“ผบ.ตร.” แฉเอง บันทึก “เสี่ยโจ้” ส่งส่วยน้ำมันเถื่อน หลังหนีคำพิพากษาหมดสภาพขาใหญ่ชายแดนภาคใต้ ระบุชื่อตำรวจ-หน่วยงานเกี่ยวข้องชายฝั่งทะเลภาคใต้ สั่งงานปราบปราม บช.ก.ร่งรัดสอบสวน ส่งไม้ต่อให้ ปปง. ส่วนหน่วยงานอื่นอยากได้หลักฐาน ยินดีส่งให้
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงเปิดบัญชีจ่ายส่วยขบวนการน้ำมันเถื่อน ของนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดสหทรัพย์ทวีค้าไม้ เลขที่ 103/49 ถนนนาเกลือ หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี นักธุรกิจผู้มีอิทธิพลกว้างขวางในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีคำพิพากษาของศาลจังหวัดปัตตานี ให้จำคุก 1 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ฐานปลอมแปลงเอกสารตราประทับ ก่อนหายตัวไปจากศาลขณะถูกควบคุมตัวส่งเรือนจำเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดย พล.ต.อ.สมยศนำเอกสารบัญชีรายชื่อกลุ่มบุคคลที่ถูกระบุว่าเกี่ยวข้องกับส่วยน้ำมันเถื่อนในภาคใต้ ความหนาหลายร้อยหน้า 2 เล่ม พร้อมแผ่นซีดีเรื่อง “เปิดโปงขบวนน้ำมันเถื่อน เสี่ยโจ้ ปัตตานี” ที่ยึดได้จากบ้านพักของนายสหชัยมาแสดงต่อสื่อมวลชนด้วย
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนต้องการสร้างความกระจ่างกรณีที่มีการโจษขานเรื่องส่วยน้ำมันเถื่อนซึ่งเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง ผบช.ก. พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีตผู้บังคับการตำรวจน้ำ และพวกว่ามีความเป็นมาอย่างไร โดยตนได้รับบัญชีส่วยที่จดบันทึกโดยผู้ต้องหาที่หลบหนีและพวก ว่าจ่ายเงินให้ใครบ้าง บัญชีนี้ฝ่ายความมั่นคง ทหาร และตำรวจที่เข้าตรวจค้นจับกุมยึดมาเป็นหลักฐาน และตนก็ได้รับมอบมา
“นี่คือบัญชีที่ยึดได้จากบ้านเสี่ยโจ้ มีรายละเอียดการใช้จ่ายเงินทองไปกับกิจการน้ำมันเถื่อน มีหลายหน่วยงานเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการน้ำมันเถื่อน ซึ่งผมทำสัญลักษณ์ไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ และยังมีอีกหลายหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในนี้มีเขียนว่าผู้บังคับการอะไร ผู้กำกับการอะไร แต่ที่ระบุเป็นชื่อย่อ มีรายการของรองโส รายการของ ผกก.โย๊ะ รายการ ผอ.ปราบปรามทางทะเล ซึ่งเป็นหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ตำรวจ มีดีเอสไอด้วย”
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า บัญชีนี้ทำให้เห็นว่าหลายหน่วยงานมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับขบวนการน้ำมันเถื่อน ตรงนี้ต้องเรียนว่าตนจะรับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตำรวจที่ปรากฏชื่อในนี้ว่าเป็นใคร มีทั้งชื่อจริง ชื่อเล่น รองโส ผกก.โย๊ะ ชื่อเหล่านี้ในกองบังคับการตำรวจน้ำรู้จักกันดีว่าเป็นใคร การออกมาแถลงเพื่อยืนยันว่าบัญชีรายชื่อจ่ายส่วยของขบวนการน้ำมันเถื่อนมีอยู่จริง ไม่ได้อุปโลกน์ขึ้นมา แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ทั้งนี้ ตนจะนำหลักฐานนี้ 2 ชุดส่งมอบให้พนักงานสอบสวน ในคดี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์และพวก ทั้งในส่วนกองบังคับการปราบปรามที่ทำหน้าที่สืบสวน และในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ทำหน้าที่สอบสวน ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายปราบปรามทั้งที่อยู่ในน้ำและบนฝั่ง ต่างก็มีชื่อในบัญชีผลประโยชน์น้ำมันเถื่อน โดยทราบว่าหลายหน่วยสั่งตรวจสอบแล้ว ใครก็มแต่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนรับผลประโยชน์จากขบวนการผิดกฎหมายควรได้รับโทษตามกฎหมาย
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้เร่งรัดคดีที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเถื่อนซึ่งหยุดนิ่งไม่มีการดำเนินการต่อ จนทำให้ ปปง.ไม่สามารถทำงานต่อได้ โดยได้รับหนังสือจาก ปปง.เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) จึงทำคำสั่งให้หน่วยที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนเรื่องนี้ คือ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (งานปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง) เร่งรัดสอบสวนโดยเร็ว และสั่งให้รายงานให้ทราบทุก 15 วัน
“ตรงนี้ผมก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมเรื่องถึงไม่เดินไป ติดขัดอย่างไร บอกไปยังผู้รับผิดชอบว่าท่านอยู่เฉยๆ ไม่ได้แล้ว หากยังอยู่เฉยผมคงต้องทำอะไรสักอย่างให้ท่านเร่งดำเนินการ”
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในบัญชีของเสี่ยโจ้มีรายชื่อตำรวจที่ไปเกี่ยวข้องเยอะมาก แต่ตนจะดูว่าคนที่ถูกระบุว่าเกี่ยวข้องนั้นไปเอื้อประโยชน์ ทำให้ขบวนการนี้สามารถหารายได้จากการน้ำมันเถื่อนอย่างไรหรือไม่ ตำรวจที่มีรายชื่อนั้นอยู่ในกองบังคับการตำรวจน้ำ พบว่าระบุยอดเงินสูงที่สุดหนึ่งครั้ง 12 ล้านบาท เขียนว่าเป็นรายการของตำรวจน้ำ 12 ล้านบาท ไม่บอกต่อเดือนหรือต่ออะไร บอกเป็นของตำรวจน้ำ หรืออีกรายการเขียนว่าตำรวจน้ำ 5 ล้าน นี่เป็นปัญหาที่เราต้องสอบสวนต่อไป อีกอันเขียนรายการตำรวจน้ำ 6 ล้าน ตรงนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้จะโยงไปถึงผู้บังคับบัญชาคนเก่าหรือไม่ อยู่ที่ผลการสอบสวน หากพบก็ต้องดำเนินการ
“มีการระบุถึงหน่วย คชก. ผอ.ปราบปรามทางทะเล ค่าเบี้ยเลี้ยงให้คนนั้นคนนี้ นอกจากนี้พบว่ามีการหาข่าวในศาล ค่าส่งข่าวในศาล ผมก็ไม่รู้มีไว้ทำไม ต้องสอบสวนต่อ หากหน่วยงานไหนร้องขอมาผมก็จะส่งบัญชีให้ มีทั้งตั๋วเครื่องบิน อั่งเปา สารพัด มีเกือบทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคใต้ชายฝั่งติดทะเล”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ชุดปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำโดย พ.อ.จตุพร กลัมพะสุต เป็นหัวหน้าชุด เข้าตรวจสอบในบ้านพักนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ตามนโยบายการตรวจสอบตรวจค้นบุคคลและสถานที่ต้องสงสัย เกี่ยวกับการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายของ คสช. พบบันทึกการจ่ายสินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมายได้ เช่น กาสิโนกลางอ่าวไทย ค้าน้ำมันเถื่อน ค้าไม้เถื่อนปะปนไม้ถูกกฎหมาย มูลค่า 45 ล้านบาทต่อเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น และช่วงรอยต่อปี 2556-2557 จัดของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ เฉพาะกระเช้าของขวัญปีใหม่แต่ละปีเป็นเงินมากกว่า 1 ล้านบาท เป็นต้น