ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
การจัดระเบียบสังคม พุ่งเป้ากวาดล้างแหล่งอบายมุข ตัดตอนขบวนการ “ส่วย” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทหารสนธิกำลังกับตำรวจและกรุงเทพมหานคร เข้าทลายแหล่งค้าประเวณีและยาเสพติด โดยเปิดสถานบันเทิงบังหน้าในท้องที่ สน.ประเวศ
ไรเดอร์ รีสอร์ทและคุ้มพระราม สถานบันเทิงกับอาบ อบ นวด ในซอยเฉลิมพระเกียรติ 49 ทำให้นายตำรวจตั้งแต่ ผู้กำกับการ ลงไปถึงตำรวจชั้นประทวนกว่า 20 นายของสน.ประเวศ ถูกย้ายเข้ากรุทันที 30 วัน พร้อมถูกตั้งกรรมการสอบวินัย
และยังมีตำรวจในหน่วยงานอื่น รอถูกชำระสะสางความผิด
เพราะการทลายแหล่งอบายมุขแห่งนี้ ทหารสามารถยึดโพยรายชื่อตำรวจที่รับส่วยจากไรเดอร์ รีสอร์ทและคุ้มพระราม สามารถเล่นงานตำรวจที่รู้เห็นเป็นใจกับคนกระทำผิดคาหนังคาเขา
การจัดระเบียบสังคม ทลายบ่อนการพนัน ปราบอิทธิพล “ส่วย” วินรถรับจ้าง ทุบตู้ม้าตู้เกมพนัน ไล่ปิดสถานบันเทิงเปิดเกินเวลา ห้ามตำรวจจราจรเรียกรับสินบน หรือแม้แต่การเร่งปราบปราบยาเสพติด ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
ทหารตักตวงคะแนนนิยมอย่างอิ่มเอม กับมาตรการตัดแขนตัดขา ทำลายแหล่งหากินของตำรวจ ทุกหม้อข้าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้อง
เป็นที่รู้กันอยู่ว่า ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตำรวจทุกสังกัดหน่วยงาน ใส่เครื่องแบบรับส่วยกันทั้งสิ้น และตำรวจรับส่วยอะไรตรงไหน ใครๆ ก็รู้กันหมด แต่ไม่เคยมีรัฐบาลชุดใดล้างส่วยอย่างจริงจัง
มาตรการปราบส่วย จัดระเบียบตำรวจ จึง “โดนใจ” เพราะถ้าตำรวจเลิกรับส่วย ไม่ใส่เครื่องแบบรีดไถ และกลับมาตั้งใจทำงานรับใช้ประชาชน ปัญหาสังคมจะลดน้อยลงทันตาเห็น
ต้นธารของความชั่วร้าย ต้นตอของปัญหาความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรม ต้นเหตุแห่งอาชญากรรมหรือปัญหาสังคมด้านต่างๆ เกิดจากตำรวจทั้งสิ้น
ถ้าตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา ไม่รับส่วย ไม่อาศัยเครื่องแบบรีบไถ ผิดว่าตามผิด ถูกว่าตามถูก สังคมคงไม่วุ่นวาย ประชาชนคนไทยคงไม่ระส่ำระสายเกิดความแตกแยก จนแทบฆ่ากันตาย
แต่เพราะตำรวจเห็นแก่ผลประโยชน์เป็นใหญ่ ไร้สำนึกความรับผิดชอบในหน้าที่ ผิดว่าเป็นถูก ถูกทำให้เป็นผิด ยอมก้มหัวรับใช้นักการเมือง ประเทศจึงแทบลุกเป็นไฟ ประชาชนหาความสงบสุขไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์เดินมาถูกทางแล้ว ทหารกำลังเป็นฮีโร่ ไล่ต้อนตำรวจจนมุม ตกอยู่ในฐานะลูกไก่ในกำมือ คสช. จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด
แต่ คสช.จะขี้เยี่ยวให้สุดหรือไม่ จะล้างบางโจรสวมเครื่องแบบสีกากีจริงจังขนาดไหนเท่านั้น
กระแสศรัทธาที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังเหนี่ยวรั้งไว้ได้ น่าจะเหลือพียงเรื่องเดียวแล้วคือ การจัดระเบียบสังคม การประจานหน้าตำรวจที่ก้มหน้าก้มตา ทำมาหากิน บนความเสื่อมทรามของสังคม
ถ้าไม่มีเรื่องการจัดระเบียบสังคม ไม่จัดการกับส่วยตำรวจ ไม่รุกฆาตสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คสช.คงไม่แตกต่างจาก คมช.ในการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยไม่มีผลงานแก้ปัญหาด้านใดเลย กลายเป็นการยึดอำนาจที่ “เสียของ”
ส่วน คสช.ก็มีผลงานการจัดระเบียบสังคม ซึ่งทำให้พล.อ.ประยุทธ์ขี่กระแสความศรัทธาได้ แต่ถ้าขี้เยี่ยวไม่สุด ความศรัทธาที่เกิดจากผลงานเพียงด้านเดียวก็จะตกต่ำ จนในที่สุด ทั้งพล.อ.ประยุทธ ทั้งคสช.จะไม่เหลือความศรัทธาใดๆ เลย
ถึงตอนนั้นพล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ยากแล้วละ
การจัดระเบียบสังคม ทำลายแหล่งผลประโยชน์ของตำรวจ ทุบหม้อข้าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ประชาชนทั้งประเทศสนับสนุนทหาร และอยากเห็นการรุกไล่เล่นงานตำรวจอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ผลงานการแก้ปัญหาตำรวจที่โดนใจ คสช.ก็ได้มาเพียงการสร้างภาพเท่านั้น แต่ยังไม่ได้แก้ปัญหาตำรวจอย่างจริงจัง
พฤติกรรมของตำรวจยังไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ธุรกิจมืดยังดำเนินต่อไป การรีดไถ รับส่วย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้หมดลงแต่อย่างใด
ทหารที่ยกกำลังไปจัดบ่อน ปิดสถานบันเทิง กวาดล้างกลุ่มอิทธิพลที่บุกรุกป่า หรือจัดระเบียบแก้ปัญหาส่วยต่างๆ นั้น เป็นเพียงขี้ผงของปัญหาทั้งหมดที่ตำรวจสร้างไว้
และแม้จะเปิดโปงพฤติกรรมอันแสนอัปยศของตำรวจ แต่ คสช.ก็แค่ใช้ไม้นวมกับตำรวจเท่านั้น
ทหารจับบ่อนพื้นที่ไหน ปิดสถานบันเทิงเปิดเกินเวลาท้องที่ใด พบความผิดตำรวจคนใดรับส่วย บทลงโทษหนังสุด ก็เพียงแค่ย้ายออกจากพื้นที่ชั่วคราวเท่านั้น ไม่กี่วันอาจกลับมารับส่วยในท้องที่เดิมใหม่
ต่อให้ทหารระดับปฏิบัติการ ไล่จับธุรกิจผิดกฎหมายให้ตาย บุกทลายแหล่งส่งส่วยของตำรวจตลอด 24 ชั่วโมง ก็ไม่มีวันจัดระเบียบสังคมให้ดีได้ ตราบใดที่ คสช.ยังไว้หน้าตำรวจ ตราบใดที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่กล้าที่จะชำระล้างความชั่วร้ายที่ฝังตัวมาตั้งแต่ก่อตั้งกรมตำรวจ
มาตรการกวาดล้าง “ส่วย”ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เป็นเพียงการ “ตีกิน”คะแนนนิยม ระดับความสำเร็จที่ได้ อยู่ในขั้นการ “สร้างภาพ” เท่านั้น
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้ลงมือถือมีดหมอผ่าตัดใหญ่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างจริงจัง และไม่เข้าใจเหมือนกันว่า หัวหน้า คสช.กลัวอะไรนักหนากับตำรวจ
เพราะถ้าไม่กล้าลงมีดตำรวจ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธจะหมดจุดขาย รอเวลานับถอยหลังแยกย้ายกลับไปเลี้ยงหลานบ้านใครบ้านมันเท่านั้น
เป็นถึงผู้นำประเทศ เป็นถึงหัวหน้าคณะ คสช. มีทหาร 3 เหล่าทัพสนับสนุนเต็มที่ มีประชาชนส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นทั้งประเทศ ถ้าปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้ ปล่อยให้ตำรวจลอยนวลต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ยังกล้าที่จะนั่งบริหารประเทศอยู่อีกหรือ