xs
xsm
sm
md
lg

สนช.อ้างกม.จ่อคิวยาววันหยุดเยอะ เลื่อนถอดถอด"ปู-นิคม-สมศักดิ์"ปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.พ.เจตน์ ศิระธรานนท์ โฆษกวิปสนช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปสนช. มีมติให้กำหนดการประชุมเพื่อเปิดสำนวนคดี นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปเป็นวันที่ 8 ม.ค. 58 และกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปเป็นวันที่ 9 ม.ค. 58 จากนั้นจะมีการกำหนดกรอบเวลา เช่น กำหนดให้มีการซักถามผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง พร้อมทั้งแถลงปิดสำนวน รวมถึงการโหวตไม่เกิน 1 เดือน
ทั้งนี้ เนื่องจากข้อบังคับการประชุมสนช.ไม่ได้กำหนดว่า เมื่อเปิดประชุมนัดแรกแล้วจะสามารถกำหนดวันได้เลย ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสนช. เป็นผู้กำหนด แต่เนื่องจากผู้ถูกร้องคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ขอเพิ่มพยานหลักฐานเป็นจำนวนมาก รวมถึงคลิปวีดีโอด้วย ซึ่งสมาชิก สนช. อาจต้องใช้เวลาในการศึกษา และการเพิ่มพยานเอกสารที่อยู่ในข้อบังคับ ระบุถึงพยานเอกสารที่เคยยื่นต่อป.ป.ช. แต่ไม่ได้รับการพิจารณา หรือพยานเอกสารที่พบภายหลัง หรือที่เรียกว่าหลักฐานใหม่จากที่มีอยู่เดิม แต่เอกสารพยานหลักฐานดังกล่าวยังต้องยึดสิ่งที่อยู่ในสำนวนเป็นหลัก จากนี้ไปก็จะมอบหมายให้วิปไปทำการศึกษา อีกทั้งในเดือนธันวาคม มีวันหยุดราชการจำนวนมาก และร่างกฎหมายที่อยู่ในวาระสอง วาระสาม ก็มีอยู่จำนวนมากจึงต้องเร่งให้เสร็จก่อน
"วันที่มีการแถลงเปิดสำนวนของทั้ง 2 กรณี จะเปิดโอกาสให้ 2 ฝ่ายคือ ป.ป.ช และ ทนายของผู้ถูกร้อง หรือผู้ถูกร้องเอง ได้แถลง และซักค้าน สลับกันไป โดยจะไม่ได้เป็นการตอบโต้กันไปมา ซึ่งสมาชิกสนช. จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนนี้ ส่วนคณะกรรมาธิการซักถามจำนวน 21 คน จะมีการแต่งตั้งในวันแถลงเปิดคดี ประกอบด้วย สัดส่วนจากวิป 5 คน จากกรรมาธิการแต่ละคณะจำนวน 16 คน และสมาชิกต้องมีการเสนอญัตติให้กรรมาธิการมีการซักถามเกี่ยวกับวันที่แถลงเปิดสำนวนเพื่อให้กรรมาธิการ ได้ไปประชุมเพื่อกำหนดกรอบในการซักถามว่าควรเป็นอย่างไร เพราะจะต้องมีการแปลงคำพูดของผู้เสนอญัตติว่า เมื่อแปลงไปว่าโอเค หรือไม่" น.พ.เจตน์ กล่าวพร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการยื้อเวลาแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ นายนิคม จะคัดค้าน16 สนช. ที่เคยเป็น อดีตส.ว.ไม่ให้ร่วมพิจารณาถอดถอนตนเองนั้น น.พ.เจตน์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสนช. จะมีมติเป็นอย่างไร ส่วนของตนเองที่ก็เป็นหนึ่งในอดีตส.ว.ไม่มีปัญหา หากมติสนช.เป็นอย่างไร ก็พร้อมปฏิบัติตาม
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่เดิมสนช.ได้มีการบรรจุวาระการประชุมสนช. ประจำวันที่ 27 พ.ย. โดยมีวาระเร่งด่วนเรื่องพิจารณาดำเนินกระบวนการถอดถอน นายนิคม นายสมศักดิ์ ออกจากตำแหน่ง และ วาระการประชุมในวันที่ 28 พ.ย. ก็มีวาระเร่งด่วนพิจารณากรณีดำเนินกระบวนการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่ง แต่เมื่อวิปมีมติกำหนดให้เปิดคดีในวันที่ 8 และ 9 ม.ค 58 ก็จะทำให้การประชุม สนช. ในวันที่ 27 -28 พ.ย.จะไม่มีการพิจาณาเรื่องการถอดถอน โดยจะมีเฉพาะเรื่องการพิจารณากฎหมายทั่วไปเท่านั้น
ด้านนายยุทธนา ทรัพย์เจริญ โฆษกวิป สนช. กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณากรณีที่ ป.ป.ช.เสนอ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่ม พ.ร.ป.ว่าด้วยป.ป.ช. เป็นการเร่งด่วนแล้ว มีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นหนึ่งชุดจำนวน 30 คน แยกเป็นจากรัฐบาล 10 คน สนช. 20 คน ซึ่งจะเน้นตัวแทนจากกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรรมาธิการตำรวจ 8 คน กรรมาธิการ การเมือง 4 คน กรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน 3 คน ส่วนที่เหลือก็เป็น สนช. เพื่อศึกษาเนื้อหารายละเอียดใน ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ก่อนที่จะเข้าที่ประชุมสนช. เพื่อรับหลักการ เนื่องจากแม้ป.ป.ช. จะมีอำนาจเสนอให้แก้ไขกฎหมายโดยตรง แต่ทางวิปเห็นว่า เนื้อหาในร่างกฎหมายมีหลายประเด็นที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ทั้งตำรวจ อัยการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมถึงการต่างประเทศ เนื่องจากมีการอ้างว่า จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้เป็นไปตามอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านคอร์รัปชัน ที่สำคัญยังไมได้ผ่านการขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา มาก่อน
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องสอบถามความเห็นผู้ปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งป.ป.ช. ก็รับได้ ไม่มีปัญหา โดยเชื่อว่า ร่างกฎหมายนี้จะผ่านการพิจารณาเร็วกว่าช่วงมีสภาตามปกติ
ส่วนกรณีที่มีการท้วงติงว่า มีการให้อำนาจ ป.ป.ช.มากเกินไป รวมถึงเพิกถอนสิทธิ ผู้ที่ไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินตลอดชีวิตนั้น ยอมรับว่า ในที่ประชุมวิปมีการยกขึ้นมาหารือ และแสดงความเป็นห่วงว่า รุนแรงเกินไปหรือไม่ โดยมีบางคนไม่เห็นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น