง และเปิดถนนให้ผู้แสวงบุญได้ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง โดยจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีก เพื่อให้งานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ดำเนินไปได้อย่างลุล่วง"
ข่าวแจ้งว่า เวลา 10.00 น. วันที่ 22 ม.ค. เฟซบุ๊ค วัดกะทิงแห่งยอดเขาคิชฌกูฏ โฟสต์ข้อความ "แจ้งข่าวทางเปิดแล้ว" ระบุว่า "จากปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ ได้ข้อยุติแล้วครับ ทางคณะสงฆ์และทางแกนนำวัดกะทิง ได้ทำข้อตกลงกันแล้ว จึงทำให้ปัญหาที่ทุกอย่างคลี่คลาย ทางทุกเส้นที่ปิดได้เปิดใช้ตามปกติ รถคิวสามารถวิ่งรับส่งคนได้ปกติ...นักบุญสามารถขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทได้ตามปกติครับ...(แต่ถ้าวันใดเห็นมีการประท้วงอีก แสดงว่าวันนั้นทางคณะสงฆ์จังหวัดจันทบุรีได้ผิดคำพูดอีกครั้ง)...."
ต่อมา นายสามารถ พร้อมด้วยพระศรีศาสนโมลี ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ขณะที่นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยขึ้นยอดเขาอย่างต่อเนื่อง โดยมีรถพร้อมรองรับประชาชน 121 คัน แยกเป็นคิวล่าง 62 คัน คิวบน 59 คัน วัดกระทิง 22 คัน ส่วนผู้ที่ประสงค์จะเดินขึ้นเขา มีทางลัดแยกจากเส้นทางเดินรถ มีไฟฟ้าส่องสว่างตลอดเส้นทาง ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นอีกทางเลือก ทั้งนี้ ปี 2557 มีพุทธศาสนิกชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงประมาณ 1.2 ล้านคน
