xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.อัดสนข. หมกเม็ดงบฯ ขนส่งทางราง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เสนอยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ของไทย พ.ศ. 2558 –2565 ต่อคสช. โดยยุทธศาสตร์นี้ มี 5 แผนงาน ใช้วงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท ว่า ตนดูรายละเอียดแล้วพบว่า แผนงานนี้รวมตัวเลขได้ 3.44 ล้านล้านบาท ไม่ใช่ 2.4 ล้านล้านบาท โดยมีโครงการที่โดดเด่น คือ การก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขนาดราง 1.435 เมตร วิ่งความเร็วสูงสุด 160 กม.ต่อชม. รวม 2 เส้นทาง คือ (1) หนองคาย–นครราชสีมา–ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 737 กม. วงเงิน 392,570 ล้านบาท (2) เชียงของ–เด่นชัย–บ้านภาชี ระยะทาง 655 กม. วงเงิน 348,890 ล้านบาท รวม 2 เส้นทาง 741,460 ล้านบาท จากนั้นยุทธศาสตร์ดังกล่าว ถูกปรับเปลี่ยนตลอดมา จนถึงวันนี้ ได้ปรับเปลี่ยนวงเงินเป็นกว่า 3 ล้านล้านบาท อีกทั้งโครงการรถไฟทางคู่ ขนาดราง 1.435 เมตร วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จำนวน 2 เส้นทาง ก็ถูกเปลี่ยนเป็น 3 เส้นทาง ประกอบด้วย (1) กรุงเทพฯ-นครราชสีมา และนครราชสีมา-มาบตาพุด (2) กรุงเทพฯ-ระยอง และ (3) นครราชสีมา-หนองคาย พร้อมทั้งปรับเพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเปลี่ยนชื่อโครงการจากรถไฟทางคู่ ขนาดราง 1.435 เมตร เป็นรถไฟความเร็วสูง
"เมื่อเห็นเส้นทางก็รู้ได้ทันทีว่า เป็นการดัดแปลงจากแผนแม่บทรถไฟความเร็วสูง ที่ทำขึ้นในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ จึงงง ที่สนข.กล้าปรับเปลี่ยนแผนแม่บทที่ผ่านการศึกษามาแล้ว มาเป็นเส้นทางจากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และ นครราชสีมา-มาบตาพุด และนึกไม่ออกว่า จะมีใครคิดจะเดินทาง หรือขนส่งสินค้าจากกรุงเทพฯไปมาบตาพุด โดยผ่านนครราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางที่อ้อมให้เสียเวลา จึงเห็นว่า ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ปี 58-65 หากต้องการสร้างรถไฟความเร็วสูง ก็ควรระบุให้ชัดไปเลยว่า เป็นรถไฟความเร็วสูง ไม่ใช่รถไฟทางคู่ ขนาดราง 1.435 เมตร และหากเป็นเช่นนั้น ก็ควรพิจารณาเพิ่มความเร็วสูงสุดของรถไฟความเร็วสูงเป็น 250-300 กม. ต่อชม. พร้อมกำหนดวงเงินของยุทธศาสตร์ให้ชัดเจน เพื่อที่จะหาแนวทางระดมเงินทุนได้ ซึ่งทั้งหมดตนอยากเห็น สนข. เป็นหลักที่ยืนหยัดอยู่บนเหตุผลทางวิชาการ ให้กับทุกรัฐบาล ไม่โอนเอนไปตามกระแสทางการเมือง" นายสามารถ ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น