00 คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นทั้งหัวหน้า คสช. และนายกฯ หลังจากกลับจากร่วมประชุมระดับนานาชาติมาถึงแผ่นดินเกิดว่า "ผมไม่พังเพราะเพื่อน หรือพี่ๆ น้องๆ" อย่างแน่นอน ถ้าใครทุจริตก็ต้องถูกดำเนินคดี พูดออกมาทำนองนี้แหละ แม้ว่าจะไม่ใช่ถอดมาแบบคำต่อคำ แต่ความหมายไม่ได้ผิดเพี้ยนหรอก นั่นก็แสดงว่า เขาก็รับรู้ถึงสัญญาณในด้านลบเข้ามา และเริ่มมีเสียงนินทาแบบนี้เข้าหูมากขึ้นเรื่อยๆ
00 รับรู้กันไม่ยากอยู่แล้วว่า ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตาม ถ้าหากมีเรื่องอื้อฉาว ทุจริต เกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ตาม ต่อให้ตัวผู้นำหรือนายกฯ หรือหัวหน้าคณะรัฐประหารคนใด มีอำนาจล้นฟ้าแค่ไหนก็มีแต่ความ "เสื่อมถอย" อยู่ไม่ได้นาน ด้วยเหตุนี้กระมัง ที่ทุกครั้งที่มีโอกาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ"ลุงตู่" ของหลายคนมักจะเน้นย้ำอยู่ตลอดเวลา "ไม่โกง ไม่รับประโยชน์สักบาทเดียว" ทางหนึ่งต้องการการันตี และยืนยันถึงหลักการทำงาน การแก้ปัญหาที่เขาเป็นผู้นำ แต่อีกด้านหนึ่งมันจะรับประกันไปได้ทั้งหมดทุกคนได้หรือเปล่า มันเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบแบบที่เรียกว่าเป็น "ผลสัมฤทธิ์" อย่างที่ชอบพูดติดปากก่อนหน้านี้
00 ต้องยอมรับว่า คสช. และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเน้นย้ำเรื่อง "ไม่ทุจริต" แต่คำถามก็คือ ที่ผ่านมาได้ "จัดการกับคนโกง" บ้างแล้วหรือยัง ไม่เคยมีท่าทีเร่งรัดคดีทุจริต มีแต่อ้างว่า "ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม" ในสถานการณ์"พิเศษ" แบบนี้เขาเรียกว่า "ซื้อเวลา" ไม่ทำอะไรเลย หรืออีกความเคลื่อนไหวหนึ่งก็คือ ข่าวคราวที่ทำให้เห็นว่า "ปรองดองกับคนโกง" ไม่เคยมีท่าทีเร่งรัดคดี หรือนำตัวคนโกงคนที่สร้างความเสียหายกับบ้านเมืองมาลงโทษ พูดให้ตรงเป้าก็ได้ เคยคิดที่จะนำตัว ทักษิณ ชินวัตร มาลงโทษบ้างมั๊ย ง่ายๆ แค่สั่งให้ดำเนินการถอดยศ ริบเครื่องราชย์ เพิกถอนหนังสือเดินทาง เคยทำบ้างหรือเปล่า หรือเคยเรียกคนที่เดินทางไปพบที่ต่างแดนมาสอบถามที่อยู่ หรือปกปิดนักโทษหลบหนีคดีหลบหนีหมายจับ หรือเปล่า
00 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรู้บ้างหรือเปล่าว่า ต้นตอของปัญหาในบ้านเมืองทุกวันนี้ ส่วนสำคัญมาจากความไม่ยุติธรรม เลือกปฏิบัติพวกใครพวกมัน และการบังคับใช้กม.ไม่เคร่งครัด และเท่าเทียม ที่จริงปัญหาบ้านเมืองมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ถ้าทำเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ไม่ลูบหน้าปะจมูก รวยจนไม่เกี่ยว ใครทำผิด โกง ก็ต้องถูกดำเนินคดี ต้องติดคุกตามกฎหมายที่มีอยู่ครบถ้วนแล้ว แต่ที่ต้องมีการปฏิรูปกันอย่างที่เห็นมันก็
เป็นเพราะชาวบ้านเขาตื่นตัว และทนไม่ไม่ไหวต่างหาก แต่ในที่สุดแล้วมันก็อาจเป็นแค่ปาหี่ในบั้นปลายอีกก็ได้
00 รู้หรือเปล่าว่า ท่าทีการยึกยักการพิจารณาถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในสนช. จากกลุ่ม "สายทหาร" ในสายของ "พี่ๆ" ได้ทำลายความศรัทธาลงไปจมหู คำพูดของ พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่รับรู้กันดีว่า แนบแน่นอยู่กับ "พี่ป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะเพียงแค่ว่า รับหรือไม่รับพิจารณาเท่านั้นยังต้องยื้อ ในสถานการณ์พิเศษที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จแบบนี้ มัน"เสียของ" เสียความคาดหวัง แต่อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาตามความเป็นจริงเราก็ลืมไปว่า เหตุผลที่ คสช.เข้ามาไม่ใช่เข้ามาเพื่อจัดการกับเรื่อง"ทุจริต" แต่เหตุผลที่เข้ามา"ระงับเหตุ" ป้องกันไม่ให้คนไทยฆ่ากัน จากความขัดแย้งเท่านั้น ไม่ได้พูดถึงความล้มเหลว ทุจริตของรัฐบาลชุดก่อน ดังนั้นเป้าหมายปรองดอง จึงถูกแล้วไง !!
00 รับรู้กันไม่ยากอยู่แล้วว่า ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตาม ถ้าหากมีเรื่องอื้อฉาว ทุจริต เกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ตาม ต่อให้ตัวผู้นำหรือนายกฯ หรือหัวหน้าคณะรัฐประหารคนใด มีอำนาจล้นฟ้าแค่ไหนก็มีแต่ความ "เสื่อมถอย" อยู่ไม่ได้นาน ด้วยเหตุนี้กระมัง ที่ทุกครั้งที่มีโอกาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ"ลุงตู่" ของหลายคนมักจะเน้นย้ำอยู่ตลอดเวลา "ไม่โกง ไม่รับประโยชน์สักบาทเดียว" ทางหนึ่งต้องการการันตี และยืนยันถึงหลักการทำงาน การแก้ปัญหาที่เขาเป็นผู้นำ แต่อีกด้านหนึ่งมันจะรับประกันไปได้ทั้งหมดทุกคนได้หรือเปล่า มันเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบแบบที่เรียกว่าเป็น "ผลสัมฤทธิ์" อย่างที่ชอบพูดติดปากก่อนหน้านี้
00 ต้องยอมรับว่า คสช. และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเน้นย้ำเรื่อง "ไม่ทุจริต" แต่คำถามก็คือ ที่ผ่านมาได้ "จัดการกับคนโกง" บ้างแล้วหรือยัง ไม่เคยมีท่าทีเร่งรัดคดีทุจริต มีแต่อ้างว่า "ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม" ในสถานการณ์"พิเศษ" แบบนี้เขาเรียกว่า "ซื้อเวลา" ไม่ทำอะไรเลย หรืออีกความเคลื่อนไหวหนึ่งก็คือ ข่าวคราวที่ทำให้เห็นว่า "ปรองดองกับคนโกง" ไม่เคยมีท่าทีเร่งรัดคดี หรือนำตัวคนโกงคนที่สร้างความเสียหายกับบ้านเมืองมาลงโทษ พูดให้ตรงเป้าก็ได้ เคยคิดที่จะนำตัว ทักษิณ ชินวัตร มาลงโทษบ้างมั๊ย ง่ายๆ แค่สั่งให้ดำเนินการถอดยศ ริบเครื่องราชย์ เพิกถอนหนังสือเดินทาง เคยทำบ้างหรือเปล่า หรือเคยเรียกคนที่เดินทางไปพบที่ต่างแดนมาสอบถามที่อยู่ หรือปกปิดนักโทษหลบหนีคดีหลบหนีหมายจับ หรือเปล่า
00 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรู้บ้างหรือเปล่าว่า ต้นตอของปัญหาในบ้านเมืองทุกวันนี้ ส่วนสำคัญมาจากความไม่ยุติธรรม เลือกปฏิบัติพวกใครพวกมัน และการบังคับใช้กม.ไม่เคร่งครัด และเท่าเทียม ที่จริงปัญหาบ้านเมืองมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ถ้าทำเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ไม่ลูบหน้าปะจมูก รวยจนไม่เกี่ยว ใครทำผิด โกง ก็ต้องถูกดำเนินคดี ต้องติดคุกตามกฎหมายที่มีอยู่ครบถ้วนแล้ว แต่ที่ต้องมีการปฏิรูปกันอย่างที่เห็นมันก็
เป็นเพราะชาวบ้านเขาตื่นตัว และทนไม่ไม่ไหวต่างหาก แต่ในที่สุดแล้วมันก็อาจเป็นแค่ปาหี่ในบั้นปลายอีกก็ได้
00 รู้หรือเปล่าว่า ท่าทีการยึกยักการพิจารณาถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในสนช. จากกลุ่ม "สายทหาร" ในสายของ "พี่ๆ" ได้ทำลายความศรัทธาลงไปจมหู คำพูดของ พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่รับรู้กันดีว่า แนบแน่นอยู่กับ "พี่ป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะเพียงแค่ว่า รับหรือไม่รับพิจารณาเท่านั้นยังต้องยื้อ ในสถานการณ์พิเศษที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จแบบนี้ มัน"เสียของ" เสียความคาดหวัง แต่อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาตามความเป็นจริงเราก็ลืมไปว่า เหตุผลที่ คสช.เข้ามาไม่ใช่เข้ามาเพื่อจัดการกับเรื่อง"ทุจริต" แต่เหตุผลที่เข้ามา"ระงับเหตุ" ป้องกันไม่ให้คนไทยฆ่ากัน จากความขัดแย้งเท่านั้น ไม่ได้พูดถึงความล้มเหลว ทุจริตของรัฐบาลชุดก่อน ดังนั้นเป้าหมายปรองดอง จึงถูกแล้วไง !!
