00 สั่นสะเทือนติดร่างแหเข้าไปจนได้ กับผลรายงานของคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่ระบุถึงการทรมานนักโทษ ที่เป็นผู้ต้องสงสัยเป็น "ผู้ก่อการร้าย" มีการระบุถึงการสร้าง"คุกลับ" ขึ้นมาโดยซีไอเอ และระบุว่า หนึ่งในประเทศที่มีคุกลับดังกล่าว มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งเหตุการณ์ที่ว่านี้ เกิดขึ้นในช่วงปี 2545 เป็นต้นมา หากนับย้อนกลับไปก็เป็นยุคของรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย ส่วนของสหรัฐฯ ก็เป็นยุครัฐบาลประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช จากพรรครีพับริกัน
00 ขณะเดียวกัน ฝ่ายที่แฉข้อมูลลับครั้งนี้ก็เป็นกรรมาธิการวุฒิสภาในสายของ เดโมแครต พวกเดียวกับ ประธานาธิบดี บารัก โอบามา และหากมองในเชิงการเมือง ก็เป็นเรื่องที่ได้จังหวะ"เตะตัดขา" ฝ่ายรีพับริกัน ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากอเมริกันกำลังเบื่อ โอบามา เต็มที หลังจากครองอำนาจมานานเกือบ 8 ปีแล้ว แต่ดีแต่โม้ ผลงานไม่เอาอ่าว ซึ่งผลที่พิสูจน์ออกมาให้เห็นคือ ทำให้พรรคเดโมแครต พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งช่วงกลางเทอม เมื่อเดือนที่แล้ว
00 อย่างไรก็ดี หากพิจารณาตามความเป็นจริง เรื่องคุกลับดังกล่าว มีการพูดถึงและสงสัยกันมานานว่า "น่าจะมี" ในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อดูจากความสัมพันธ์ และผลประโยชน์ร่วมกันระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร กับ จอร์จ บุช นั่นคือ กลุ่มทุนข้ามชาติด้านพลังงาน พิจารณาจากการอนุญาตให้ใช้ฐานฐานทัพอู่ตะเภา การอนุญาตให้สิงคโปร์ มาฝึกบินที่อุดรธานี ตามข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งทุกโครงการล้วนได้รับการสานต่อในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มี "ปึ้งศักดิ์" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็นรมว.ต่างประเทศ หากยังจำกันได้ ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มีการจับกุม "ฮัมบาลี" แกนนำกลุ่ม เจอาร์อิสลามิยาห์ หรือ "เจอาร์" ของอินโดฯ และเป็นเครือข่ายพันธมิตรกับกลุ่ม"อัลกออิดะห์" ของ บินลาเดน ระหว่างหลบมากบดานในชุมชนมุสลิมอยุธยา เมื่อปลายปี 46 ตามคำขอ และประสานข้อมูลจากซีไอเอ แล้วส่งตัวให้กับสหรัฐฯไปคุมขัง ซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็สงสัยกันว่า มีคุกลับในไทยแล้ว แต่ก็ไม่มีหลักฐาน มีแต่คนปฏิเสธ ก็อย่างว่า ในเมื่อเป็นคุกลับ ไม่ใช่คุกเปิดเผย มันก็ติดตามตรวจสอบยาก !!
00 สำหรับเรื่องแบบนี้ ถามว่าคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่คุมกองทัพมานาน จะรู้หรือเปล่า ก็ต้องบอกว่า รู้แน่ ไม่ว่าจะมีจริง หรือไม่มีจริง อยู่ที่ว่าจะเปิดเผยหรือไม่เท่านั้นเอง และแน่นอนว่า ของแบบนี้ไม่ว่าอย่างไรจะไม่พูด และปฏิเสธหัวชนฝาไว้ก่อน เหมือนอย่างที่ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.สำนักนายกฯ และผอ.สำนักข่าวกรองฯ ยืนยันว่า ไม่มี๊ ไม่มี เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้เกิดเหตุในประเทศไทยเท่านั้น
00 เหลืออีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปี กำลังลุ้นกันอยู่ว่า ในที่สุดแล้ว เศรษฐกิจไทยทั้งปีจะขยายตัวถึงร้อยละ 1 หรือเปล่า หลังจากที่หลายหน่วยงานมาฟันธงตรงกันว่า"น่าจะไม่ถึง" เพราะตัวเลขการส่งออกและการท่องเที่ยว ที่เป็นรายได้หลักยังไม่เข้าเป้า และที่ความเชื่อมั่นที่สำรวจโดยหอการค้าไทยเพิ่งเปิดเผยออกมากลับลดลงทุกรายการ ดังนั้น หากมองข้ามช็อตในปีหน้า มันก็น่าหนักใจ หากจะโทษก็ต้องโทษทีมเศรษฐกิจที่มือไม่ถึง มีแต่ราคาคุย !!
00 ขณะเดียวกัน ฝ่ายที่แฉข้อมูลลับครั้งนี้ก็เป็นกรรมาธิการวุฒิสภาในสายของ เดโมแครต พวกเดียวกับ ประธานาธิบดี บารัก โอบามา และหากมองในเชิงการเมือง ก็เป็นเรื่องที่ได้จังหวะ"เตะตัดขา" ฝ่ายรีพับริกัน ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากอเมริกันกำลังเบื่อ โอบามา เต็มที หลังจากครองอำนาจมานานเกือบ 8 ปีแล้ว แต่ดีแต่โม้ ผลงานไม่เอาอ่าว ซึ่งผลที่พิสูจน์ออกมาให้เห็นคือ ทำให้พรรคเดโมแครต พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งช่วงกลางเทอม เมื่อเดือนที่แล้ว
00 อย่างไรก็ดี หากพิจารณาตามความเป็นจริง เรื่องคุกลับดังกล่าว มีการพูดถึงและสงสัยกันมานานว่า "น่าจะมี" ในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อดูจากความสัมพันธ์ และผลประโยชน์ร่วมกันระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร กับ จอร์จ บุช นั่นคือ กลุ่มทุนข้ามชาติด้านพลังงาน พิจารณาจากการอนุญาตให้ใช้ฐานฐานทัพอู่ตะเภา การอนุญาตให้สิงคโปร์ มาฝึกบินที่อุดรธานี ตามข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งทุกโครงการล้วนได้รับการสานต่อในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มี "ปึ้งศักดิ์" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็นรมว.ต่างประเทศ หากยังจำกันได้ ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มีการจับกุม "ฮัมบาลี" แกนนำกลุ่ม เจอาร์อิสลามิยาห์ หรือ "เจอาร์" ของอินโดฯ และเป็นเครือข่ายพันธมิตรกับกลุ่ม"อัลกออิดะห์" ของ บินลาเดน ระหว่างหลบมากบดานในชุมชนมุสลิมอยุธยา เมื่อปลายปี 46 ตามคำขอ และประสานข้อมูลจากซีไอเอ แล้วส่งตัวให้กับสหรัฐฯไปคุมขัง ซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็สงสัยกันว่า มีคุกลับในไทยแล้ว แต่ก็ไม่มีหลักฐาน มีแต่คนปฏิเสธ ก็อย่างว่า ในเมื่อเป็นคุกลับ ไม่ใช่คุกเปิดเผย มันก็ติดตามตรวจสอบยาก !!
00 สำหรับเรื่องแบบนี้ ถามว่าคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่คุมกองทัพมานาน จะรู้หรือเปล่า ก็ต้องบอกว่า รู้แน่ ไม่ว่าจะมีจริง หรือไม่มีจริง อยู่ที่ว่าจะเปิดเผยหรือไม่เท่านั้นเอง และแน่นอนว่า ของแบบนี้ไม่ว่าอย่างไรจะไม่พูด และปฏิเสธหัวชนฝาไว้ก่อน เหมือนอย่างที่ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.สำนักนายกฯ และผอ.สำนักข่าวกรองฯ ยืนยันว่า ไม่มี๊ ไม่มี เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้เกิดเหตุในประเทศไทยเท่านั้น
00 เหลืออีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปี กำลังลุ้นกันอยู่ว่า ในที่สุดแล้ว เศรษฐกิจไทยทั้งปีจะขยายตัวถึงร้อยละ 1 หรือเปล่า หลังจากที่หลายหน่วยงานมาฟันธงตรงกันว่า"น่าจะไม่ถึง" เพราะตัวเลขการส่งออกและการท่องเที่ยว ที่เป็นรายได้หลักยังไม่เข้าเป้า และที่ความเชื่อมั่นที่สำรวจโดยหอการค้าไทยเพิ่งเปิดเผยออกมากลับลดลงทุกรายการ ดังนั้น หากมองข้ามช็อตในปีหน้า มันก็น่าหนักใจ หากจะโทษก็ต้องโทษทีมเศรษฐกิจที่มือไม่ถึง มีแต่ราคาคุย !!