โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
ข่าวการจับกุมคุมขัง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และทีมนายตำรวจ มือทำงาน ลูกน้อง รวมเครือญาติด้วยข้อหาหลากหลายทั้งร้ายแรงและธรรมดา การขุดคุ้ยไล่ล่าสมบัติที่ถูกซุกซ่อนไว้ตามแหล่งต่างๆ ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ตามคำประกาศของ ผบ.ตร. พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงว่า “ใหญ่แค่ไหนก็จับ”
นอกจากจำนวนคนต้องคดีความมากกว่า 1 โหล ยังมีข่าวว่าการรื้อเครือข่ายขุมกำลังพลของ พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ หรือ “เดอะกิ๊ก” ยังมีอยู่ต่อไป อาจเรียกอีก 40 กว่าคนมาให้ปากคำว่าเกี่ยวโยงกับขบวนการทุจริตอย่างไร กว้างขวางลึกล้ำซับซ้อนแค่ไหน
นอกจากความสำคัญของตัวบุคคล คือ “เดอะกิ๊ก” นายตำรวจที่ติดร่างแหอยู่ในระดับ “พระกาฬ” เช่นกัน จะเคยมีอิทธิพลมากน้อยเพียงใด ต้องให้ขาใหญ่ในวงการยุทธจักรสีกากีด้วยกันเล่าให้ฟัง จะได้รู้ถึงการช่วงชิงตำแหน่ง อำนาจ วาสนาและเงินตรา
ช่วงนี้มีคำเปรียบเปรยในสื่อโซเชียลมีเดียว่าองค์กรตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่เมื่อคำนึงถึงจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศโดยเฉพาะพวกมุ่งเน้นทำมาหากินในยุทธจักรโล่เงิน พวกใครพวกมัน เป็นสังคมที่ลูกน้องหาเงินเลี้ยงนายเพื่อให้ได้ดี
ในยุคหนึ่ง ความเข้มข้นของการสร้างความมั่งคั่งของคนในวงการสีกากีเน้นย้ำว่า “ความรู้ความสามารถ เส้นสายไม่เกี่ยว เงินอย่างเดียว” สำหรับเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ไม่มีตำรวจยากจนซื่อสัตย์แล้วจะได้ดี
หลังจาก “เดอะกิ๊ก” และพวกถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนทำให้การเร่งสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาเป็นไปอย่างจริงจัง ระดับของการประชาสัมพันธ์ผลงาน การนำทรัพย์สินมาแสดงอย่างเอิกเกริก ให้เห็นจำนวนมหาศาลยังห่างไกลจากคำอ้างช่วงแรกว่ามีเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินบาทไทย ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ พระพุทธรูป วัตถุโบราณ ฯลฯ
แต่ยังไม่มากถึงระดับหมื่นล้านบาทอย่างที่ได้ประโคมข่าวช่วงแรก และไม่ปรากฎว่ามีเงินดอลลาร์สหรัฐมากมาย ที่เห็นเพียงธนบัตรไทยมีไม่ถึง 10 กอง หรือต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่นำโดย ผบ.ตร ยังจะสืบสวน เค้นสอบหาทรัพย์สินซุกไว้ต่อไป
ผลสุดท้ายจะมีการพิสูจน์กรรมสิทธิ การได้มาของทรัพย์สินต่างๆ ว่ามีส่วนใดผิดกฎหมายก่อนจะถูก ปปง. ใช้กฎหมายยึดทรัพย์สินเหล่านั้นให้ตกเป็นของรัฐ แต่ความน่าสนใจจะอยู่ที่ช่วงของข้อกล่าวหา และการให้ปากคำในศาลโดยกลุ่มจำเลยว่าจะยังเป็นการยอมรับสารภาพหรือเปลี่ยนใจ เป็นปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมเปิดโปงทุกอย่าง
คำให้การเมื่อถูกซักโดยอัยการ และทนายจำเลย น่าจะทำให้เกิดความรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ในวงการตำรวจ เพราะมีความเชื่อเสมอว่าในวงการสีกากีนั้นไม่มีใครอ้างได้ว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น มีแต่ถ้อยคำถากถากว่า “ใครเลวกว่าใครมากแค่ไหน” เพราะมีภาพลักษณ์ด้านลบอย่างรุนแรงในพฤติกรรมและการปฏิบัติหน้าที่ การทุจริต
คำว่า “ส่วย” ก็มาจากวงการสีกากี องค์กรจึงมีปัญหาด้านภาพลักษณ์ติดลบอย่างรุนแรง บางยุคมีการนำองค์กรไปรับใช้การเมืองสามานย์ เกิดเหตุเข่นฆ่าประชาชน ความล้มเหลวในการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มีปัญหาด้านคุณธรรม การผดุงความเที่ยงธรรม
น่าสนใจว่า ผบ.ตร. และองค์กรที่เกี่ยวข้องจะเดินหน้าในคดีนี้อย่างไร รวมทั้งการพิจารณาประเด็นละเอียดอ่อนต่างๆ จำเลยจะเปิดโปงความลับ สร้างความเสียหายต่อนายตำรวจ นักการเมือง ผู้เกี่ยวข้องในการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มาด้วยกันอย่างไร
เงื่อนงำ เบื้องหน้าเบื้องหลังของการจับกุมคณะ “เดอะกิ๊ก” ย่อมได้รับความสนใจจากประชาชนซึ่งตื่นเต้นกับจำนวนทรัพย์สินมูลค่าระดับพันล้านบาท น่าสนใจว่าผู้ต้องหาจะลากนายตำรวจ บุคคลอื่นๆ ให้ประสบชะตากรรมแบบเดียวกันหรือไม่ด้วย
การแถลงข่าวก่อนหน้านี้ยังไร้ความกระจ่างในหลายประเด็น เช่นการเสียชีวิตของนายตำรวจซึ่งถูกอ้างว่าตกจากที่สูง แต่ไม่ปรากฎรายละเอียดว่า “ที่สูง” นั้นเป็นอาคารอยู่จุดใด ทำไมร่างของนายตำรวจจึงถูกนำไปที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ และเร่งเผาศพ
ผบ.ตร. และนายตำรวจอื่นๆ ยังไม่ได้อธิบายการขาดรายละเอียดประเด็นเหล่านี้ และคดีนี้จะลงเอยอย่างไร ถ้ามีการร้องเรียนให้องค์กรน่าเชื่อถือสอบสวนสาเหตุการตายยิ่งถ้าสังคมตำรวจนานาชาติสนใจด้วยแล้วอาจทำให้เกิดความยุ่งยากกว่าที่ประเมินไว้
จากนี้ไปน่าจะมีเสียงเรียกร้องจากสังคมให้มีการสอบสวนอย่างเปิดกว้าง เพื่อหาตัวนายตำรวจมีพฤติกรรมทุจริต ประพฤติมิชอบ ร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่สร้างเครือข่ายฐานอำนาจเพื่อกอบโกยความมั่งคั่ง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูป
การสาวลึกการทุจริตในวงการตำรวจน่าจะเป็นเหมือนการสาวเส้นด้ายหลุดจากตัวเสื้อถักทอ ถ้าสาวไม่หยุดผลสุดท้ายสภาพเสื้อก็ไม่เหลือ กลายเป็นเพียงเส้นด้ายธรรมดา ผลสุดท้ายอาจไม่เหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีความสะอาด ดมพิสูจน์ได้ก็เป็นได้
ต้องรอดูว่าการหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิดในกลุ่ม “เดอะกิ๊ก” จะนำไปสู่การสาวไส้ของกลุ่มตำรวจที่เหลือเพื่อความก้าวหน้าของตัวเอง จะหวนคืนสู่สภาวะ “ความรู้ ความสามารถ เส้นสายไม่เกี่ยว ต้องเงินอย่างเดียว” เพียงเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดหรือไม่
ตำรวจหน้าไหนก็ตามที่มีแผล หลุดจากขั้วอำนาจหลังจากการรัฐประหาร ย่อมรู้สึกผวา เป็นที่รู้กันว่าวงการตำรวจเหมือนสังคมพาราสาวัตถี ไม่มีใครปราณีใคร เนื้อหาจดหมายก่อนตายของนายตำรวจเคราะห์ร้ายตกจากที่สูง อาจทำให้ใครตกจากเก้าอี้ก็ได้
จะมีรายการแค้นฝังหุ่นต้องเอาคืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มของมะโนหรือความใจถึง เท่านั้น!