จันทบุรี-งานนมัสการรอยพระพุทธบาทตึงเครียด กลุ่มลูกศิษย์วัดกระทิง ที่ปิดถนนทางขึ้นเขาคิชฌกูฏประท้วง เผชิญหน้ากับม็อบชาวบ้าน ที่ไม่พอใจ หลังได้รับความเดือดร้อนในการสัญจรไปมา ทำเอาตำรวจ ทหารต้องระดมกำลังเข้าขวางกลางลำ หวั่น 2 ฝ่ายเปิดศึกถล่มกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มศิษย์วัดกระทิง นำรถบรรทุกดินมาเทปิดถนนสายบ้านพลวง หมู่ 4 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ที่เป็นเส้นทางหลัก ที่ต้องผ่านวัดพลวง ขึ้นไปงานนมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ภายหลังนายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี เข้าไปเจรจาหาข้อยุติ แต่กลับล้มเหลว เนื่องจากทางฝ่ายคณะสงฆ์ไม่ยินยอมที่จะออกมาร่วมเจรจาด้วย อ้างว่าการดำเนินงานทั้งหมดเป็นมติภายในที่ได้รับความเห็นชอบของคณะสงฆ์ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากตัวแทนจังหวัดจันทบุรีเข้าเจรจาล้มเหลว ปรากฏว่าได้มีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ที่ได้รับความเดือนร้อนไม่สามารถถสัญจรไปมาบนถนนสายบ้านพลวงได้ตามปกติ และต้องใช้เส้นทางเลี่ยง ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลออกไปหลายกิโลเมตร ได้ออกมารวมตัวกันประท้วงขับไล่กลุ่มวัดกระทิงให้เปิดถนนดังกล่าว ทำให้ถนนเส้นเดียวกันมีกลุ่มชาวบ้าน 2 กลุ่มยืนประจันหน้ากันในระยะ 400 เมตร จนบรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาคิชฌกูฎ ตำรวจชุดสลายฝูงชน และฝ่ายทหารในจังหวัดจันทบุรี ต้องระดมกำลังกว่า 100 นายเข้ามาควบคุมสถานการณ์แยกทั้ง 2 กลุ่มให้ออกห่างจากกัน
ต่อมาทางกลุ่มศิษย์วัดกระทิง ได้เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน จึงยอมเปิดถนนให้ โดยได้เปลี่ยนจุดปิดถนนด้วยการนำรถบรรทุกหกล้อมาปิดเส้นทางในพื้นที่สายหลักหมู่ 2 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ แทน จากนั้นทางเทศบาลตำบลพลวงจึงได้นำรถแบ็กโฮเล็กมาตักดินที่กลุ่มศิษย์วัดกระทิง นำมาเทปิดถนนสายบ้านพลวง ออกเพื่อเปิดเส้นทางให้ชาวบ้านหมู่ที่ 4 สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติ
ส่วนบรรยากาศการเดินทางขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏ เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทของผู้แสวงบุญ พุทธศาสนิกชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่บริเวณคิวรถวัดพลวง หมู่ 4 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทประจำปี 2558 เป็นไปอย่างเงียบเหงา
ขณะที่พ่อค้า แม่ค้าที่เปิดร้านจำหน่ายสินค้าเริ่มไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น และได้เรียกร้องให้ที่ผู้เกี่ยวข้องเร่งทำการเจราจาหาข้อยุติโดยเร็วเพราะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงาน รวมทั้งยังส่งผลกระทบโดยรวมต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีด้วย และที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้กลุ่มของชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้า ที่ขายสินค้าในวัดพลวง จำนวนหนึ่งก็ได้เคลื่อนขบวนออกมาประจันหน้ากับม็อบของชาวบ้านกลุ่มวัดกระทิง ที่ปิดถนนอยู่ด้วย
น.ส.หนู วิชัยราษฎร์ อายุ 30 ปี แม่ค้าที่ขายดอกไม้ธูปเทียนภายในงานกล่าวว่า หลังจากมีปัญหาชาวบ้านปิดถนนประท้วงทำให้ยอดการขายดอกไม้ธูปเทียนลดลง มีผู้แสวงบุญ ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้ามานมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงบางตา ทำให้ตนเองต้องเสียรายได้ และค่าเช่าพื้นที่หากสถานการณ์ยังไม่ยุติก็อาจจะทำให้ตนเอง และแม่ค้าพ่อค้ารายอื่นๆ อาจจะได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้อย่างแน่นอน
นายวรพล ศุภชล อายุ 42 ปี นักท่องเที่ยว กล่าวว่า ตนและครอบครัวได้เดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงปีนี้เป็นปีแรก และเห็นการปิดถนนประท้วงเช่นนี้ก็รู้สึกไม่ดีเพราะจะทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีเสียหาย จึงอยากให้ยุติโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นปพ. และ อส.ยังคงตรึงกำลังป้องกันการกระทบกระทั่งของทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมทั้งป้องกันคณะศิษย์ของวัดกระทิงที่จะเดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อเข้ามาสมทบเพิ่มเติมในการรวมตัวประท้วงในครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มศิษย์วัดกระทิง นำรถบรรทุกดินมาเทปิดถนนสายบ้านพลวง หมู่ 4 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ที่เป็นเส้นทางหลัก ที่ต้องผ่านวัดพลวง ขึ้นไปงานนมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ภายหลังนายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี เข้าไปเจรจาหาข้อยุติ แต่กลับล้มเหลว เนื่องจากทางฝ่ายคณะสงฆ์ไม่ยินยอมที่จะออกมาร่วมเจรจาด้วย อ้างว่าการดำเนินงานทั้งหมดเป็นมติภายในที่ได้รับความเห็นชอบของคณะสงฆ์ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากตัวแทนจังหวัดจันทบุรีเข้าเจรจาล้มเหลว ปรากฏว่าได้มีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ที่ได้รับความเดือนร้อนไม่สามารถถสัญจรไปมาบนถนนสายบ้านพลวงได้ตามปกติ และต้องใช้เส้นทางเลี่ยง ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลออกไปหลายกิโลเมตร ได้ออกมารวมตัวกันประท้วงขับไล่กลุ่มวัดกระทิงให้เปิดถนนดังกล่าว ทำให้ถนนเส้นเดียวกันมีกลุ่มชาวบ้าน 2 กลุ่มยืนประจันหน้ากันในระยะ 400 เมตร จนบรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาคิชฌกูฎ ตำรวจชุดสลายฝูงชน และฝ่ายทหารในจังหวัดจันทบุรี ต้องระดมกำลังกว่า 100 นายเข้ามาควบคุมสถานการณ์แยกทั้ง 2 กลุ่มให้ออกห่างจากกัน
ต่อมาทางกลุ่มศิษย์วัดกระทิง ได้เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน จึงยอมเปิดถนนให้ โดยได้เปลี่ยนจุดปิดถนนด้วยการนำรถบรรทุกหกล้อมาปิดเส้นทางในพื้นที่สายหลักหมู่ 2 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ แทน จากนั้นทางเทศบาลตำบลพลวงจึงได้นำรถแบ็กโฮเล็กมาตักดินที่กลุ่มศิษย์วัดกระทิง นำมาเทปิดถนนสายบ้านพลวง ออกเพื่อเปิดเส้นทางให้ชาวบ้านหมู่ที่ 4 สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติ
ส่วนบรรยากาศการเดินทางขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏ เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทของผู้แสวงบุญ พุทธศาสนิกชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่บริเวณคิวรถวัดพลวง หมู่ 4 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทประจำปี 2558 เป็นไปอย่างเงียบเหงา
ขณะที่พ่อค้า แม่ค้าที่เปิดร้านจำหน่ายสินค้าเริ่มไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น และได้เรียกร้องให้ที่ผู้เกี่ยวข้องเร่งทำการเจราจาหาข้อยุติโดยเร็วเพราะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงาน รวมทั้งยังส่งผลกระทบโดยรวมต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีด้วย และที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้กลุ่มของชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้า ที่ขายสินค้าในวัดพลวง จำนวนหนึ่งก็ได้เคลื่อนขบวนออกมาประจันหน้ากับม็อบของชาวบ้านกลุ่มวัดกระทิง ที่ปิดถนนอยู่ด้วย
น.ส.หนู วิชัยราษฎร์ อายุ 30 ปี แม่ค้าที่ขายดอกไม้ธูปเทียนภายในงานกล่าวว่า หลังจากมีปัญหาชาวบ้านปิดถนนประท้วงทำให้ยอดการขายดอกไม้ธูปเทียนลดลง มีผู้แสวงบุญ ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้ามานมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงบางตา ทำให้ตนเองต้องเสียรายได้ และค่าเช่าพื้นที่หากสถานการณ์ยังไม่ยุติก็อาจจะทำให้ตนเอง และแม่ค้าพ่อค้ารายอื่นๆ อาจจะได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้อย่างแน่นอน
นายวรพล ศุภชล อายุ 42 ปี นักท่องเที่ยว กล่าวว่า ตนและครอบครัวได้เดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงปีนี้เป็นปีแรก และเห็นการปิดถนนประท้วงเช่นนี้ก็รู้สึกไม่ดีเพราะจะทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีเสียหาย จึงอยากให้ยุติโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นปพ. และ อส.ยังคงตรึงกำลังป้องกันการกระทบกระทั่งของทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมทั้งป้องกันคณะศิษย์ของวัดกระทิงที่จะเดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อเข้ามาสมทบเพิ่มเติมในการรวมตัวประท้วงในครั้งนี้ด้วย