ม็อบปิดถนนขึ้นเขาคิชฌกูฏเริ่มประจันหน้ากันหลังเจรจาไม่สำเร็จ

จันทบุรี - เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของกลุ่มลูกศิษย์วัดกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏที่ปิดถนนทางขึ้นเขาคิชฌกูฏ ยังไม่คลี่คลาย ล่าสุด ม็อบทั้ง 2 ฝ่ายเคลื่อนประจันหน้ากัน ทางจังหวัดวอนอย่าใช้ความรุนแรง พร้อมเร่งประสาน 4 ฝ่ายเจรจาหาข้อยุติ

ความคืบหน้าเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงปิดถนนทางขึ้นเขาคิชฌกูฏของกลุ่มชาวบ้าน ลูกศิษย์วัดกระทิง ยังคงปิดถนนทางเข้าวัดพลวง 2 เส้นทาง ด้านวัดพลวงได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เลี่ยงไปใช้ถนนสายวังแซ้ม บ้านปึก และถนนทางเกวียน หมู่ 4 เป็นเส้นทางขึ้นเขาแทนเส้นทางเดิมที่ถูกปิด ขณะที่ นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดจันทบุรี ประสานคณะสงฆ์เพื่อเปิดการเจรจาหาข้อยุติ

เบื้องต้น ทางจังหวัดได้มีหนังสือแจ้งเจ้าคณะจังหวัด ประชุมพระสังฆาธิการที่เกี่ยวข้องก่อนประชุมร่วม 4 ฝ่าย ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง และในเบื้องต้น นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ตัวแทนทหารจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้เดินทางไปพบกับชาวบ้านที่ชุมนุมปิดถนนอยู่ พร้อมขอให้ชาวบ้านชุมนุมอยู่ในความสงบไม่ละเมิด หรือทำผิดกฎหมายที่รุนแรงมากไปกว่านี้ ขอให้ใจเย็น และรอการแก้ไขของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่กำลังเร่งเจรจาให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติ

แต่การเจรจาไม่เป็นที่พอใจของกลุ่มชาวบ้านที่ชุมนุมประท้วงที่มองว่า คณะสงฆ์พยายามถ่วงเวลา และขอให้จังหวัดปิดงานเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฏปีนี้ไปก่อน 15 วัน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาหาข้อยุติ

ล่าสุด ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ได้ขอความร่วมมือให้กลุ่มวัดกระทิงที่ปิดถนนประท้วงได้เปลี่ยนจุดการปิดถนนออกไปอยู่บนถนนสายหลัก หมู่ที่ 2 บริเวณสะพานคลองหนมแทน ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 1 กิโลเมตร เพราะการไปปิดถนนบริเวณหมู่ที่ 4 ตำบลพลวง ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ไม่สามารถนำบุตรหลานผ่านเข้าออกไปส่งโรงเรียนได้สะดวก และต้องใช้เส้นทางเลี่ยงซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลออกไปหลายกิโลเมตร

จากข้อเสนอดังกล่าว ทำให้กลุ่มวัดกระทิงเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านจึงได้ยอม และได้เปลี่ยนจุดปิดถนนโดยการนำรถ 6 ล้อมาปิดเส้นทางอยู่ในพื้นที่ถนนสายหลัก หมู่ที่ 2 ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรีแทน

จากนั้นทางเทศบาลตำบลพลวง จึงได้นำรถแบ็กโฮเล็กมาตักดินที่กลุ่มวัดกระทิง มาปิดถนนออกเพื่อเปิดเส้นทางให้ชาวบ้านหมู่ที่ 4 สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ต่อไป

ส่วนบรรยากาศของการเดินทางขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏ ของผู้แสวงบุญ พุทธศาสนิกชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่คิวรถวัดพลวง เป็นไปอย่างเงียบเหงา ประชาชนที่รู้เส้นทางจะนำรถส่วนตัววิ่งอ้อมเข้ามาจอดที่ลานวัดพลวง และขึ้นรถบริการตามปกติแต่ไม่คึกคัก ร้านค้าที่เปิดจำหน่าย พ่อค้าแม่ค้าเริ่มไม่มั่นใจสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น และขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งเจราจาหาข้อยุติโดยเร็วเพราะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงาน

รวมทั้งส่งผลกระทบโดยรวมต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรี และที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้กลุ่มของชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าในวัดพลวงจำนวนหนึ่งได้เคลื่อนขบวนม็อบออกมาประจันหน้ากับม็อบของชาวบ้านกลุ่มวัดกระทิงที่ปิดถนนอยู่

โดยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นปพ. และ อส.ตรึงกำลังป้องกันการกระทบกระทั่งของทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมทั้งป้องกันคณะศิษย์ของวัดกระทิง ที่จะเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาสมทบเพิ่มเติมในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้ของทั้ง 2 ฝ่าย

ล่าสุด ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้จัดกองร้อยควบคุมฝูงชน 150 นาย ลงพื้นที่เพื่อป้องกันดูเเลรักษาความสงบ และป้องกันกลุ่มวัดกระทิง และกลุ่มวัดพลวงเกิดการปะทะกัน