ASTVผู้จัดการรายวัน- กฟผ.คาดปี 2558 การใช้ไฟโต 4% ดันพีคทะลุ 2.8 หมื่นเมกะวัตต์มั่นใจสำรองไฟเพียงพอ พร้อมมั่นใจแผนรับมือท่อก๊าซฯพม่าและ JDAหยุดจ่ายเม.ย. และมิ.ย. 58 เอาอยู่ ลั่นพร้อมเดินหน้าโรงไฟฟ้าทดแทนแม่เมาะ หน่วยที่ 4-7 และกระบี่ตามแผน
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย( กฟผ.) เปิดเผยว่า ปี 2558 คาดการณ์ว่าการใช้ไฟฟ้าของประเทศจะเติบโตประมาณ 4% ตามทิศทางเศรษฐกิจของประเทศโดยจะส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค)ของปีหน้าจะทะลุระดับ 2.8 หมื่นเมกะวัตต์แต่ด้วยปริมาณสำรองไฟที่มีอยู่จะไม่กระทบต่อปริมาณไฟฟ้าให้ขาดแคลนได้รวมถึงกฟผ.ยังเตรียมแผนรับมือการหยุดซ่อมบำรุงท่อก๊าซธรรมชาติจากพม่าช่วงเม.ย.58 และพื้นที่พัฒนาร่วมไทย -มาเลเซีย(JDA)บล็อคA-18 เดือนมิ.ย.58 เอาไว้พร้อมแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ปัญหาการหยุดจ่ายก๊าซฯของทั้ง 2 แหล่งเพื่อหยุดซ่อมบำรุงจะไม่กระทบต่อการจ่ายไฟฟ้าในภาคใต้ให้เกิดปัญหาไฟตกดับเช่นปี 2556 และจะดีขึ้นค่อนข้างมากเนื่องจากกฟผ.ได้วางแผนปรับปรุงโรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลาให้สามารถเดินเครื่องดีเซลได้ด้วยซึ่งจะแล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ดังนั้นเมื่อมีการหยุดจ่ายก๊าซฯช่วงกลางปีหน้าก็จะสามารถเดินเครื่องดีเซลได้ทันที นอกจากนี้ยังจะมีการรณรงค์ให้ภาคเอกชนร่วมประหยัดไฟในช่วงหยุดจ่ายก๊าซฯซึ่งกำลังหารือกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ถึงมาตรการจูงใจให้เอกชนเข้าร่วม
อย่างไรก็ตามระยะยาวไทยยังคงมีความจำเป็นต้องกระจายแหล่งเชื้อเพลิงในการผลิตไฟเพื่อลดความเสี่ยงโดยถ่านหินจะเป็นอีกเชื้อเพลิงหนึ่งที่จะเข้ามาเสริมการใช้ก๊าซฯที่สูงถึง 70% โดยเฉพาะในส่วนของโรงไฟฟ้าทดแทนแม่เมาะ และโรงไฟฟ้ากระบี่ โดยในส่วนของกระแสข่าวโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทดแทนแม่เมาะหน่วย 4-7 กำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ที่ถูกตรวจสอบขั้นตอนการประมูลนั้นยืนยันว่าทุกอย่างยังเดินหน้าและสามารถชี้แจงได้ว่าเป็นไปตามขั้นตอนโดยเฉพาะวงเงินการลงทุนมีการกำหนดไว้ที่ 36,811 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2555 และผ่านความเห็นชอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)แล้ว ไม่ได้มีการปรับเพิ่มภายหลังแต่อย่างใด
“ วงเงินเท่าเดิมและอัตราค่าไฟฟ้าจากถ่านหินแม่เมาะก้กำหนดไว้ 1.84 บาทต่อหน่วยไม่มีการเปลี่ยนอะไรและกำลังรอเข้าบอร์ดคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ความคืบหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ 800 เมกะวัตต์ นั้นขณะนี้กำลังรอการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ(คชก.)ภายในเดือนธ.ค.นี้ซึ่งหากไม่มีปัญหาอะไรทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามแผน”ผู้ว่ากฟผ.กล่าว
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย( กฟผ.) เปิดเผยว่า ปี 2558 คาดการณ์ว่าการใช้ไฟฟ้าของประเทศจะเติบโตประมาณ 4% ตามทิศทางเศรษฐกิจของประเทศโดยจะส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค)ของปีหน้าจะทะลุระดับ 2.8 หมื่นเมกะวัตต์แต่ด้วยปริมาณสำรองไฟที่มีอยู่จะไม่กระทบต่อปริมาณไฟฟ้าให้ขาดแคลนได้รวมถึงกฟผ.ยังเตรียมแผนรับมือการหยุดซ่อมบำรุงท่อก๊าซธรรมชาติจากพม่าช่วงเม.ย.58 และพื้นที่พัฒนาร่วมไทย -มาเลเซีย(JDA)บล็อคA-18 เดือนมิ.ย.58 เอาไว้พร้อมแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ปัญหาการหยุดจ่ายก๊าซฯของทั้ง 2 แหล่งเพื่อหยุดซ่อมบำรุงจะไม่กระทบต่อการจ่ายไฟฟ้าในภาคใต้ให้เกิดปัญหาไฟตกดับเช่นปี 2556 และจะดีขึ้นค่อนข้างมากเนื่องจากกฟผ.ได้วางแผนปรับปรุงโรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลาให้สามารถเดินเครื่องดีเซลได้ด้วยซึ่งจะแล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ดังนั้นเมื่อมีการหยุดจ่ายก๊าซฯช่วงกลางปีหน้าก็จะสามารถเดินเครื่องดีเซลได้ทันที นอกจากนี้ยังจะมีการรณรงค์ให้ภาคเอกชนร่วมประหยัดไฟในช่วงหยุดจ่ายก๊าซฯซึ่งกำลังหารือกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ถึงมาตรการจูงใจให้เอกชนเข้าร่วม
อย่างไรก็ตามระยะยาวไทยยังคงมีความจำเป็นต้องกระจายแหล่งเชื้อเพลิงในการผลิตไฟเพื่อลดความเสี่ยงโดยถ่านหินจะเป็นอีกเชื้อเพลิงหนึ่งที่จะเข้ามาเสริมการใช้ก๊าซฯที่สูงถึง 70% โดยเฉพาะในส่วนของโรงไฟฟ้าทดแทนแม่เมาะ และโรงไฟฟ้ากระบี่ โดยในส่วนของกระแสข่าวโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทดแทนแม่เมาะหน่วย 4-7 กำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ที่ถูกตรวจสอบขั้นตอนการประมูลนั้นยืนยันว่าทุกอย่างยังเดินหน้าและสามารถชี้แจงได้ว่าเป็นไปตามขั้นตอนโดยเฉพาะวงเงินการลงทุนมีการกำหนดไว้ที่ 36,811 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2555 และผ่านความเห็นชอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)แล้ว ไม่ได้มีการปรับเพิ่มภายหลังแต่อย่างใด
“ วงเงินเท่าเดิมและอัตราค่าไฟฟ้าจากถ่านหินแม่เมาะก้กำหนดไว้ 1.84 บาทต่อหน่วยไม่มีการเปลี่ยนอะไรและกำลังรอเข้าบอร์ดคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ความคืบหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ 800 เมกะวัตต์ นั้นขณะนี้กำลังรอการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ(คชก.)ภายในเดือนธ.ค.นี้ซึ่งหากไม่มีปัญหาอะไรทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามแผน”ผู้ว่ากฟผ.กล่าว