โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สร้างความพินาศมหาศาลเกินความคาดหมาย ล่าสุดประเมินว่า อาจย่อยยับถึง 1.3 ล้านล้านบาท ประมาณครึ่งหนึ่งของเงินงบประมาณแผ่นดิน
ตัวเลขความเสียหายประเมินเบื้องต้นที่ประมาณ 7 แสนล้านบาท ยังไม่ได้รวมถึงสต็อกข้าวตามโกดังต่างๆ ซึ่งกลายเป็นข้าวที่เสื่อมคุณภาพ และจะต้องเสียหายอีกประมาณ 6 แสนล้านบาท
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังมีหน้ามายิ้มร่าได้อีกหรือ เมื่อสร้างความวิบัติให้ประเทศอย่างใหญ่หลวง และคงต้องใช้หนี้จากโครงการมหาโกงจำนำข้าวเกือบ 1 ชั่วอายุคน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะมีปัญญาอะไรมารับผิดชอบกับหนี้ที่ร่วมกันก่อไว้ให้ลูกหลาน
นางสาวยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีทั้งคณะ จะมีน้ำหน้าอะไรมาชดใช้ความเสียหาย แม้ติดคุก 7 ชั่วโคตร ก็ยังไม่สาสมกับความผิด
แต่กลับมีข้อถกเถียงกันว่า รัฐมนตรีที่สวาปามโครงการรับจำนำข้าว จนอ้วนเป็นหมูตอนตามๆ กันนั้น จะถูกลากคอมาเข้าคุกหรือไม่
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เสียแล้ว สำหรับโครงการรับจำนำข้าวที่ถูกสุมหัวกันโกง จนขาดทุนป่นปี้ถึงประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท และนำประเทศไปสู่ความล่มจมได้
คนไทยประมาณ 65 ล้านคน จะต้องแบกหนี้โดยทั่วหน้า คนละ 20,000 บาท จากฝีมือของนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ดันทุรังผลักดันโครงการรับจำนำข้าว สร้างหนี้ให้ทุกคน ตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดงที่เพิ่งเกิดใหม่ร้องอุแว้ๆ จนถึงคนชราที่ลมหายใจเหลือน้อยเต็มที
โครงการรับจำนำข้าว เป็นการทุจริตที่อำมหิต โจ๋งครึ่ง ไม่มีความละอายในการโกง เพราะแม้จะเตือนนางสาวยิ่งลักษณ์อย่างไร ก็ไม่ยอมฟัง
ทุกฝ่ายช่วยกันเตือนแล้ว แต่เธอทำเป็นหูทวนลม ทุกองค์กรจี้ให้ป้องกันการทุจริตแล้ว แต่กลับทำเป็นแกล้งใบ้บ้า และถูลู่ถูกังจนประเทศเสียหายอย่างหนัก
โครงการรับจำนำข้าวถูกตั้งธงไว้แล้ว ตามเปิดยุทธการปล้นประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเปิดทางให้เหล่าสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรโกงกันทุกหย่อมหญ้า
ประเทศจะฉิบหายขายตัว รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำไมต้องสำนึก เพราะชั่วโมงนั้น ขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณทุกคนอยู่ในสภาพเสือหิว ตะกละตะกลาม ใครใคร่โกง โกงกันเข้าไป นางสาวยิ่งลักษณ์ดูเหมือนจะเปิดไฟเขียวผ่านตลอด
แม้แต่ในรัฐสภา ยุคนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือฉายาประธาน “ขี้ข้า” ยังเปิดโครงการจัดซื้อนาฬิกาที่ราคาแพงเกินจริงจนหาซื้อที่ไหนไม่ได้ในโลก การซื้อไมค์ที่สูงเกินกว่าราคามาตรฐานในโลก เรียกว่าโกงกันหน้าด้านๆ ไม่อายฟ้าอายดิน
สำหรับหนี้โครงการรับจำนำข้าวที่นางสาวยิ่งลักษณ์สร้างเวรไว้ กระทรวงการคลัง เตรียมออกพันธบัตรประมาณ 8 แสนล้านบาท เพื่อล้างหนี้ ซึ่งหมายถึงจะต้องก่อหนี้สาธารณะก้อนใหม่ โดยประชาชนต้องร่วมกันชดใช้ความโสโครกที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ถ่ายอุจจาระไว้กองโต
และอนาคตอันใกล้ อาจต้องออกพันธบัตรรุ่นใหม่อีกจำนวน 6 แสนล้านบาท สำหรับหนี้จากข้าวในสต็อกที่เสื่อมคุณภาพ
หนี้สาธารณะล่าสุดสิ้นเดือนสิงหาคม 2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 5.65 ล้านล้านบาท หรือ 46.46% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยเพดานการก่อหนี้กำหนดไว้ไม่เกิน 60% ของจีดีพี
ถ้าม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ออกพันธบัตรระดมเงิน 8 แสนล้านบาท เพื่อสางหนี้โครงการรับจำนำข้าว และต้องออกพันธบัตรตามมาอีก 6 แสนล้านบาท ล้างอุจจาระจากสต็อกข้าวเน่า
รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอีก 1.3 ล้านล้านบาท ยังไม่รวมการก่อหนี้สาธารณะอีกหลายแสนล้านบาท เพื่อชดเชยงบประมาณขาดดุล ยอดหนี้สาธารณะพุ่งสู่ระดับอันตราย
โกงจำนำข้าว พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ได้โกงด้วย เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แต่ต้องตามเช็ดอุจจาระที่นางสาวยิ่งลักษณ์ถ่ายไว้ชนิดเหม็นคลุ้งไปทั่วโลก
ยอดหนี้สาธารณะที่มีอยู่เดิม 5.65 ล้านล้านบาท จะพุ่งขึ้นพรวดเดียวเป็นประมาณ 7 ล้านล้านบาท สัดส่วนหนี้สาธารณะจะแตะระดับ 60% ของจีดีพี ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตเต็มรูปแบบ พร้อมล้มละลายได้ทันที
ยอดหนี้สาธารณะที่พุ่งแตะระดับอันตราย จะส่งผลให้การก่อหนี้ใหม่ยุ่งยากขึ้น เพราะไม่มีประเทศไหนอยากปล่อยกู้ หรือหากปล่อยกู้จะคิดดอกเบี้ยสูง เนื่องจากอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือลดลง ทำให้ประเทศต้องแบกภาระต้นทุนทางการเงินมากขึ้น
และหากต้องเข้ารับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ประเทศไทยจะถูกตีเส้นให้ดำนินนโยบายทางเศรษฐกิจ ภายใต้คำบงการของไอเอ็มเอฟ
มาตรการรัดเข็มขัด การจำกัดงบประมาณรายจ่าย จะถูกนำมาใช้อย่างเข้มงวด ประชาชนต้องเดือดร้อน ประเทศจะข้นแค้นเหมือนหลายประเทศที่ล้มละลาย
แต่ตระกูลชินวัตร นักการเมืองลูกสมุนที่ร่วมกันปล้นประเทศ คงหอบเงินหนีไปเสวยสุขในต่างประเทศ เช่นเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณที่ขนเงินของคนไทยไปใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยในต่างแดนขณะนี้
นางสาวยิ่งลักษณ์ ทิ้งหนี้ให้ประเทศ 1.3 ล้านล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าวเพียงโครงการเดียว ก่อหนี้ให้ประชาชนทั้งประเทศประมาณ 65 ล้านคน เฉลี่ยหนี้ต้องแบกร่วมกันคนละประมาณ 20,000 บาท โดยลูกหลานต้องร่วมกันตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวตระกูลชินวัตรนับชั่วอายุคน
ลูกสมุนขี้ข้าที่ออกมาเชียร์ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” พอเข้าใจได้ เพราะทาสรับใช้ไร้ราคาเหล่านี้ ร่วมก่อกรรมทำชั่ว สมคบคิดปล้นประเทศด้วยกัน จึงต้องร่วมปกปิดความชั่ว
แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมมวลชนคนเสื้อแดงจึงยังคิดไม่เป็น มหาโจรร้ายใจอำมหิตที่ปล้นเงินแผ่นดิน ปล้นทรัพย์สมบัติบรรพบุรุษของคนไทยทุกคน ปล้นแม้กระทั่งลูกหลานที่ต้องใช้หนี้กันหัวโต
ทำไมคนเสื้อแดงยังหลงบูชาอย่างหัวปักหัวปำ แทนที่จะรุมประณาม เจอหน้า “ทักษิณ์ ยิ่งลักษณ์” ที่ไหน ต้องช่วยกันตะโกนสาปแช่ง ไม่ใช่บ้าเห่อขอถ่ายรูปคู่
พี่น้องตระกูลชินวัตรที่ทำลายประเทศ จริงๆ แล้วไม่ควรมีที่ให้ยืน ไม่ว่าประเทศไทยหรือแผ่นดินส่วนไหนของโลก
ความผิดมหันต์ถึงขั้นทำลายชาติ แต่กลับไม่มีใครล่าไล่ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยแสดงความร้อนรนกระตือรือร้นลากคอคนในตระกูลชินวัตร มาลงโทษให้สาสมกับความผิด
ประเทศต้องล่มจมเพราะพี่น้องตระกูลชินวัตร แต่ยังมีหน้ามาเถียงเรื่องควรการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์หรือไม่ บ้ากันไปหรือเปล่าประเทศไทย
ตัวเลขความเสียหายประเมินเบื้องต้นที่ประมาณ 7 แสนล้านบาท ยังไม่ได้รวมถึงสต็อกข้าวตามโกดังต่างๆ ซึ่งกลายเป็นข้าวที่เสื่อมคุณภาพ และจะต้องเสียหายอีกประมาณ 6 แสนล้านบาท
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังมีหน้ามายิ้มร่าได้อีกหรือ เมื่อสร้างความวิบัติให้ประเทศอย่างใหญ่หลวง และคงต้องใช้หนี้จากโครงการมหาโกงจำนำข้าวเกือบ 1 ชั่วอายุคน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะมีปัญญาอะไรมารับผิดชอบกับหนี้ที่ร่วมกันก่อไว้ให้ลูกหลาน
นางสาวยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีทั้งคณะ จะมีน้ำหน้าอะไรมาชดใช้ความเสียหาย แม้ติดคุก 7 ชั่วโคตร ก็ยังไม่สาสมกับความผิด
แต่กลับมีข้อถกเถียงกันว่า รัฐมนตรีที่สวาปามโครงการรับจำนำข้าว จนอ้วนเป็นหมูตอนตามๆ กันนั้น จะถูกลากคอมาเข้าคุกหรือไม่
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เสียแล้ว สำหรับโครงการรับจำนำข้าวที่ถูกสุมหัวกันโกง จนขาดทุนป่นปี้ถึงประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท และนำประเทศไปสู่ความล่มจมได้
คนไทยประมาณ 65 ล้านคน จะต้องแบกหนี้โดยทั่วหน้า คนละ 20,000 บาท จากฝีมือของนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ดันทุรังผลักดันโครงการรับจำนำข้าว สร้างหนี้ให้ทุกคน ตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดงที่เพิ่งเกิดใหม่ร้องอุแว้ๆ จนถึงคนชราที่ลมหายใจเหลือน้อยเต็มที
โครงการรับจำนำข้าว เป็นการทุจริตที่อำมหิต โจ๋งครึ่ง ไม่มีความละอายในการโกง เพราะแม้จะเตือนนางสาวยิ่งลักษณ์อย่างไร ก็ไม่ยอมฟัง
ทุกฝ่ายช่วยกันเตือนแล้ว แต่เธอทำเป็นหูทวนลม ทุกองค์กรจี้ให้ป้องกันการทุจริตแล้ว แต่กลับทำเป็นแกล้งใบ้บ้า และถูลู่ถูกังจนประเทศเสียหายอย่างหนัก
โครงการรับจำนำข้าวถูกตั้งธงไว้แล้ว ตามเปิดยุทธการปล้นประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเปิดทางให้เหล่าสมุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรโกงกันทุกหย่อมหญ้า
ประเทศจะฉิบหายขายตัว รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำไมต้องสำนึก เพราะชั่วโมงนั้น ขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณทุกคนอยู่ในสภาพเสือหิว ตะกละตะกลาม ใครใคร่โกง โกงกันเข้าไป นางสาวยิ่งลักษณ์ดูเหมือนจะเปิดไฟเขียวผ่านตลอด
แม้แต่ในรัฐสภา ยุคนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือฉายาประธาน “ขี้ข้า” ยังเปิดโครงการจัดซื้อนาฬิกาที่ราคาแพงเกินจริงจนหาซื้อที่ไหนไม่ได้ในโลก การซื้อไมค์ที่สูงเกินกว่าราคามาตรฐานในโลก เรียกว่าโกงกันหน้าด้านๆ ไม่อายฟ้าอายดิน
สำหรับหนี้โครงการรับจำนำข้าวที่นางสาวยิ่งลักษณ์สร้างเวรไว้ กระทรวงการคลัง เตรียมออกพันธบัตรประมาณ 8 แสนล้านบาท เพื่อล้างหนี้ ซึ่งหมายถึงจะต้องก่อหนี้สาธารณะก้อนใหม่ โดยประชาชนต้องร่วมกันชดใช้ความโสโครกที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ถ่ายอุจจาระไว้กองโต
และอนาคตอันใกล้ อาจต้องออกพันธบัตรรุ่นใหม่อีกจำนวน 6 แสนล้านบาท สำหรับหนี้จากข้าวในสต็อกที่เสื่อมคุณภาพ
หนี้สาธารณะล่าสุดสิ้นเดือนสิงหาคม 2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 5.65 ล้านล้านบาท หรือ 46.46% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยเพดานการก่อหนี้กำหนดไว้ไม่เกิน 60% ของจีดีพี
ถ้าม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ออกพันธบัตรระดมเงิน 8 แสนล้านบาท เพื่อสางหนี้โครงการรับจำนำข้าว และต้องออกพันธบัตรตามมาอีก 6 แสนล้านบาท ล้างอุจจาระจากสต็อกข้าวเน่า
รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอีก 1.3 ล้านล้านบาท ยังไม่รวมการก่อหนี้สาธารณะอีกหลายแสนล้านบาท เพื่อชดเชยงบประมาณขาดดุล ยอดหนี้สาธารณะพุ่งสู่ระดับอันตราย
โกงจำนำข้าว พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ได้โกงด้วย เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แต่ต้องตามเช็ดอุจจาระที่นางสาวยิ่งลักษณ์ถ่ายไว้ชนิดเหม็นคลุ้งไปทั่วโลก
ยอดหนี้สาธารณะที่มีอยู่เดิม 5.65 ล้านล้านบาท จะพุ่งขึ้นพรวดเดียวเป็นประมาณ 7 ล้านล้านบาท สัดส่วนหนี้สาธารณะจะแตะระดับ 60% ของจีดีพี ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตเต็มรูปแบบ พร้อมล้มละลายได้ทันที
ยอดหนี้สาธารณะที่พุ่งแตะระดับอันตราย จะส่งผลให้การก่อหนี้ใหม่ยุ่งยากขึ้น เพราะไม่มีประเทศไหนอยากปล่อยกู้ หรือหากปล่อยกู้จะคิดดอกเบี้ยสูง เนื่องจากอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือลดลง ทำให้ประเทศต้องแบกภาระต้นทุนทางการเงินมากขึ้น
และหากต้องเข้ารับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ประเทศไทยจะถูกตีเส้นให้ดำนินนโยบายทางเศรษฐกิจ ภายใต้คำบงการของไอเอ็มเอฟ
มาตรการรัดเข็มขัด การจำกัดงบประมาณรายจ่าย จะถูกนำมาใช้อย่างเข้มงวด ประชาชนต้องเดือดร้อน ประเทศจะข้นแค้นเหมือนหลายประเทศที่ล้มละลาย
แต่ตระกูลชินวัตร นักการเมืองลูกสมุนที่ร่วมกันปล้นประเทศ คงหอบเงินหนีไปเสวยสุขในต่างประเทศ เช่นเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณที่ขนเงินของคนไทยไปใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยในต่างแดนขณะนี้
นางสาวยิ่งลักษณ์ ทิ้งหนี้ให้ประเทศ 1.3 ล้านล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าวเพียงโครงการเดียว ก่อหนี้ให้ประชาชนทั้งประเทศประมาณ 65 ล้านคน เฉลี่ยหนี้ต้องแบกร่วมกันคนละประมาณ 20,000 บาท โดยลูกหลานต้องร่วมกันตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวตระกูลชินวัตรนับชั่วอายุคน
ลูกสมุนขี้ข้าที่ออกมาเชียร์ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” พอเข้าใจได้ เพราะทาสรับใช้ไร้ราคาเหล่านี้ ร่วมก่อกรรมทำชั่ว สมคบคิดปล้นประเทศด้วยกัน จึงต้องร่วมปกปิดความชั่ว
แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมมวลชนคนเสื้อแดงจึงยังคิดไม่เป็น มหาโจรร้ายใจอำมหิตที่ปล้นเงินแผ่นดิน ปล้นทรัพย์สมบัติบรรพบุรุษของคนไทยทุกคน ปล้นแม้กระทั่งลูกหลานที่ต้องใช้หนี้กันหัวโต
ทำไมคนเสื้อแดงยังหลงบูชาอย่างหัวปักหัวปำ แทนที่จะรุมประณาม เจอหน้า “ทักษิณ์ ยิ่งลักษณ์” ที่ไหน ต้องช่วยกันตะโกนสาปแช่ง ไม่ใช่บ้าเห่อขอถ่ายรูปคู่
พี่น้องตระกูลชินวัตรที่ทำลายประเทศ จริงๆ แล้วไม่ควรมีที่ให้ยืน ไม่ว่าประเทศไทยหรือแผ่นดินส่วนไหนของโลก
ความผิดมหันต์ถึงขั้นทำลายชาติ แต่กลับไม่มีใครล่าไล่ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยแสดงความร้อนรนกระตือรือร้นลากคอคนในตระกูลชินวัตร มาลงโทษให้สาสมกับความผิด
ประเทศต้องล่มจมเพราะพี่น้องตระกูลชินวัตร แต่ยังมีหน้ามาเถียงเรื่องควรการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์หรือไม่ บ้ากันไปหรือเปล่าประเทศไทย