ASTVผู้จัดการรายวัน – “น้ำค้างธรรมชาติ” บริษัทไทยรายแรกของโลก ส่ง “ดิวเวลเนสส์” สเปรย์น้ำค้างบริสุทธิ์ลุยตลาดบิวตี้ ปูทาง 3 ปี สร้างรายได้หลักด้วยสัดส่วน 60% พร้อมรายได้ 500 ล้านบาท
นายณัฐพนธ์ ณรงค์สรศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำค้างธรรมชาติ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำดื่มจากน้ำค้างธรรมชาติมาตั้งแต่ปี 2554 โดยมีเป้าหมายใน 3 ปีหลังจากนี้ จะต้องมีผลิตภัณฑ์จากน้ำค้างแบบครบวงจร ประกอบด้วย น้ำดื่ม, บิวตี้ และฟังชัลนอลดริ้ง เป็นต้น
โดยในช่วง1ปีที่ผ่านมาได้เริ่มทดลองจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ สเปรย์น้ำค้างบริสุทธิ์ ภายใต้แบรนด์ ดิวเวลเนสส์ (DEWellness) ยังประเทศสวิซเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นรายแรกของโลกที่พัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และทำตลาดในต่างประเทศกลุ่มเอเชีย เออีซีก่อน เริ่มจาก ญี่ปุ่นเกาหลี ลาว และเวียดนามผ่านตัวแทนจำหน่าย
ส่วนในไทยจะจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์เครื่องสำอางในกลุ่มเดอะมอลล์ และเซ็นทรัล ขนาด 50 มล. ราคา 650 บาท โดยได้รับเกียรติจาก เจ้าหญิง Princess Xenia of Saxony แห่งประเทศเยอรมัน มาเป็น แบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วย เชื่อว่าในปี2558 รายได้จะสูงถึง 240 ล้านบาท มาจากสเปรย์น้ำค้าง 80% และน้ำดื่ม 20% จากปีนี้ปิดที่ประมาณ 100 ล้านบาท มาจากน้ำดื่มเพียงอย่างเดียว
นายณัฐพนธ์ กล่าวต่อว่า ปีหน้าบริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 3 ตัว คือ เซรั่ม เดย์ครีม และไนท์ครีม จากงบการลงทุนรวม 200 ล้านบาท ทั้งด้านการวิจัยและการผลิตในช่วง 3 ปีหลังจากนี้ โดยมั่นใจว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า จะมีรายได้อยู่ที่ 500 ล้านบาท มาจาก บิวตี้ 60% น้ำดื่ม 10% ฟังก์ชั่นนอลดริ้งและอื่นๆอีก 30%
ปัจจุบัน น้ำดื่มจากน้ำค้างธรรมชาติ มีการส่งออกไปยัง 11 ประเทศแล้ว เช่น ออสเตรีย เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี และฝรั่งเศส เป็นต้น โดยมีฐานผลิตที่ประเทศไทย จากฟาร์มน้ำค้างขนาด 1,200ไร่ ที่เขาใหญ่ และผลิตจากโรงงานที่ ลาดกะบัง ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิต น้ำดื่ม1,200 ขวดต่อวัน ขนาด 200-250 มล. และสเปรย์น้ำค้างอยู่ที่ 8,000 ขวดต่อวัน ขนาด 50 มล.
นายณัฐพนธ์ ณรงค์สรศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำค้างธรรมชาติ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำดื่มจากน้ำค้างธรรมชาติมาตั้งแต่ปี 2554 โดยมีเป้าหมายใน 3 ปีหลังจากนี้ จะต้องมีผลิตภัณฑ์จากน้ำค้างแบบครบวงจร ประกอบด้วย น้ำดื่ม, บิวตี้ และฟังชัลนอลดริ้ง เป็นต้น
โดยในช่วง1ปีที่ผ่านมาได้เริ่มทดลองจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ สเปรย์น้ำค้างบริสุทธิ์ ภายใต้แบรนด์ ดิวเวลเนสส์ (DEWellness) ยังประเทศสวิซเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นรายแรกของโลกที่พัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และทำตลาดในต่างประเทศกลุ่มเอเชีย เออีซีก่อน เริ่มจาก ญี่ปุ่นเกาหลี ลาว และเวียดนามผ่านตัวแทนจำหน่าย
ส่วนในไทยจะจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์เครื่องสำอางในกลุ่มเดอะมอลล์ และเซ็นทรัล ขนาด 50 มล. ราคา 650 บาท โดยได้รับเกียรติจาก เจ้าหญิง Princess Xenia of Saxony แห่งประเทศเยอรมัน มาเป็น แบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วย เชื่อว่าในปี2558 รายได้จะสูงถึง 240 ล้านบาท มาจากสเปรย์น้ำค้าง 80% และน้ำดื่ม 20% จากปีนี้ปิดที่ประมาณ 100 ล้านบาท มาจากน้ำดื่มเพียงอย่างเดียว
นายณัฐพนธ์ กล่าวต่อว่า ปีหน้าบริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 3 ตัว คือ เซรั่ม เดย์ครีม และไนท์ครีม จากงบการลงทุนรวม 200 ล้านบาท ทั้งด้านการวิจัยและการผลิตในช่วง 3 ปีหลังจากนี้ โดยมั่นใจว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า จะมีรายได้อยู่ที่ 500 ล้านบาท มาจาก บิวตี้ 60% น้ำดื่ม 10% ฟังก์ชั่นนอลดริ้งและอื่นๆอีก 30%
ปัจจุบัน น้ำดื่มจากน้ำค้างธรรมชาติ มีการส่งออกไปยัง 11 ประเทศแล้ว เช่น ออสเตรีย เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี และฝรั่งเศส เป็นต้น โดยมีฐานผลิตที่ประเทศไทย จากฟาร์มน้ำค้างขนาด 1,200ไร่ ที่เขาใหญ่ และผลิตจากโรงงานที่ ลาดกะบัง ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิต น้ำดื่ม1,200 ขวดต่อวัน ขนาด 200-250 มล. และสเปรย์น้ำค้างอยู่ที่ 8,000 ขวดต่อวัน ขนาด 50 มล.
