โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
กองกำลังตำรวจตรวจแหลกคึกมากในปฏิบัติการณ์ไล่ล่าขบวนการนอกกฎหมาย รับงาน “อุ้มรีด” “ทวงหนี้” “รับส่วย” และสารพัดข้อกล่าวหา แทบจะพลิกแผ่นดิน ค้นหากลุ่มอิทธิพลในโครงสร้างต่างๆ ภายไต้เครือข่ายของ “เดอะกิ๊ก” กำกับโดย ผบ.ตร. พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ประกาศเสียงดังฟังชัด “ยุคผม... ใหญ่แค่ไหนก็จับ”
ไล่จับกุมผู้ต้องหาได้ไม่เว้นแต่ละวัน โดนคดีร้ายแรงเกี่ยวโยงกับสถาบัน ซึ่งมีโทษสาหัส โอกาสที่จะได้รับการผ่อนปรน หรือรอลงอาญา แทบมองไม่เห็น ถ้าพิสูจน์ได้ว่ากระทำความผิดจริง เป็นการยืนยันว่า “อาชญากรรมต้องไม่เกิดผลดี” ต่อผู้กระทำ
อย่างที่ฝรั่งว่า “Crime does not pay” นั่นแล!
ชาวบ้านชูจั๊กกะแร้เชียร์ให้ท่านสมยศรื้อเครือข่ายตำรวจรับส่วยภายในองค์กรของท่าน เพราะเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่าระบบธรรมเนียมของตำรวจมายาวนาน “ลูกน้องเป็นคนเลี้ยงเจ้านาย” ผ่านระบบการเก็บส่วย ส่งต่อขึ้นไปตามลำดับจนถึงสุดยอด
ดังนั้น ใครก็ตามที่เป็นหัวหน้าสุดยอดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกยุค ย่อมอ้างไม่ได้ว่า “ไม่ได้รับ” หรือ “ไม่รู้เรื่อง” เป็นระดับล่างๆ หากินกันเองโดยเจ้านายไม่รู้
แบบนี้พูดง่าย ชาวบ้านฟังได้ แต่ไม่มีใครเชื่อ! สิ่งที่ชาวบ้านสงสัยว่าในวงการสีกากีนั้นจะมีสักกี่คนที่มือสะอาด บริสุทธิ์จริงๆ ไม่แปดเปื้อนกับเงินนอกกฎหมายจากแหล่งอบายมุข ทั้งตามน้ำ ทวนน้ำ หักคอ หักดิบ รีดไถ ถ้ามีคงเป็นพวกทำงานสารบัญ
เอาเถอะ! ทำได้ก็ทำไป ถ้าทำด้วยเจตนาดี ต้องการชะล้างระบบส่วยในวงการตำรวจ ฟื้นฟูความศรัทธาน่าเชื่อถือให้ประชาชนเห็นว่าตำรวจเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ผดุงความยุติธรรม เป็นกลไกต้นน้ำในหน้าที่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
สังคมได้รับรู้จากการไล่ล่านักอุ้มรีด กิจกรรมอาชญากรรมในเครือข่ายของตำรวจคราวนี้แหละ ยิ่งสืบสาวไปกว้างและลึกเท่าไหร่ ก็ทำให้เห็นความซับซ้อน ผูกโยงเครือข่ายจนชาวบ้านพูดค่อนแคะว่าสองค์กรตำรวจนั่นแหละเป็นองค์กรอาชญากรรม
จะล้างภาพลักษณ์น่ารังเกียจนี้ได้ ก็ต้องให้คุณสมยศทำได้ดีตามคำประกาศว่า “ยุคผม ...ใหญ่แค่ไหนก็จับ” เพราะยิ่งสาวไปมาก ก็เหมือนดึงด้ายจากเสื้อถักทอ ยิ่งดึงเส้นด้ายก็ยิ่งยาว ผลสุดท้ายเสื้อก็ไม่เหลือรูปร่างเป็นเสื้อ และจะเหลือตำรวจสักกี่คน
ระวังเถอะ สาวไปสาวมา คนไกล้ตัวนั่นแหละจะเดือดร้อน! ขณะนี้ตำรวจกำลังรื้อเครือข่ายนักรีด นักอุ้ม ทำงานให้เศรษฐีหนุ่มรวยเกินระดับ 2 หมื่นกว่าล้าน วัย 43 ปีเจ้าของโครงการพลังงานลม ช่วงนี้ทำตัวยิ่งกว่าสายลมหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
ปรากฎว่าเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะผู้เกี่ยวโยงกับนักลงทุนพลังงานลมล้วนเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง นักเสี่ยงโชค ข้าราชการเกษียณ คนดังมีตังค์ ต่างอยู่ในภาวะร้อนตัวกลัวเสียชื่อเสียง ต้องรีบตีกรรเชียงห่าง ไม่อยากได้เงินปันผลอีกแล้ว
ข่าวล่าสุด แม้แต่สถาบันการเงินยังหยุดการสนับสนุนด้านการเงินชั่วคราว จนกว่าจะมีความกระจ่างว่าใครเป็นเจ้าของ ผู้บริหารรับผิดชอบ และมีความเชื่อมโยงกับการใช้อิทธิพลทั้งมืดและสว่างกระทำการอันใดเกื้อหนุนโครงการลงทุนทำธุรกิจด้วยหรือไม่
การสืบสวนไล่ล่าผู้มีส่วนกระทำความผิดด้านนี้ยังไม่น่าหวาดเสียวสำหรับกลุ่มเครือข่ายสีกากี เพราะเป็นเรื่องธุรกิจการลงทุน มีเพียงการใช้นักอุ้มรีดไปทำหน้าที่จัดการลูกหนี้จอมเบี้ยว และเจ้าหนี้รายใหญ่เพื่อให้ยอมหักคอลดเงินต้นให้เท่านั้น
ถ้าไม่หยุด รับรองว่าการสืบสวนจะส่งผลกระเทือนหนักต่อพฤติกรรม เบื้องหน้าเบื้องหลังของกลุ่มทุนใหญ่ซึ่งหวังใช้อำนาจรัฐทำงานแฝงเร้นเพื่ออวยประโยชน์ให้โครงการของพรรคพวกแน่นอน ที่เปิดเผยแล้วคือวิธีการเอาเปรียบ สกัดกั้นคู่แข่งทุกทาง
ยิ่งพวกมีหน้ามีตา มั่งคั่งจากการเขมือบผลประโยชน์จากวงการพลังงานถูกเกี่ยวโยงว่าได้ร่วมกิจการกับเศรษฐีหนุ่มล่องหนด้วยแล้ว ชาวบ้านยิ่งซี๊ดปากอยากรู้จริงๆ ดูซิว่าจะมีคำสั่งหรือผู้มีอำนาจสั่งเบรคการขุดคุ้ย ตามล่า หรือตัดตอนคดีความให้จำกัดเฉพาะระดับล่าง ไม่ให้เชื่อมโยงถึงกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน กอบโกยผลประโยชน์มั้ย
ที่น่าขนหัวลุกสำหรับตำรวจคือ กรณี “เสี่ยโจ้” เศรษฐีเงินระดับหลายพันล้านในวงการค้าน้ำมันเถื่อนในภาคไต้ ถูกตำรวจกล่าวหาว่าเป็นเครือข่ายของ “เดอะกิ๊ก” และ ได้ทำตัวล่องหนไปต่างประเทศก่อนเศรษฐีหนุ่มพลังลม หลังจากมีคดีทำให้ต้องติดคุก
มีความเหมือนกันของเศรษฐีน้ำมันเถื่อนกับเศรษฐีพลังลม คือทั้งคู่อยู่ในวงการ “พลังงาน” เกี่ยวโยงกิจกรรมนอกกฎหมาย ใช้อิทธิพลมืด และสถานภาพเป็นคนหนีคดี แบบนี้เข้าใจได้ ถ้าขืนยังอยู่เอ้อระเหยลอยชายทำใจดีสู้เสือ มีหวังติดคุกยาวจนแก่เฒ่า
“เสี่ยโจ้” ไม่ธรรมดา เมื่อมีขบวนการตำรวจหากินจากส่วย ก็ย่อมมีคนจ่ายส่วย เมื่อคุณสมยศฟิตจัด ต้องการสร้างปรากฎการณ์ใหม่เพื่อเกียรติภูมิของตัวเอง ต้องขุดคุ้ยไม่หยุดจนไปพบบันทึกการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ในวงการต่างๆ จากตัวเล็กถึงนายพล
มีชื่อประกอบตำแหน่งแห่งหน สาเหตุของการจ่ายส่วย จำนวน วันที่ ทุกอย่าง อ่านแล้วเข้าใจง่ายเพราะรู้ได้ว่าใครทำหน้าที่ตำแหน่งอะไรในช่วงเวลานั้น บันทึกลับการจ่ายส่วยยิ่งกว่าเป็นใบเสร็จมัดตัว แบบนี้ชาวบ้านบอกได้คำเดียวว่า “เสร็จแน่ๆ”
หลายคนอยากได้ก็อปปี้ บอกตำรวจให้แจกสื่อเพื่อเปิดโปงขบวนการส่วย!
หลังจากแพล็มๆ รายชื่อไม่กี่หน้า ตำรวจน้อยใหญ่จนถึงระดับนายพลเป็นสิบคนร้อนตัวเป็นแถว นอกจากอนาคตดับวูบแล้ว ยังเห็นเอารางๆ ของซี่ลูกกรง กำแพงคุกลอยอยู่ตรงหน้า ทั้งมงกุฎ ดาวเงินหลุดกระเด็นจากบ่า ถ้าคุณสมยศเอาจริง ไม่ยอมซูเอี๋ย
ถ้าคุณสมยศปล่อยรายชื่อในบักทึกส่วยออกมา นายตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆ ที่เคยทำงานในพื้นที่ภาคไต้น่าจะติดร่างแหไปด้วยไม่น้อย เพราะเงินส่วยแต่ละก้อนมีตั้งแต่ระดับพันจนถึงล้านกว่าบาท ยิ่งถ้ารับประจำนานๆ ก็ยิ่งเป็นกอบเป็นกำ
มีเสียงกระซิบบอกว่านายตำรวจน้ำบางยุคส่งส่วยให้นายเป็นรายเดือนถึง 50 ล้านบาท เรื่องพรรค์นี้รู้กันได้ เพราะคนเคยกินอยู่ก่อนนั่นแหละเป็นคนเผยความลับ
แต่ตำรวจที่กินส่วยน่าจะวางใจ เพราะคุณสมยศรวยแล้วจากการซื้อขายบริษัทในตลาดหุ้นและการลงทุนในกิจการ “พลังงาน” คือแก๊สหุงต้ม ไม่ต้องการหากินจากความทุกข์ยากของลูกน้อง ถ้าเป็นคนอื่นมือโหดคงรีดเอาเงินส่วยเพื่อแลกกับการลบรายชื่อ
จากนี้ไป สาธุชนโปรดอย่าได้กระพริบตา ดูซิว่าคุณสมยศจะมีปณิธานมุ่งมั่นขจัดขบวนการส่วยอย่างจริงจังหรือไม่ เพราะยิ่งสาวไป น่ากลัวว่าจะพันตัวพวกอยู่ใกล้ตัวคุณสมยศ เรื่องพรรค์นี้ปิดบังกันไม่ได้ ถ้าชาวบ้านรู้ พวกที่กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง มีประสบการณ์ด้วยตัวเองจะไม่รู้ได้ไง?
ไม่อย่างนั้นจะวิ่งเต้นจนตีนขวิด ขอให้เจ้านายช่วยลบรายชื่อ รายการรับจ่ายของตัวเองเรอะ! คุณสมยศยิ่งต้องระวังหนัก ทั้งระดับบนและระดับล่างมีส่วนถูกเกี่ยวโยงทั้งนั้น ผลสุดท้ายถ้าเหลือตำรวจน้ำดีไม่กี่คนรวมทั้งตัวท่านเอง จะเป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่ง