ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย... สุนันท์ ศรีจันทรา
ภาพการพบปะระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมีน้องไปป์ ลูกชายของนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นตัวประกอบ ถูกนำเสนอขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ที่ทรยศต่อวิชาชีพ หันมายกย่องคนโกงดุจเทวดา และเป็นหนังสือพิมพ์ค่ายใหญ่ที่ไม่เคยออกมาโต้แย้งข้อกล่าวหา การเป็นสื่อลูกสมุน “ทักษิณ” ซึ่งนำภาพระริกระรี้ระหว่างพี่ชายกับน้องสาวตระกูลชินวัตรเผยแพร่ทุกวัน เหมือนทำหน้าที่ “ประจบ”นายใหญ่ของตัวเอง
การที่พี่น้อง ญาติโกโหติกาตระกูลชินวัตรจะพบปะ นัดท่องเที่ยวหาความสำราญบานใจที่ไหนในโลก ไม่ใช่เรื่องหนักหัวใคร
และความพยายามทำตัวเป็นข่าว การสร้างละครและวานให้สื่อ “ขี้ข้า” เกาะติดรายงานความเคลื่อนไหว ไล่ตั้งแต่ที่ประเทศญี่ปุ่นและต่อไปยังสาธารณะรัฐประชาชนจีน ก็ไม่ใช่เรื่องหนังหัวใครอีกเช่นกัน
เพียงแต่อดสงสัยกันว่า พี่ชายและน้องสาวตระกูลนี้ ไม่มีตอมสำนึกถึงความผิดชอบชั่วดี ไม่มีเซลล์ความรู้สึกยางอายในร่างกายแม้แต่เซลล์เดียวหรือ
การสร้างภาพความชื่นบานกับนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ญี่ปุ่นและจีน เป็นการส่งสัญญาณให้ลูกสมุนรับรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่เลิกรา และพร้อมจะปลุกไพร่พลออกมาอาละวาดครั้งใหม่ เมื่อโอกาสเอื้ออำนวย โดย “ทักษิณ”อาจเห็นว่า เวลาใกล้เข้ามาแล้ว
ลูกสมุนที่ห้อยโหน พ.ต.ท.ทักษิณ ขี้ข้าที่ได้รับผลประโยชน์หรือตำแหน่งทางการเมือง อาจเตรียมตัวรอรับคำบงการสร้างความปั่นป่วนอยู่
คนเสื้อแดงเพียงหยิบมือที่หัวปรักหัวปรำ จนป่านนี้หูตายังไม่สว่าง อาจเคลิบเคลิ้ม พลอยมีความสุขที่เห็นพี่น้องตระกูลชินวัตรจูงมือกันเที่ยว
แต่สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ที่รู้ไส้รู้พุ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จับได้ไล่ทันตระกูลชินวัตร ย่อมมีความรู้สึกตรงกันข้ามกับคนเสื้อแดง และอาจมีคำถามอยู่ในใจ
ทำไมพี่น้องตระกูลชินวัตรจึงยังไม่เลิกรา ทำไมไม่ยอมอยู่เงียบๆ เสียบ้าง และเหตุใดจึงไม่รู้สึกสลดกับการก่อกรรมทำเข็ญไว้กับประเทศและประชาชน
พี่น้องตระกูลชินวัตรไม่อายตัวเองบ้างหรือ เพราะรู้ทั้งรู้อยู่ไม่ใช่หรือว่า การจัดฉากแสดงละครนัดเที่ยวกัน สร้างภาพได้เฉพาะหมู่คนเสื้อแดงที่เหลือเพียงยิบย่อยในประเทศนี้
แต่ประชาชนส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความสมเพชเวทนา
พ.ต.ท.ทักษิณและนางสาวชินวัตร ยังละเมอเพ้อภพว่าจะกลับมาเป็นใหญ่อีกหรือ ฝันเฟื่องไปได้อย่างไร หรือลูกสมุนคนใดนำความเท็จไปสอพลอเพื่อหลอกขอสตางค์
ถ้าเป็นคนจิตปกติ คงทำไม่ได้อย่างพี่น้องตระกูลชินวัตร โดยคงไม่กล้าออกมาโชว์ตัวที่ไหน นอกจากมุดหัวหนีความอาย เพราะทั้งคู่สร้างความบรรลัยไว้ไม่ใช่น้อย
ช่วงเวลาเพียง 5 ปีที่พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี การทุจริตคอรัปชั่นพุ่งขึ้นสูงลิบ สัมปทานโทรคมนาคมถูกขายให้ต่างชาติ รวมทั้งสัมปทานเส้นทางการบิน แผ่นดินของชาติถูกตัดแบ่งจำหน่าย ผู้นำประเทศเป็นแบบอย่างของการหลีกเลี่ยงภาษีเสียเอง คนโกงถูกสร้างให้เป็นวีรบุรุษในหมู่ประชาชนที่หูตามืดบอด
สังคมถูกมอมเมายั่วยุ จนเกิดความแตกแยกทุกหย่อมหญ้า
และช่วงเวลาเพียง 2 ปีเศษที่นางสาวยิ่งลักษณ์ถูกส่งให้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศถอยหลังสู่ความโสมมในทุกด้าน นักการเมืองแสดงตัวเป็นขี้ข้าอย่างเปิดเผย บ้านเมืองอยู่ในภาวะไร้ขื่อแปร ลูกสมุน พ.ต.ท.ทักษิณทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย โครงการรับจำนำข้าวกลายเป็นอภิมหาทุจริตระดับโลก สร้างความเสียหายย่อยยับ 7 แสนล้าน
สภาพสังคมเข้าสู่กลียุค ระบบเศรษฐกิจนับถอยหลังสู่ความพินาศ ข้าราชการกินเงินเดือนจากภาษี พากันทรยศประชาชน ตบเท้าก้มหัวรับใช้ผู้หญิงที่มีไอคิวต่ำ ระดับอ่านภาษาไทยผิดๆ ถูกๆ ความรู้ทั่วไปแทบไม่มี และกลายเป็นผู้นำสตรีคนแรกที่แสดงความโง่เขลาบนเวทีระดับโลก
ถ้าไม่มีความ “ทน”เป็นคุณลักษณ์พิเศษ พ.ต.ท.ทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ คงต้องแทรกแผ่นดินหนี หรือขุดรูอยู่ไปแล้ว เพราะเป็นบุคคลในตระกูลอันตรายที่ทำลายสิ่งดีงามของสังคมไทยก ทำลายแม้แต่คนดีมีคุณธรรมที่เสียสละเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม
แต่พี่น้องตระกูลชินวัตร สามัญสำนึกผิดมนุษย์มนาจากปุถุชนคนทั่วไป กิเลสหนากว่ามาตรฐานคนธรรมดา แรงอาฆาตความเครียดแค้นยังสุมหัว และยังจมปรักหมกมุ่นกับการกลับมามีอำนาจ เพื่อการล้างแค้น
ชีวิตของทั้งคู่จึงหาความสงบสุขไม่ได้ ทั้งที่ปล้นประเทศจนมีเงินล้นฟ้า และต้องร่อนเร่พเนจร เที่ยวตะรอนสร้างภาพ โดยไม่อายแม้แต่ใจตัวเอง ไม่อายแทนลูกหลานตระกูลชินวัตร ซึ่งจะถูกสังคมรุมประณามไปอีกนานหลายชั่วอายุคน
“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”คงนึกว่าเท่ห์เสียเต็มประดา สำหรับการแอ๊กท่าเริงร่าถ่ายรูปจูงมือกันเที่ยว โดยหารู้หรือไม่ว่า รูปสวยๆ ที่พี่น้องตระกูลชินวัตรส่งมาเยาะเย้ยกันนั้น คนไทยส่วนใหญ่เห็นแล้วสมเพช เห็นแล้วอาจทุเรศด้วยซ้ำ
ร่วมกันทำลายแผ่นดินเกิดจนลุกเป็นไฟ ยังมีหน้ามายิ้มระรื่นอีกเหรอ
ไอ้ที่คิดว่าจะกลับมากุมอำนาจอีกน่ะ เพี้ยนไปหรือเปล่า “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์”