ปิดถนนหลักขึ้นเขาคิชฌกูฏต่อ คณะสงฆ์-ศิษย์วัดพลวงเมินเจรจา

จันทบุรี - เส้นทางหลักขึ้นเขาคิชฌกูฏ ยังถูกปิดตายจากกลุ่มวัดกระทิง ที่นำดินลูกรัง รถบรรทุก 10 ล้อ และกางเต็นท์ปิดเส้นทาง และยังเตรียมขยายปิดเส้นทางสายรองเพิ่ม หวั่นสถานการณ์บานปลาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อปพร.ฝ่ายปกครอง ต้องจัดกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น หลังคณะสงฆ์ และศิษย์วัดพลวงยังไม่ยอมเจรจาด้วย

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มวัดกระทิง ที่ใช้รถดัมป์นำดินมาเทกองปิดเส้นทาง สายบ้านพลวง หมู่ที่ 4 ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นเส้นทางหลักที่ต้องผ่านวัดพลวง ขึ้นไปงานนมัสการรอยพระพุทธบาท

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้ (21 ม.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางดังกล่าวยังถูกปิดตายจากกลุ่มวัดกระทิง ที่ได้นำรถบรรทุก 10 ล้อ ยางรถยนต์ และเต็นท์มากางปิดเส้นทางเพื่อปักหลัก และมีแนวโน้มว่าหากการเจรจาไม่เป็นผล ทางกลุ่มวัดกระทิง จะมีการขยายพื้นที่การปิดเส้นทางสายรอง ที่เป็นเส้นทางเลี่ยงที่จะผ่านขึ้นไปสู่บนยอดเขาคิชฌกูฏได้ คือ สายบ้านบึกด้วย

ทำให้สถานการณ์เริ่มบานปลาย และอาจจะยืดเยื้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อปพร.ฝ่ายปกครอง ต้องจัดกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น พร้อมกับมีการเจรจากับชาวบ้านกลุ่มวัดกระทิง ให้เปิดเส้นทางสายหลักดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถที่เปิดการเจรจาได้ เนื่องจากทางกลุ่มคณะสงฆ์และศิษย์วัดพลวง ไม่ยอมมาร่วมการเจรจาด้วย ทำให้ปัญหายังคงยืดเยื้อ

นอกจากนี้ การปิดถนนสายหลักเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ที่มาแสวงบุญบางส่วนได้เดินทางกลับกันแล้ว รวมทั้งผู้แสวงบุญที่เหมาจองรถบัส และรถตู้มางานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง จังหวัดจันทบุรี บางส่วนได้มีการยกเลิกการเดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงแล้วเช่นกัน เพราะกลัวในความไม่ปลอดภัย

นอกจากนี้ พบว่ากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่บริเวณงานก็จะมีการออกมาประท้วงเช่นกัน เพราะทำให้ขายของไม่ได้ และเสียค่าเช่าพื้นที่ในการขายของไปแล้ว ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะทำให้สถานการณ์อาจตึงเครียด และบานปลายเพิ่มมากขึ้น

น.ส.หนู วิชัยราษฎร์ อายุ 30 ปี แม่ค้าที่ขายดอกไม้ธูปเทียนภายในงานกล่าวว่า หลังจากมีปัญหาชาวบ้านปิดถนนประท้วงทำให้ยอดการขายดอกไม้ธูปเทียนลดลง มีผู้แสวงบุญ ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้ามานมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงบางตา ทำให้ตนเองต้องเสียรายได้ และค่าเช่าพื้นที่ หากสถานการณ์ยังไม่ยุติก็อาจจะทำให้ตนเอง และแม่ค้าพ่อค้ารายอื่นๆ อาจจะได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้อย่างแน่นอน

ส่วน นายวรพล ศุภชล อายุ 42 ปี นักท่องเที่ยว กล่าวว่า ตนเอง และครอบครัวได้เดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงปีนี้เป็นปีแรก และเห็นการปิดถนนประท้วงเช่นนี้ก็รู้สึกไม่ดีเพราะจะทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีเสียหาย จึงอยากให้ยุติโดยเร็ว