xs
xsm
sm
md
lg

หลวงปู่ฯโพสต์เตือน"บิ๊กตู่" อย่าทำ”เสียของ”ซ้ำซาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวานนี้ (16 พ.ย. 57) หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์ข้อความถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศอยู่เสมอว่า คสช.จะอยู่ไม่นาน ขอทำการปฏิรูปให้เสร็จภายใน 1 ปีเศษ แล้วจะเปิดให้มีการเลือกตั้ง อีกทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ออกมาตีปี๊บว่า พร้อมให้มีการเลือกตั้งอย่างช้าเดือนก.พ. 2559 ข้าราชการน้อยใหญ่จึงเป็นขุนพลอยพยัก ร่วมประชุมรับฟังนโยบาย และข้อสั่งการจากรัฐบาล แล้วทุกอย่างกองไว้บนโต๊ะใส่เกียร์ว่าง เช้าชามเย็นชาม เป็นอยู่อย่างนี้มานานนับเดือน ผู้สั่งการ ก็ไม่ได้ตรวจสอบว่างานที่สั่งไป ได้ลงมือทำหรือไม่ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังไว้ใจข้าราชการ สั่งให้ทำงานแล้วไม่ตรวจสอบ ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอย ดังเช่นรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ได้อำนาจบริหารบ้านเมืองแล้วแต่ข้าราชการไม่เล่นด้วย เตะถ่วงจนเกิดวลีเด็ด "เสียของ"
หลวงปู่พุทธะอิสระ ระบุด้วยว่า ข้าราชการบางกลุ่มกำลังรวมหัวกับพวก เคลื่อนไหวที่จะล้มรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยพฤติการณ์มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ มีโอการจะยัดไส้ ดังมีตัวอย่างกับไมโครโฟนแพง ข้าราชการเหล่านี้ได้ดีมีตำแหน่งเพราะนักการเมือง ไม่ใช่ คสช. หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จึงขอเตือนให้ระมัดระวัง อย่าวางใจคนอื่น เพราะจะเสียทีด้วยความประมาท ให้เกียรติ เมตตา หรือให้โอกาส เวลานี้มีคนหลายกลุ่มจ้องทำลายโอกาส หากพล.อ.ประยุทธ์ ใจดี ใจอ่อน บ้านเมืองเสียหายแน่ การปฏิรูปล้มเหลวแน่

** ปชป.ส่งหนังสือขอประชุมพรรค

นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เชิญพรรคการเมืองไปแสดงความคิดเห็น เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปประเทศนั้น เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ผ่อนปรนกฎอัยการศึก ให้พรรคการเมืองสามารถประชุมได้ โดยมีการแนบวาระการประชุมไปด้วยว่า เป็นการระดมความคิดเห็นเรื่องการปฏิรูปประเทศ และการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันที่ 23 พ.ย. ทั้งนี้อยากให้ความคิดเห็นที่ออกไปเป็นมติพรรค เพราะเรา เป็นพรรคที่มีระบบ ไม่ใช่งุบงิบทำ
" หลังการปฏิวัติ ทางคสช.ก็เชิญพรรคการเมืองไปให้ความเห็นเรื่องการปฏิรูปประเทศแล้ว ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้ส่งความเห็นเป็นเอกสารไป แต่เวลานี้ คสช.กับ สปช. เป็นคนละส่วนกัน ก็อาจจะอยากฟังอีก และหาก คสช.อนุญาตให้มีการประชุมพรรค ทางพรรคก็จะมีมติมอบหมายให้หัวหน้าพรรค และตัวแทน ไปเสนอข้อคิดเห็นต่อคณะกรรมาธิการรัฐธรรมนูญ แต่ถ้า คสช. ไม่อนุญาต ก็ไม่เห็นไร นายอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค) ก็ยังคงไปให้ความเห็นอยู่ดี แต่อาจจะไม่เป็นมติพรรค เพราะไม่ต้องการให้คนในพรรคมาแย้งที่หลัง และการที่คสช.เห็นสมควรไม่ อนุญาตให้ประชุมก็อาจจะมีเกรงว่ามีคนฉวยโอกาสเราก็ยินดีรับฟัง" นายจุติ กล่าว

** กกต.เปิดศูนย์รับฟังความเห็น

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดตั้งศูนย์รับฟังความเห็นจากประชาชน เพื่อเสนอแนะข้อมูลในการปฏิรูป และจัดทำร่างรัฐธรรมนูญตามที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มอบหมายให้ดำเนินการว่า ขณะนี้สำนักงานกกต. ได้แจ้งประสานงานเกี่ยวกับการดำเนินการไปยัง กกต.จังหวัดทั้ง 77 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว และทางกกต.จังหวัด ก็ได้เริ่มเปิดศูนย์รับฟังความเห็นจากประชาชนฯทุกจังหวัดแล้ว โดยได้มีการประสานงานกับสมาชิกสปช.ประจำจังหวัด เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านธุรการต่างๆ รวมทั้งกำหนดให้สำนักงานกกต.จังหวัด เป็นที่ทำการในการปฏิบัติงานของสมาชิกสปช. และทีมงานด้วย
ทั้งนี้ หากประชาชนมีความประสงค์จะยื่นเรื่องเสนอแนะ ข้อมูล ข้อคิดเห็นต่างๆในการปฏิรูปประเทศ และยกร่างรัฐธรรมนูญก็สามารถมายื่นความเห็นได้ที่ทำการศูนย์รับฟังความเห็นฯ ในจังหวัดที่อาศัยอยู่ได้ทันที แต่ถ้ามายื่นความเห็นแล้วไม่พบกับสมาชิกสปช.โดยตรง ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานกกต. ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกพร้อมรับเรื่องไว้ และพร้อมที่จะประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรีบดำเนินการโดยด่วน
ส่วนเรื่องการจัดเวทีกลางเพื่อรับฟังความเห็นจากประชาชนนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานกกต. อยู่ระหว่างรอทางสปช. มอบหมาย ซึ่งถ้าหากมีการมอบหมายให้ดำเนินการ ทางสำนักงานกกต.ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม กกต.มองว่าการปฏิรูปประเทศและการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และช่วยปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่
นายภุชงค์ ยังถึงความคืบหน้า การตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ กกต.ว่า ขณะนี้การดำเนินงานของคณะทำงานดังกล่าว มีความคืบหน้าไปมาก เนื่องจากมีการจัดประชุมถึงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยคณะทำงานได้พยายามเร่งศึกษาปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยพิจารณาไล่ประมวลดูปัญหาด้านพรรคการเมือง การเลือกตั้ง การสืบสวนสอบสวน และการมีส่วนร่วม ตั้งแต่ปี 2541 มาจนถึงปัจจุบัน ว่ากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของกกต.นั้นมีปัญหาอุปสรรคหรือช่องว่างอย่างไรที่จำเป็นต้องมีการปรับปรุง เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศ และการยกร่างรัฐธรรมนูญที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า คณะทำงานที่ระดมความเห็นและศึกษาปัญหาต่างๆ นั้นได้ข้อมูลเป็นจำนวนมากพอสมควรแล้ว ซึ่งหากตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ก็จะเสนอความเห็นดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมกกต.เพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนที่จะนำความเห็นที่ได้ดำเนินการนั้นส่งต่อไปให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พิจารณาอย่างเป็นทางการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น