xs
xsm
sm
md
lg

GPSCเลื่อนเข้าตลาดหุ้นเป็นQ2/58ปรับแผนธุรกิจใหม่หลังดีมานด์ไฟวูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - GPSC เลื่อนเข้าตลาดหุ้นเป็น Q2/58 หลังจากตลาดหุ้นผันผวน พร้อมปรับแผนธุรกิจหันไปรุกทำโรงไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้านและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน หลังความต้องการใช้ไฟฟ้าในไทยหด มั่นใจเพิ่มกำลังการผลิตไฟได้อย่างน้อยปีละ 200เมกะวัตต์ ยันปีนี้ฟันกำไร 2พันล้านบาท

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ซึ่งดำเนินธุรกิจไฟฟ้าในเครือปตท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ GPSCอยู่ระหว่างตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในไตรมาส 2 /2558 เลื่อนจากเดิมที่กำหนดไว้ในไตรมาส 1/2558
คาดว่าจะระดมทุนจากการขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (IPO)ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท นับเป็นบริษัทแรกในกลุ่มปตท.ที่เข้าตลาดหุ้นในปีนี้

ปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 1.8 -2 พันเมกวัตต์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 6 พันเมกะวัตต์ในอนาคต แต่เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในไทยลดลงเมื่อปีที่แล้วและการปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP)ใหม่ ทำให้บริษัทต้องปรับปรุงเป้าหมาย โดยหันมาขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มในประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาวและเมียนมาร์เพื่อจำหน่ายไฟเข้าไทย
อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรี สปป.ลาว ที่ GPSC ถือหุ้น 25% รวมทั้งรุกธุรกิจไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียนทั้งไบโอแมส และโรงไฟฟ้าขยะ เป็นต้น

ทั้งนี้ GPSC อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP 2 โครงการในไทย และร่วมทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่สปป.ลาว เช่นโรงไฟฟ้าไซยะบุรี กำลังผลิต 1,280 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าน้ำลิก กำลังผลิต 65 เมกะวัตต์ เป็นต้น ทำให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 200 เมกะวัตต์เป็นเวลา 4-5 ปีข้างหน้า

“ บริษัทฯยังสนใจลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เมียนมาร์ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้ามะริด ขนาดกำลังผลิต 1.8 พันเมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้โครงการ หลังจากนั้นคงต้องรอว่าเมียนมาร์จะเลือกเอกชนรายใดเป็นผู้ทำโครงการนี้”

นายสุรงค์ กล่าวต่อไปว่า GPSC มีความได้เปรียบบริษัทผลิตไฟฟ้าอื่นตรงที่ปตท.ซึ่งเป็นบริษัทแม่ มีธุรกิจเหมืองถ่านหินอยู่ในอินโดนีเซีย มียอดขายถ่านหินเฉลี่ย 10 ล้านตัน/ปี เนื่องจากราคาถ่านหินปรับตัวลดลงเหลือ 60เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้บริษัทไม่เร่งผลิตถ่านหินเพิ่ม แต่จะหันมาซื้อถ่านหินเพื่อมาผสมกับถ่านหินของปตท.ที่ผลิตเพื่อจำหน่าย
คาดราคาถ่านหินเฉลี่ยปีนี้อยู่ 60 เหรียญสหรัฐ/ตันต่ำกว่าปีก่อนที่เฉลี่ย 65-70 เหรียญสหรัฐ/ตัน ผลการดำเนินงานของGPSC ในปีนี้คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 2 พันล้านบาท ทรงตัวใกล้เคียงปี2557 เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าใหม่เข้ามาเพิ่มในช่วงปลายปี 2558

ปัจจุบัน GPSC มีสินทรัพย์รวม 4 หมื่นล้านบาท ถือหุ้นโดย บมจ.ปตท. สัดส่วน 30.10% บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) สัดส่วน 30.31% บมจ.ไทยออยล์ (TOP) สัดส่วน 11.8% และ บริษัท ไทยออยล์ พาวเวอร์ ถือ 27.71%
ในปี2558 ปตท.ยังเตรียมขายหุ้น บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP)ที่ถืออยู่ 27.2% ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาของคณะกรรมการ BCP คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนม.ค.นี้ และจะขายหุ้นโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟนิ่ง(SPRC)ในครึ่งปีหลัง 2558 เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจการกลั่นไม่ค่อยดีสืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงทำให้โรงกลั่นขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมาก

นอกจากนี้ ปตท.ยังดำเนินการแยกธุรกิจท่อก๊าซฯออกมาเป็นบริษัท เพื่อเปิดให้บุคคลภายนอกสามารถเข้ามาใช้ท่อก๊าซฯได้ตามนโยบายของรัฐ แต่เนื่องจากยังมีข้อพิพาทเรื่องการโอนสินทรัพย์ท่อก๊าซฯ ทำให้ต้องรอการชี้ขาดจากกฤษฎีกาก่อนที่จะดำเนินการจัดตั้งเป็นบริษัทได้ในอีก 9 เดือนถัดไป
กำลังโหลดความคิดเห็น