ในการคาดการณ์หรือพยากรณ์เหตุการณ์บ้านเมือง ซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยการนำวิชาโหราศาสตร์มาเป็นเครื่องมือ โดยปกติจะอาศัยดาว 3 ดวง คือ
1. ดาวพฤหัสบดีหรือเลข 5 ซึ่งมีระยะเวลาในการโคจรราศีละ 1 ปีโดยมีความหมายในทางพยากรณ์เป็น 2 นัย คือ
ก. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมได้แก่ ความถูกต้อง ศีลธรรม โอกาส และสติปัญญา เป็นต้น
ข. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้แก่ บุคคลในระดับบริหาร นักบวช ตุลาการ และนักปราชญ์ เป็นต้น
2. ดาวเสาร์หรือเลข 7 ซึ่งมีระยะเวลาในการโคจรราศีละ 2 ปี 6 เดือน โดยมีความหมายในทางพยากรณ์ 2 นัยคือ
ก. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมได้แก่ ความทุกข์ ความเดือดร้อน การพลัดพรากจากบุคคลหรือที่อยู่ เป็นต้น
ข. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้แก่ ผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร เป็นต้น
3. ดาวราหูหรือเลข 8 ซึ่งมีระยะเวลาในการโคจรราศีละ 1 ปี 6 เดือน โดยมีความหมายในการพยากรณ์เป็น 2 นัย คือ
ก. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมได้แก่ ความโลภ ความอยากได้จนออกนอกหน้า จนสติควบคุมไม่ได้ เป็นต้น
ข. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้แก่ พ่อค้า นักการเมือง และบุคคลทั่วไปที่มีพฤติกรรมแสวงหาในทางมิชอบนอกกรอบแห่งกฎหมาย และศีลธรรม เป็นต้น
ดวงเมืองหรือดวงพระฤกษ์ฝังเสาหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ณ วันอาทิตย์ขึ้น 10 ค่ำเดือน 6 ปีขาล จัตวาศก จุลศักราช 1144 สุริยคติกาลกำหนดวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2325 เวลา 06.54 น.
ดาวจรจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2558 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดจะอยู่ในอำนาจ
1. ดาวพฤหัสบดีโคจรในราศีกรกฎในตำแหน่งมหาอุจจากนี้ไปจนถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2558
2. ดาวเสาร์โคจรในราศีตุล และจะโคจรเข้าสู่ราศีพิจิกในวันที่ 26 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ และจะโคจรอยู่ในราศีพิจิกจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2560
3. ดาวราหูโคจรอยู่ในราศีกันย์ และจะอยู่ในราศีนี้ไปจนถึงวันที่ 16 มกราคม 2559
เมื่อนำดาวจรข้างต้นมาเปรียบเทียบเพื่อหาความสัมพันธ์กับดวงเดิมก็จะพบว่า ดาวพฤหัสบดีโคจรในเรือนพันธุหรือเป็น 4 กับลัคนา และเป็น 3 กับอังคารเจ้าเรือนลัคนาให้คุณแก่ดวงเมือง และรัฐบาลในอันที่จะใช้คุณธรรม ความยุติธรรม รวมไปถึงความโปร่งใสในการแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ดีขึ้นได้
ดาวเสาร์โคจรในเรือนปัตนิตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2555 จะเห็นได้ว่าตลอดเวลาในช่วงนี้บ้านเมืองวุ่นวาย แตกแยก แต่เมื่อดาวเสาร์โคจรพ้นระยะให้โทษบ้านเมืองก็เปลี่ยนแปลงในทางดีขึ้น
แต่เสาร์ที่โคจรในราศีพิจิกก็ส่งผลกระทบถึงรัฐบาลในทางลบสองเรื่องคือ
เรื่องแรกเสาร์เล็งอังคารเจ้าเรือนลัคนาจะทำให้รัฐบาลพบกับปัญหาการกดดันจากเกษตรกรในเรื่องราคาพืชผล และจากผู้ใช้แรงงานในเรื่องค่าแรงเนื่องจากข้าวของแพง
เรื่องที่สองเสาร์ถึงศุกร์ จะส่งผลให้รัฐบาลประสบปัญหาการเงินการคลัง ขาดเงินในการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือเกษตรกร และแก้ปัญหาความเดือดร้อนที่เกี่ยวข้อง ดาวราหูในเรือนอริอุปสรรคและศัตรูของรัฐบาลได้แก่ การก่อหนี้ที่ทำได้ยากขึ้น เนื่องจากหาแหล่งเงินกู้ยาก และดอกเบี้ยแพงทำให้ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ในทำนองเดียวกับปี 2539-2540
นอกจากนี้ราหูในเรือนนี้ยังทำมุมถึงอังคาร ส่งผลให้รัฐบาลต้องพบกับปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน ที่แก้ไขยาก เนื่องจากตัวปัญหาอยู่ใกล้ผู้แก้ไขปัญหาจึงทำให้หนักใจ
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดูดาวพฤหัสบดีแล้วเชื่อได้ว่า สุดท้ายแล้วผู้นำรัฐบาลจะต้องเลือกความถูกต้อง และเป็นธรรมโดยยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง จึงทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
ดังนั้น การปรับ ครม.รวมไปถึงการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงบุคลากรในภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาคงจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในช่วงธันวาคม-มีนาคม 2558
ทั้งหมดนี้คือการคาดการณ์โดยอาศัยดวงดาว 3 ดวง และเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงจะได้รับการแก้ไข โดยอาศัยความเป็นธรรม และยุติธรรมเป็นตัวนำทั้งในการปรับ ครม.และโยกย้ายข้าราชการจะต้องเกิดขึ้นโดยยึดระบบคุณธรรม และงดเว้นการใช้ระบบอุปถัมภ์ ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งดาวพฤหัสบดี แต่ก็ต้องระหวังอิทธิพลของราหูที่ฝังตัวอยู่ในรัฐบาล และข้าราชการประจำ ซึ่งรัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา อาจเป็นตัวปัญหาเสียเอง นี่คืออิทธิพลของราหูที่ทำมุมกับอังคาร
สุดท้ายหวังว่าข้อเขียนนี้จะทำให้ผู้อ่านซึ่งสนใจโหราศาสตร์ได้แนวทางแห่งการพยากรณ์ และรัฐบาลได้แนวทางแห่งการแก้ปัญหาถึงแม้จะไม่มากก็ระดับหนึ่ง
แต่ถ้าจะให้การคาดการณ์ถูกต้องแม่นยำกว่านี้ ผู้เขียนขอให้ท่านผู้เป็นโหรนำเอาดวงของผู้นำรัฐบาล และครม.ที่รับผิดชอบแก้ปัญหามาพิจารณาร่วมด้วย ก็จะทำให้การคาดการณ์ถูกต้องยิ่งขึ้น
1. ดาวพฤหัสบดีหรือเลข 5 ซึ่งมีระยะเวลาในการโคจรราศีละ 1 ปีโดยมีความหมายในทางพยากรณ์เป็น 2 นัย คือ
ก. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมได้แก่ ความถูกต้อง ศีลธรรม โอกาส และสติปัญญา เป็นต้น
ข. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้แก่ บุคคลในระดับบริหาร นักบวช ตุลาการ และนักปราชญ์ เป็นต้น
2. ดาวเสาร์หรือเลข 7 ซึ่งมีระยะเวลาในการโคจรราศีละ 2 ปี 6 เดือน โดยมีความหมายในทางพยากรณ์ 2 นัยคือ
ก. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมได้แก่ ความทุกข์ ความเดือดร้อน การพลัดพรากจากบุคคลหรือที่อยู่ เป็นต้น
ข. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้แก่ ผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร เป็นต้น
3. ดาวราหูหรือเลข 8 ซึ่งมีระยะเวลาในการโคจรราศีละ 1 ปี 6 เดือน โดยมีความหมายในการพยากรณ์เป็น 2 นัย คือ
ก. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมได้แก่ ความโลภ ความอยากได้จนออกนอกหน้า จนสติควบคุมไม่ได้ เป็นต้น
ข. ถ้าหมายถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้แก่ พ่อค้า นักการเมือง และบุคคลทั่วไปที่มีพฤติกรรมแสวงหาในทางมิชอบนอกกรอบแห่งกฎหมาย และศีลธรรม เป็นต้น
ดวงเมืองหรือดวงพระฤกษ์ฝังเสาหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ณ วันอาทิตย์ขึ้น 10 ค่ำเดือน 6 ปีขาล จัตวาศก จุลศักราช 1144 สุริยคติกาลกำหนดวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2325 เวลา 06.54 น.
ดาวจรจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2558 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดจะอยู่ในอำนาจ
1. ดาวพฤหัสบดีโคจรในราศีกรกฎในตำแหน่งมหาอุจจากนี้ไปจนถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2558
2. ดาวเสาร์โคจรในราศีตุล และจะโคจรเข้าสู่ราศีพิจิกในวันที่ 26 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ และจะโคจรอยู่ในราศีพิจิกจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2560
3. ดาวราหูโคจรอยู่ในราศีกันย์ และจะอยู่ในราศีนี้ไปจนถึงวันที่ 16 มกราคม 2559
เมื่อนำดาวจรข้างต้นมาเปรียบเทียบเพื่อหาความสัมพันธ์กับดวงเดิมก็จะพบว่า ดาวพฤหัสบดีโคจรในเรือนพันธุหรือเป็น 4 กับลัคนา และเป็น 3 กับอังคารเจ้าเรือนลัคนาให้คุณแก่ดวงเมือง และรัฐบาลในอันที่จะใช้คุณธรรม ความยุติธรรม รวมไปถึงความโปร่งใสในการแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ดีขึ้นได้
ดาวเสาร์โคจรในเรือนปัตนิตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2555 จะเห็นได้ว่าตลอดเวลาในช่วงนี้บ้านเมืองวุ่นวาย แตกแยก แต่เมื่อดาวเสาร์โคจรพ้นระยะให้โทษบ้านเมืองก็เปลี่ยนแปลงในทางดีขึ้น
แต่เสาร์ที่โคจรในราศีพิจิกก็ส่งผลกระทบถึงรัฐบาลในทางลบสองเรื่องคือ
เรื่องแรกเสาร์เล็งอังคารเจ้าเรือนลัคนาจะทำให้รัฐบาลพบกับปัญหาการกดดันจากเกษตรกรในเรื่องราคาพืชผล และจากผู้ใช้แรงงานในเรื่องค่าแรงเนื่องจากข้าวของแพง
เรื่องที่สองเสาร์ถึงศุกร์ จะส่งผลให้รัฐบาลประสบปัญหาการเงินการคลัง ขาดเงินในการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือเกษตรกร และแก้ปัญหาความเดือดร้อนที่เกี่ยวข้อง ดาวราหูในเรือนอริอุปสรรคและศัตรูของรัฐบาลได้แก่ การก่อหนี้ที่ทำได้ยากขึ้น เนื่องจากหาแหล่งเงินกู้ยาก และดอกเบี้ยแพงทำให้ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ในทำนองเดียวกับปี 2539-2540
นอกจากนี้ราหูในเรือนนี้ยังทำมุมถึงอังคาร ส่งผลให้รัฐบาลต้องพบกับปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน ที่แก้ไขยาก เนื่องจากตัวปัญหาอยู่ใกล้ผู้แก้ไขปัญหาจึงทำให้หนักใจ
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดูดาวพฤหัสบดีแล้วเชื่อได้ว่า สุดท้ายแล้วผู้นำรัฐบาลจะต้องเลือกความถูกต้อง และเป็นธรรมโดยยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง จึงทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
ดังนั้น การปรับ ครม.รวมไปถึงการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงบุคลากรในภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาคงจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในช่วงธันวาคม-มีนาคม 2558
ทั้งหมดนี้คือการคาดการณ์โดยอาศัยดวงดาว 3 ดวง และเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงจะได้รับการแก้ไข โดยอาศัยความเป็นธรรม และยุติธรรมเป็นตัวนำทั้งในการปรับ ครม.และโยกย้ายข้าราชการจะต้องเกิดขึ้นโดยยึดระบบคุณธรรม และงดเว้นการใช้ระบบอุปถัมภ์ ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งดาวพฤหัสบดี แต่ก็ต้องระหวังอิทธิพลของราหูที่ฝังตัวอยู่ในรัฐบาล และข้าราชการประจำ ซึ่งรัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา อาจเป็นตัวปัญหาเสียเอง นี่คืออิทธิพลของราหูที่ทำมุมกับอังคาร
สุดท้ายหวังว่าข้อเขียนนี้จะทำให้ผู้อ่านซึ่งสนใจโหราศาสตร์ได้แนวทางแห่งการพยากรณ์ และรัฐบาลได้แนวทางแห่งการแก้ปัญหาถึงแม้จะไม่มากก็ระดับหนึ่ง
แต่ถ้าจะให้การคาดการณ์ถูกต้องแม่นยำกว่านี้ ผู้เขียนขอให้ท่านผู้เป็นโหรนำเอาดวงของผู้นำรัฐบาล และครม.ที่รับผิดชอบแก้ปัญหามาพิจารณาร่วมด้วย ก็จะทำให้การคาดการณ์ถูกต้องยิ่งขึ้น