xs
xsm
sm
md
lg

กนง.คงดอกเบี้ยอุ้มแบงก์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-บอร์ด กนง. รักษาผลประโยชน์ธนาคารพาณิชย์ ลงมติ 5 ต่อ 2 คงดอกเบี้ย 2% อ้างรักษาเสถียรภาพทางการเงินระยะยาว มั่นใจเงินฝืดไม่เกิดตลอดช่วง 2 ปี แต่ยอมรับเศรษฐกิจไทยแย่กว่าที่คิด ส่วนปีหน้าเชื่อเศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัว หลังเศรษฐกิจโลกดีขึ้น แต่ความเสี่ยงก็มากขึ้น พร้อมจับตาปัญหารัสเซียใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วานนี้ (17 ธ.ค.) ว่า ผลการประชุมผิดไปจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ว่า กนง. จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจาผลการประชุมมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงดอกเบี้ยที่ระดับ 2% ต่อไป โดยนายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ กนง. แถลงให้เหตุผลว่า กรรมการส่วนใหญ่ ประเมินว่า นโยบายการเงินในปัจจุบันยังผ่อนปรนเพียงพอต่อเศรษฐกิจที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวในปี 2558 และสอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว

"นโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนปรนในระยะต่อไป เพื่อช่วยประคองให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งขึ้น ส่วนขนาดผ่อนปรน ขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ออกมา โดยกรรมการมองว่าการเร่งการใช้จ่ายภาครัฐให้เป็นไปตามเป้าหมายเป็นปัจจัยสำคัญเศรษฐกิจไทยในขณะนี้"

ส่วนกรรมการอีก 2 เสียง ให้เหตุผลว่า ควรผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เพื่อช่วยเพิ่มแรงสนับสนุนต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแรงกว่าที่คาด ในสภาวะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก จะเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นและเงินเฟ้อจะคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง

นายเมธีกล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้ กรรมการไม่ได้ประเมินทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้ายในระยะต่อไป แต่เน้นด้านภายในประเทศเป็นสำคัญ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพการเงิน โดยหยิบยกเรื่องภาพรวมเสถียรภาพการเงินหารือกันว่าช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีการเก็งกำไรในบางจุด กล่าวคือ ราคาสินทรัพย์บางประเภทเพิ่มขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงในตลาดหุ้นด้วย ส่วนหนึ่งเกิดจากดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยแท้จริงยังติดลบอยู่ และพฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะช่วงปลายปีนี้

ทั้งนี้ ในรายงานการประชุม กนง. (ฉบับย่อ) ครั้งที่ 7/2557 ซึ่งเป็นผลการประชุมเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า พฤติกรรรมการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นบ้าง โดยเฉพาะมีสัญญาณการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาหุ้นบริษัทขนาดกลางและเล็ก ส่วนผลการประชุมร่วม กนง. และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา เห็นว่าพฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทนสูงขึ้น (Search for yield) รวมถึงการเก็งกำไรในสินทรัพย์ ซึ่งหากมีการประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไปจะก่อให้เกิดความเปราะบางทางการเงินได้

ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ไม่ได้แย่ โดยกรรมการมองว่าแนวโน้มการฟื้นตัวในปี 2558 ยังมีอยู่ แม้แรงไม่เท่าประเมิน ทำให้อัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยในปี 2557 และ 2558 ต่ำกว่าประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 1.5% และ 4.8% ตามลำดับ ซึ่งจะประกาศประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยใหม่ในรายงานนโยบายการเงินวันที่ 26 ธ.ค.นี้ โดยเหตุผลสำคัญ มาจากแรงกระตุ้นการใช้จ่ายภาคคลังน้อยกว่าคาด ซึ่งมีผลการลงทุนภาคเอกชนด้วย นอกจากนี้ การฟื้นตัวของการส่งออกสินค้ามีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวดีขึ้น แต่ยังต่ำกว่าปกติ

สำหรับปัจจัยด้านราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ราคาน้ำมันภายในประเทศลดลงตามนั้น ทาง ธปท. ได้ประมาณการอัตราเงินเฟ้อระยะข้างหน้า มองว่าช่วง 2 ปีนี้ ประเทศไทยจะไม่เผชิญภาวะเงินฝืด แม้จะมีความเป็นไปได้ในบางช่วงเวลา อัตราเงินเฟ้ออาจจะติดลบบ้าง แต่ค่ากลางอัตราเงินเฟ้อโดยรวมจะไม่ติดลบ ส่วนอัตราเงินเฟ้อลดลงจะกดดันแนวทางการดำเนินนโยบายหรือไม่นั้น ขึ้นกับข้อมูลว่าจะมีพัฒนาการในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีหน้า เศรษฐกิจโลกขยายตัวดีกว่าปีนี้ แต่ความเสี่ยงมีมากขึ้น โดยเฉพาะการเติบโตในยุโรปและญี่ปุ่น กรณีความเสี่ยงเกิดจากประเทศรัสเซีย แม้กระทบประเทศไทยไม่มาก แต่คาดว่าจะผ่านมายังยุโรปและจีนมากกว่า ขณะเดียวกันต้องติดตามด้านการเงินของรัสเซีย เพราะรัสเซียมีเจ้าหนี้ในประเทศยุโรปค่อนข้างมาก จึงอาจกระทบการผ่อนชำระหนี้ได้ ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นตามมาด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น