ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติคาดจีนลดดอกเบี้ยนโยบายส่งผลต่อจีดีพีจีนดีขึ้นได้เพียงเล็กน้อย เหตุสินเชื่อแบงก์ปรับสูงขึ้นได้ไม่มาก ยอมรับเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย
วานนี้ (26 พ.ย.) นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) กล่าวถึงการลดดอกเบี้ยนโยบายของจีนเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนเหนือความคาดหมายของ ธปท. และตลาด โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนเพียงเล็กน้อย และปริมาณสินเชื่อไม่น่าจะปรับสูงขึ้นมาก เนื่องจาก ธนาคารพาณิชย์มีข้อจำกัดจากอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก แต่จะเป็นการลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทขนาดใหญ่ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ (SOEs)ให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเงินของจีน
อย่างไรก็ตาม การลดอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ โดยอัตราดอกเบี้ยแท้จริงหลังการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงเป็นบวก
นายจิรเทพกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมาชะลอลงตามที่ ธปท.ประเมินเอาไว้ โดยทางการจีนดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจการเงิน เพื่อดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะยาว ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอลง โดยการปฏิรูปภาคการเงินที่สำคัญ คือ การควบคุมแหล่งเงินทุนในภาค Shadow Banking ซึ่งลดปริมาณการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและการควบคุมระดับหนี้รัฐบาลท้องถิ่นที่มีการกู้เงินนอกงบดุลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ละมณฑล ซึ่งจะลดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร นอกจากนี้ ทางการยังดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจจริง เพื่อลดการพึ่งพาการลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพและเพิ่มบทบาทการบริโภคด้วย
สำหรับระยะต่อไป ธปท. ประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 7-7.5 จากการควบคุมความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และนโยบายปรับสมดุลการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยน่าจะเป็นการชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปสะท้อนจากการออกมาตรการดูแลการขยายตัวทางเศรษฐกิจควบคู่กับการเดินหน้าปฏิรูปอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับการจ้างงานให้เหมาะสม.
วานนี้ (26 พ.ย.) นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) กล่าวถึงการลดดอกเบี้ยนโยบายของจีนเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนเหนือความคาดหมายของ ธปท. และตลาด โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนเพียงเล็กน้อย และปริมาณสินเชื่อไม่น่าจะปรับสูงขึ้นมาก เนื่องจาก ธนาคารพาณิชย์มีข้อจำกัดจากอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก แต่จะเป็นการลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทขนาดใหญ่ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ (SOEs)ให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเงินของจีน
อย่างไรก็ตาม การลดอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ โดยอัตราดอกเบี้ยแท้จริงหลังการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงเป็นบวก
นายจิรเทพกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมาชะลอลงตามที่ ธปท.ประเมินเอาไว้ โดยทางการจีนดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจการเงิน เพื่อดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะยาว ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอลง โดยการปฏิรูปภาคการเงินที่สำคัญ คือ การควบคุมแหล่งเงินทุนในภาค Shadow Banking ซึ่งลดปริมาณการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและการควบคุมระดับหนี้รัฐบาลท้องถิ่นที่มีการกู้เงินนอกงบดุลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ละมณฑล ซึ่งจะลดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร นอกจากนี้ ทางการยังดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจจริง เพื่อลดการพึ่งพาการลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพและเพิ่มบทบาทการบริโภคด้วย
สำหรับระยะต่อไป ธปท. ประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 7-7.5 จากการควบคุมความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และนโยบายปรับสมดุลการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยน่าจะเป็นการชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปสะท้อนจากการออกมาตรการดูแลการขยายตัวทางเศรษฐกิจควบคู่กับการเดินหน้าปฏิรูปอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับการจ้างงานให้เหมาะสม.
