ฮือฮา! ตั้ง “ณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร” เป็นทูตไทยประจำเขมร คนใหม่ หลังพ่วงตำแหน่งกรรมการอิสระ และประธานกรรมการสรรหาและกรรมการบรรษัทภิบาล ใน ปตท.สผ .เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ปตท. โชว์หนังสือศาลฯส่งให้สตง. เมื่อ 10 มี.ค. 52 ยืนยันดำเนินการคืนท่อก๊าซฯตามคำพิพากษาของศาลฯครบถ้วน ถามกลับทำไมสตง.เก็บเงียบ พร้อมแอ่นอกรับฟ้อง”ธีระชัย”อดีตรมว.คลังเหตุกล่าวหาปตท.ให้ข้อมูลเท็จต่อศาลฯ ท้าปตท.ผิดจริงให้ไปฟ้อง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 57 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน จำนวน 9 ราย โดยหนึ่งในนั้นมีนายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา คนใหม่ ยังมีตำแหน่งในบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. ด้วย โดยดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ และประธานกรรมการสรรหาและกรรมการบรรษัทภิบาล ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
โดยใน เว็บไซต์ ปตท.สผ. นายณัฏฐวุฒิ เคยแสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่า “ผลักดันให้ ปตท.สผ. เป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมชั้นนำในภูมิภาค ที่มีความเป็นเลิศทั้งในด้านเทคโนโลยีและการบริหารจัดการ เพื่อสร้างมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่เป็นสากลและความมั่นคงทางด้านพลังงานอย่างยั่งยืนให้กับประเทศและภูมิภาค มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการ เพื่อเป็นองค์กรที่สง่างาม เป็นที่รู้จักและยอมรับจากสังคมในวงกว้างและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่องค์กรอื่นๆ ของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค”
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่นายพิสิษฐ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินระบุว่าปตท.ยังคืนท่อก๊าซธรรมชาติให้แผ่นดินไม่ครบนั้นยืนยันว่าได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดครบถ้วนแล้วตั้งแต่22ธันวาคม2551 พร้อมได้รายงานไปยังศาลฯ ซึ่งต่อมาวันที่26ธันวาคม2551และ20กุมภาพันธ์ 2552สตง.ได้ทำหนังสือท้วงติงไปและศาลฯเองได้ทำหนังสือตอบกลับ สตง.ลงวันที่10มีนาคม 2552 ระบุว่าผู้ถูกฟ้องได้ดำเนินการตามคำพิพากษาเรียบร้อยแล้ว
"ปตท.ยึดตาคำสั่งศาลเราทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ผม เองก็ถามศาลฯมาตลอดละได้รับการยืนยันวามีหนังสือถึงสตง.นานแล้วผมเองก็เพิงรู้ว่ามีหนังสือถึงเมื่อ ต.ค.นี้เองแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมสตง.เก็บเรื่องนี้ไม่เอาหนังสือนี้มาเปิดเผยและได้คุยกับคุณพิสิทธิ์แลวซึ่งก็มีสิทธ์จะชี้ประเด็นได้และเรื่อนี้ก็เป็นเรื่องของ สตง.กับศาลฯและหากยึดกฏหมายสูงสุดที่มีฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ศาลฯก็เป็นอำนาจสูงสุดที่ปตท.ยึดซึ่งถ้าศาลฯตัดสินใม่ก็ไม่มีปัญหา"นายไพรินทร์กล่าว
นายไพรินทร์กลาวว่า ศาลฯได้มีคำสั่ง14ธันวาค, 50ให้ปตท.ดำเนินการโอนทรัพย์สินที่ได้จากอำนาจมหาชนในการรอนสิทธิ์โดยให้เวลา3เดือน ซึ่งท่อก๊าซฯในทะลอยู่ในทะเลห่างจากฝั่ง400กิโลเมตรเกิน12ไมล์ทะเลตามหลักสากลจึงไม่ต้องรอนสิทธิ์และปตท.ก็ใช้เงินลงทุนของตนเองจึงไม่ต้องคืนรัฐ ซึ่งวันที่18ม.ค.50ครม.รับทราบคำสั่งศาลและให้ปตท.ไปดำเนินการแต่ช่วงนั้นกำลังจะมีพ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงานซึ่งการดำเนินโอนท่อให้กรมธนารักษ์จึงล่าช้าและขอขยายเวลา4ครั้งใช้เวลาดำเนินการปประมาณ1ปี กว่าจะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ปตท.ได้รายงานศาลฯตลอดการทำงานรวมถึงผู้เกี่ยวข้องได้รายงานความคืบหน้าให้ศาลรับทราบตลอดรวม 9 ครั้ง จนกระทั่งดำเนินการโอนได้เสร็จสิ้นและเสนอต่อศาลครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่22ธนวาคม2551
อย่างไรก็ตามกรณีของนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตนยอมรับว่าได้ดำเนินการยื่นฟ้องไปแล้วกรณีระบุว่าปตท.ให้ข้อมูลเท็จกับศาลฯทำให้เกิดการคืนท่อก๊าซฯไม่ครบซึ่งตรงนี้ถือเป็นการละเมิดปตท.จึงต้องฟ้องฯ และหากปตท.ผิดจริงทำไมคุณธีระชัยไม่ไปฟ้องร้องที่ศาลฯ
"ผมยืนยันว่าได้ให้ข้อมูลศาลฯไปหมดแล้วตั้งแต่ปี2551ซึ่งถ้าคุณธีระชัยละเมิดศาลฯก็เป็นเรืองของศาลฯแต่ถ้าละเมิดปตท.ผมก็ต้องฟ้องซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลสมัยนายชวน หลีกภัยได้กำหนดพระราชบัญญัติการแปรรูปรัฐวิสาหกิจซึ่งปตท.เป็น1ใน4ที่ได้ถูกแปรรูปซึ่งการแปรรูปปตท.มาสำเร็จได้ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เป็ฯนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงกรคลังยังคงถือหุ้นใหญ่"นายไพรินทร์กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 57 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน จำนวน 9 ราย โดยหนึ่งในนั้นมีนายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา คนใหม่ ยังมีตำแหน่งในบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. ด้วย โดยดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ และประธานกรรมการสรรหาและกรรมการบรรษัทภิบาล ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
โดยใน เว็บไซต์ ปตท.สผ. นายณัฏฐวุฒิ เคยแสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่า “ผลักดันให้ ปตท.สผ. เป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมชั้นนำในภูมิภาค ที่มีความเป็นเลิศทั้งในด้านเทคโนโลยีและการบริหารจัดการ เพื่อสร้างมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่เป็นสากลและความมั่นคงทางด้านพลังงานอย่างยั่งยืนให้กับประเทศและภูมิภาค มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการ เพื่อเป็นองค์กรที่สง่างาม เป็นที่รู้จักและยอมรับจากสังคมในวงกว้างและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่องค์กรอื่นๆ ของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค”
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่นายพิสิษฐ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินระบุว่าปตท.ยังคืนท่อก๊าซธรรมชาติให้แผ่นดินไม่ครบนั้นยืนยันว่าได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดครบถ้วนแล้วตั้งแต่22ธันวาคม2551 พร้อมได้รายงานไปยังศาลฯ ซึ่งต่อมาวันที่26ธันวาคม2551และ20กุมภาพันธ์ 2552สตง.ได้ทำหนังสือท้วงติงไปและศาลฯเองได้ทำหนังสือตอบกลับ สตง.ลงวันที่10มีนาคม 2552 ระบุว่าผู้ถูกฟ้องได้ดำเนินการตามคำพิพากษาเรียบร้อยแล้ว
"ปตท.ยึดตาคำสั่งศาลเราทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ผม เองก็ถามศาลฯมาตลอดละได้รับการยืนยันวามีหนังสือถึงสตง.นานแล้วผมเองก็เพิงรู้ว่ามีหนังสือถึงเมื่อ ต.ค.นี้เองแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมสตง.เก็บเรื่องนี้ไม่เอาหนังสือนี้มาเปิดเผยและได้คุยกับคุณพิสิทธิ์แลวซึ่งก็มีสิทธ์จะชี้ประเด็นได้และเรื่อนี้ก็เป็นเรื่องของ สตง.กับศาลฯและหากยึดกฏหมายสูงสุดที่มีฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ศาลฯก็เป็นอำนาจสูงสุดที่ปตท.ยึดซึ่งถ้าศาลฯตัดสินใม่ก็ไม่มีปัญหา"นายไพรินทร์กล่าว
นายไพรินทร์กลาวว่า ศาลฯได้มีคำสั่ง14ธันวาค, 50ให้ปตท.ดำเนินการโอนทรัพย์สินที่ได้จากอำนาจมหาชนในการรอนสิทธิ์โดยให้เวลา3เดือน ซึ่งท่อก๊าซฯในทะลอยู่ในทะเลห่างจากฝั่ง400กิโลเมตรเกิน12ไมล์ทะเลตามหลักสากลจึงไม่ต้องรอนสิทธิ์และปตท.ก็ใช้เงินลงทุนของตนเองจึงไม่ต้องคืนรัฐ ซึ่งวันที่18ม.ค.50ครม.รับทราบคำสั่งศาลและให้ปตท.ไปดำเนินการแต่ช่วงนั้นกำลังจะมีพ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงานซึ่งการดำเนินโอนท่อให้กรมธนารักษ์จึงล่าช้าและขอขยายเวลา4ครั้งใช้เวลาดำเนินการปประมาณ1ปี กว่าจะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ปตท.ได้รายงานศาลฯตลอดการทำงานรวมถึงผู้เกี่ยวข้องได้รายงานความคืบหน้าให้ศาลรับทราบตลอดรวม 9 ครั้ง จนกระทั่งดำเนินการโอนได้เสร็จสิ้นและเสนอต่อศาลครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่22ธนวาคม2551
อย่างไรก็ตามกรณีของนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตนยอมรับว่าได้ดำเนินการยื่นฟ้องไปแล้วกรณีระบุว่าปตท.ให้ข้อมูลเท็จกับศาลฯทำให้เกิดการคืนท่อก๊าซฯไม่ครบซึ่งตรงนี้ถือเป็นการละเมิดปตท.จึงต้องฟ้องฯ และหากปตท.ผิดจริงทำไมคุณธีระชัยไม่ไปฟ้องร้องที่ศาลฯ
"ผมยืนยันว่าได้ให้ข้อมูลศาลฯไปหมดแล้วตั้งแต่ปี2551ซึ่งถ้าคุณธีระชัยละเมิดศาลฯก็เป็นเรืองของศาลฯแต่ถ้าละเมิดปตท.ผมก็ต้องฟ้องซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลสมัยนายชวน หลีกภัยได้กำหนดพระราชบัญญัติการแปรรูปรัฐวิสาหกิจซึ่งปตท.เป็น1ใน4ที่ได้ถูกแปรรูปซึ่งการแปรรูปปตท.มาสำเร็จได้ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เป็ฯนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงกรคลังยังคงถือหุ้นใหญ่"นายไพรินทร์กล่าว