xs
xsm
sm
md
lg

ยึดสมุดบัญชี-ทอง-โฉนดเพียบ ค้นบ้านผอ.คลังฯ ผู้ต้องหาซัดทอดกันวุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - กองปราบบุกค้นบ้านผอ.ส่วนคลังสถาบันเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ยึดเอกสาร รวมทั้งเอกสารการเป็นผู้จัดการมรดกอีกหลายฉบับ ไว้ตรวจสอบ ด้านหลานยันทั้งคู่สนิทสนมกันมาประมาณ 2 ปี โดยผู้เป็นอาอ้างว่าถูกผจก.แบงก์หลอกให้เซ็นเอกสารมาโดยตลอด ด้านนศ.ปริญญาโท เจ้าของบัญชี 85 ล้าน ซัดทอดละครตัวใหม่หลอกให้เปิดบัญชี โดยตร.ไม่ปักใจเชื่อเตรียมขยายผลสอบตามคำซัดทอดต่อไป จนท.หอบเอกสารหลักฐานการโอนเงินย้อนหลังตั้งแต่ปี 55 ให้ตรวจสอบ พบมีบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องกับการยักยอกเพิ่มอีก 2 ราย กันเป็นพยานนศ.ปริญญาโท เพื่อขยายผลตามคำซัดทอด

วานนี้ (25 ธ.ค.) พ.ต.ต.ณรงค์ชัย เอกฉันท์ สว.กก.1.บก.ป. ร.ต.อ.กันต์กวี อดุลยาศักดิ์ ร.ต.ท.ณัฐกรณ์ แสงทวีสุข รองสว.กก.1.บก.ป. นำกำลัง พร้อมหมายศาลค้นของศาลจังหวัดพระโขนง เลขที ค.98/2557 เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 562 ซอยจ่าโสต ย่านบางนา ซึ่งเป็นบ้านของ นางสาวอำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้ต้องหาที่ร่วมกับนายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์ ยักยอกทรัพย์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง จนทำให้เกิดความเสียหาย เป็นมูลค่า 1,600 ล้านบาท โดยมีนายผดุงศักดิ์ อ่อนละเอียด หลานชายนางสาวอำพร เป็นผู้ดูแลบ้าน

จากการตรวจค้นบ้านดังกล่าว พบว่าเป็นบ้านไม้สูง 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ100 ตร.วา บริเวณชั้นล่างเป็นห้องนอนของน.ส.อำพร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบกล้องถ่ายรูป เอกสารใบแจ้งหนี้ จดหมายจากทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังพบหนังสือเดินทางของน.ส.อำพรอยู่ที่บริเวณห้องดังกล่าว ตลอดจนนำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ซึ่งเป็นของนายผดุงศักดิ์มาทำการตรวจสอบด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบที่บริเวณขั้นสองของตัวบ้าน ซึ่งมี 4 ห้องนอน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบสมุดบัญชีเงินฝากนับสิบเล่ม โฉนดที่ดินจำนวนมาก ทองรูปพรรณจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นของหลานชายน.ส.อำพร กรมธรรม์ประกันชีวิตของน.ส.อำพรหลายฉบับ ตลอดจนใบรับรองการเป็นผู้จัดการมรดกหลายรายการ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อไปตรวจสอบ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโซลูน่า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน วณ6503 กทม. และรถยนต์กะบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ก สีน้ำเงิน ศณ 2423 กทม. ซึ่งเป็นของนายผดุงศักดิ์ เบื้องต้นไม่พบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับน.ส. อำพรแต่อย่างใด

ด้านนายผดุงศักดิ์ เปิดเผยว่านางสาวอำพร รู้จักกับนายทรงกลด มาประมาณ 2 ปี ตั้งแต่ตอนที่นายทรงกรดทำงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์ และทั้งคู่สนิทสนมกัน ซึ่งทันทีที่เกิดเรื่อง ทางครอบครัวก็รู้สึกตกใจมาก และได้มีการพูดคุยกันแล้ว โดยนางสาวอำพร เล่าว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ถูกนายทรงกลด หลอกลวงให้เซ็นเอกสารมาโดยตลอด และตนไม่รู้จะกับนายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นักศึกษาปริญญาโท เจ้าบัญชีธนาคาร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าคุณอาของตนถูกหลอกใช้ เพราะระยะหลังนายทรงทรดได้เดินทางมาตีสนิทและเข้ามาคลุกคลีกับครอบครัวบ่อยครั้ง ระยะหลังมาถี่ขึ้น บางครั้งนายทรงกรดเดินทางไปต่างจังหวัดก็จะแวะซื้อของฝากมาให้ และก็จะคอยอาสาขับรถมารับส่งให้คุณอาจากที่ทำงานกลับมาบ้านบ่อยครั้ง ในส่วนของธุรกรรมการเงินของน.ส.อำพร นายทรงกรดก็จะอาสาเป็นธุระดำเนินการให้อยู่ตลอด รวมทั้งนายทรงกรดก็จะอ้างว่าเป็นคนมีเงิน ฐานะทางบ้านดี หนำซ้ำยังอ้างว่าสามารถขายที่ดินได้เป็นล้านบาท ซึ่งตนก็เคยเตือนน.ส.อำพรว่าอย่าไปไว้เนื้อเชื่อใจมาก แต่น.ส.อำพรได้บอกเพียงว่าไม่มีอะไร คบและรู้จักกันในฐานะพี่น้องเท่านั้น ตนเชื่อว่าคุณอาของตนเป็นคนดี ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เริ่มทำงานที่เทคโนลาดกระบังตั้งแต่เรียนจบจากวิทยาลัยครู รวมทั้งไม่เคยมีปัญหากับใคร ชอบช่วยเหลือคน เพื่อนร่วมงานต่างให้ความเคารพ และจะไม่นำเรื่องงานกลับมาทำงานต่อที่บ้าน อย่างไรก็ตามคุณอาของตนนั้นเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดัน รวมทั้งโรคไต ซึ่งเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำเพราะมีโรคประจำตัว ทั้งนี้ก่อนที่จะถูกแจ้งข้อหาก็พักรักษาตัวอยู่ที่รพ.ประมาณ 2 สัปดาห์ จนถึงขณะนี้ อย่างไรก็ตามดีทุกครั้งที่ตนและครอบครัวไปเยี่ยมน.ส.อำพรก็จะพูดว่าท้อแท้ และหมดกำลังใจ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับน.ส.อำพรด้วย

พ.ต.ต.ณรงค์ชัย กล่าวว่า การตรวจค้นบ้านของน.ส.อำพรในครั้งนี้เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงในทางคดี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร ซึ่งคดีนื้ทางผู้บังคับบัญชาได้แบ่งงานออกเป็นหลายชุดในการลงพื้นที่ ตรวจสอบหาข้อมูลพยานหลักฐาน และจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบสมุดบัญชีเงินฝาก โฉนดที่ดิน ของบรรดาญาติของน.ส.อำพร หลายรายการ แต่มีโฉนดที่ดินจำนวน 6 ไร่ที่อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ที่เป็นของน.ส.อำพร รวมทั้งเอกสารการเป็นผู้จัดการมรดกอีกหลายฉบับ ซึ่งหลังจากนี้จะเก็บรวบรวมเพื่อนำไปตรวจสอบ และในส่วนของสมุดบัญชีของญาติก็จะให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบการเคลื่อนไหวในบัญชีเปรียบเทียบกับรายได้จริงว่าพบความผิดปกติหรือไม่ อย่างไรก็ตามทางญาติให้การว่าสมุดบัญชีเงินฝากบางส่วนอยู่ที่ทนายความ ซึ่งมาเอาไปเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่น.ส.อำพรจะถูกดำเนินคดี

รายงานฝ่ายสืบสวนระบุว่านอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบโฉนดที่ดินของน.ส.อำพร ที่ย่านบางนา ซึ่งมีมูลค่าหลายล้าน ซึ่งจะนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด รวมทั้งในส่วนของการตรวจค้นนั้นประเด็นหลักเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่ตรายางของสถาบัน ว่าน.ส.อำพรมีการทำปลอมแปลงหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบ อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำนายผดุงศักดิ์นั้น ขัดแย้งกับคำให้การของนายทรงกรด ที่ให้การกับทางพนักงานสอบสวนวานนี้ ว่าไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกับทางอำพรแต่อย่างใด รวมทั้งนายทรงกรดให้การว่ารู้จักกับน.ส.อำพรตอนทำงานที่ธนาคารกรุงศรี ซึ่งขัดแย้งกับหลานชายที่ให้การว่าทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่ตอนที่นายทรงกรดทำงานอยู่ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ และพบความเชื่อมโยงในประเด็นหลายอย่าง รวมทั้งพยานหลายปากให้การตรงกันว่า นายทรงกรดเคยมาขอให้น.ส.อำพร เอาเงินมาฝากเพื่อที่จะทำยอดให้กับทางธนาคาร

***นศ.ปริญญาโทปัดเอี่ยวยักยอกเงิน

ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ อายุ 26 ปี นักศึกษาปริญญาโท เข้าพบ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาการ ผกก. 1 บก.ป.ภายหลังปรากฏชื่อในบัญชีที่เกี่ยวข้องกับคดีการยักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

โดยนายพูลศักดิ์ ให้การอ้างว่า เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีเพื่อนขอให้ช่วยเปิดบัญชีในชื่อของตน 1บัญชี จากนั้นก็มียอดเงินโอนมาในบัญชีจำนวน 85 ล้านบาท ซึ่งตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร ต่อมาเพื่อนคนดังกล่าวก็สั่งให้โอนเงินไปยังบัญชีอื่นๆ อีก 3 ครั้ง จนเหลือเงินในบัญชีเพียง 24 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตนขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นการยักยอกเงินดังกล่าวและทำตามที่เพื่อนสั่งเท่านั้น

ด้าน พ.ต.อ.จิรเดช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายพูลศักดิ์ จากนี้จะเร่งตรวจสอบบุคคลที่ในนายพูลศักดิ์ให้การซัดทอด อยู่ระหว่างขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ขณะที่ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป.หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ เปิดเผยภายหลังประชุมพนักงานสอบสวนติดตามความคืบหน้าคดี โดยเช้านี้ได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เป็น 2ชุด นำหมายค้นเข้าตรวจค้น 2 จุดพร้อมกัน คือที่สถาบันฯ ลาดกระบัง และบ้านพักย่านบางนา ของนางสาวอำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนการคลัง สถาบันดังกล่าวที่ตกเป็นผู้ต้องหา ส่วนการอายัดตัวนางสาวอำพร ที่กำลังพักรักษาอาการป่วยที่โรงพยาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางนานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานโรงพยาบาลตำรวจเพื่อรับตัวมาเพื่ออยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ได้อย่างเข้มงวด พร้อมกับยึดเอกสารภายในตู้เซฟ และเอกสารการเงินจำนวนมากมาทำการตรวจสอบเพื่อหาเส้นทางการโอนเงินต่อไป

****หอบหลักฐานโอนเงินย้อนหลัง

น.ส.วรวรรณ สุวรรณกูฎ ผอ.ฝ่ายนิติกร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พร้อมด้วย น.ส.ลำดวน ทินราช รักษาการ ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันดังกล่าว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาราชการแทน ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีลักทรัพย์เงินกองกลางของสถาบันแห่งนี้ รวมเป็นเงินกว่า 1,600 ล้านบาท โดยได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงิน เส้นทางการเบิกถอนและโอนเงินตั้งแต่ปี 2555-ปัจจุบัน มามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสอง

พ.ต.ท.พงษ์ไสว กล่าวว่า หลังจากที่ น.ส.วรวรรณ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก ศ.ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีฯลาดกระบัง เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องการการลักทรัพย์เงินกองกลางของสถานบันแห่งนี้ไปกว่า 1,600 ล้านบาท นั้น ในวันเดียวกันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้ น.ส.วรวรรณ และ น.ส.ลำดวน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทน น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเนื่องจากมีประเด็นที่พนักงานสอบสวนต้องการข้อมูลทางคดีอีกหลายส่วน พร้อมกันนั้นได้ขอให้นำเอกสารการโอนเงินจากบัญชีธนาคารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบด้วย

****เรียกสอบเพิ่ม 2 เจ้าของบัญชียักยอก

พ.ต.ท.พงษ์ไสว กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานที่ได้รับมาในเบื้องต้นพบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกอย่างน้อย 2 รายซึ่งมีรายชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ได้รับการโอนเงินจากผู้ต้องหาในคดีนี้ประกอบด้วย นายกิติศักดิ์ มัทธุจัด และ นายจริวัฒน์ สหพรอุดมกา รโดยพบว่าเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ต้องหาซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไปว่ามีเจตนาหรือรู้เห็นกับการกระทำความผิดมากน้อยแค่ไหน

พ.ต.ท.พงษ์ไสว กล่าวด้วยว่า ส่วนนายพูลศักดิ์ ในขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังคงสอบปากคำโดยกันตัวไว้เป็นพยานก่อน แต่จะมีการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ และเสนอต่อที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวน ที่มี พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป.เป็นหัวหน้าคณะ อีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าการกระทำของนายพูลศักดิ์ นั้นอยู่ในขั้นไหนหากพบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วยจึงจะพิจารณาขออนุมัติศาลออกหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

*** ธ.กรุงศรีฯ ยันสอบประวัติก่อนรับทำงาน

ตามรายงานข่าวที่ปรากฏเกี่ยวกับอดีตพนักงาน นายทรงกลด ศรีประสงค์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงเพิ่มเติมว่านโยบายและกระบวนการสรรหาและว่าจ้างบุคลากรของธนาคารกำหนดให้มีการตรวจสอบประวัติกับสถานที่ทำงานเดิม รวมถึงประวัติอาชญากรรมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งในกรณีของบุคคลดังกล่าว การตรวจไม่พบมีประวัติเสียหายหรือความผิดปกติอันใด

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้กำหนดระยะเวลาทดลองงานไม่น้อยกว่า 90 วัน ก่อนที่จะบรรจุเป็นพนักงานประจำ ซึ่งเป็นมาตรฐานในการจ้างงานของทุกองค์กร รวมถึงอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ ซึ่งนายทรงกลด ศรีประสงค์ ได้เข้าทดลองงานกับธนาคารเมื่อเดือนมีนาคม 2557 และได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานแล้ว

ทั้งนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างการประสานงานและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการให้ข้อมูลเพื่อใช้ในการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นายทรงกลด ศรีประสงค์ ปฎิบัติหน้าที่ผู้จัดการสาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์

ค้นบ้านผอ.คลัง -น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ยึดเอกสารไว้ตรวจสอบโดยมีนายผดุงศักดิ์ อ่อนละเอียด หลานผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
กำลังโหลดความคิดเห็น