xs
xsm
sm
md
lg

กว่าจะรู้ตัวทักษิณก็กลับมาแล้ว

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

5 เดือนกว่าเกือบ 6 เดือนแล้ว ไม่รู้ว่าใครได้รับความสุขคืนมาแล้วมั่ง แต่เห็นภาพพี่น้องชินวัตรในต่างแดนแล้วต้องยอมรับว่าเขามีความสุขจริงๆ เหมือนไม่เคยทำความเสียหายอะไรให้เกิดกับประเทศนี้ เหมือนไม่รับรู้ว่าประเทศนี้ได้รับความบอบช้ำเสียหายจากระบอบทักษิณมาแล้วขนาดไหน

มีคนบอกว่า เดิมทักษิณและยิ่งลักษณ์ สองพี่น้องชินวัตรมีโปรแกรมไปทอดกฐินที่อินเดีย แต่ถูก คสช.ขอร้องไว้จึงต้องเปลี่ยนใจไปประเทศจีนแทน ฟังแล้วเหมือนกับว่า มีการสื่อสารติดต่อระหว่าง คสช.กับทักษิณ แต่คงรู้ว่าถ้าไม่ออกมาแก้ข่าวอาจจะเสียหายทั้งสองฝ่าย ต่อมาฝ่ายทักษิณก็ให้คนมาบอกว่า ทักษิณกับยิ่งลักษณ์ไม่มีโปรแกรมไปอินเดียตั้งแต่ต้น ไม่ใช่เพราะ คสช.ขอมาแต่อย่างใด

ถ้าไม่ออกมาแก้ข่าวก็คงมีคนถามต่อว่า เมื่อทักษิณกับ คสช.คุยกันได้ แล้วที่ผ่านมาคุยเรื่องอะไรกันบ้าง เขาคุยกันมากกว่านี้หรือเปล่า

แต่ที่แน่ๆ ทักษิณออกมาปรามคนเสื้อแดงและส.ส.เพื่อไทยไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช.

“ตั้งแต่มีการชุมนุมของ กปปส.ทำให้เศรษฐกิจของประเทศทรุดตัวลงเรื่อยๆ และเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจ ก็ยิ่งทำให้ภาพรวมของประเทศเสียหายลง อย่างไรก็ตาม เมื่อขณะนี้จะมีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว ก็ต้องให้โอกาสเขาทำงานไป หากเราไปขัดขวางก็จะกลายเป็นว่า ไม่ให้ความร่วมมือกับประเทศ อะไรที่จะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องได้ ก็ควรให้การสนับสนุน อะไรที่จะเป็นประโยชน์ของประเทศ ก็ควรให้ความร่วมมือกับเขา ให้โอกาสเขาได้ทำงานอย่างเต็มที่” ทักษิณว่า

ซึ่งเราจะเห็นถึงกลิ่นอายของการประนีประนอมและถ้อยทีถ้อยอาศัยแก่กัน เพราะการปฏิวัติของ คสช.ครั้งนี้ไม่ได้มีเสียงโจมตีรัฐบาลที่ตัวเองยึดอำนาจเลย นอกจากบอกว่า ออกมาเพื่อยับยั้งความรุนแรงของประชาชนทั้งสองฝ่าย

แต่ถึงจะคุยกันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะนายทหารที่เข้ามายึดอำนาจคงไม่ได้คุยกับทักษิณฝ่ายเดียว เพราะฝ่ายกำนันสุเทพซึ่งนำมวลชนออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลก็มีท่าทีที่ดีกับการออกมาของ คสช.

เมื่อไม่นานมานี้หลังจากกลายเป็นพระแล้ว พระสุเทพยังออกมาการันตี คสช.ว่า “อาตมาไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ อาตมาเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำที่เหมาะสมในสถานการณ์นี้ที่จะพาประเทศไปหาแสงสว่างได้ตามเจตนารมณ์ของประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ที่อาตมารู้จักเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนที่จงรักภักดีต่อแผ่นดินไม่มีข้อสงสัย”

แถมพระสุเทพยังเดินสายทั่วภาคใต้เพื่อขอร้องไม่ให้มวลชนออกมากดดันรัฐบาลประยุทธ์ในเรื่องของราคายางพาราด้วย

จะว่าไปพระสุเทพนั้นมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทหารที่มีอำนาจกลุ่มนี้ เพราะเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยบีบพรรคร่วมรัฐบาลและเนวินให้ดึง ส.ส.ของพรรคทักษิณแยกขั้วออกมาจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่มีคนกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลที่ตั้งในค่ายทหารนั่นเอง และสุเทพนี่แหละที่เป็นคีย์แมนในการเจรจาของพรรคประชาธิปัตย์

ถ้าไม่มีทหาร พรรคประชาธิปัตย์ที่แพ้การเลือกตั้งมาตลอด 20 ปีก็คงไม่มีโอกาสกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และฝันของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่จะเป็นนายกฯ ก็คงไม่มีวันเป็นจริง

อีกด้านประยุทธ์ก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทักษิณถึงกับเคยพูดผ่านพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภาในคลิปถั่งเช่าว่า “ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่มาก”

การปฏิวัติรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะตอนนั้นรัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้อยู่แล้ว และฝ่ายคัดค้านที่ชุมนุมต่อต้านกำลังกดดันเพื่อให้วุฒิสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่เหลืออยู่ในตอนนั้นตั้งคนที่ตัวเองสนับสนุน ซึ่งเป็นอย่างที่เฉลิม อยู่บำรุงว่าไว้ว่าการปฏิวัติช่วยแก้ปัญหาการเมืองในพรรคเพื่อไทยให้หลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาวะที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกำลังเคลื่อนไหวจนกระทบกระทั่งกับรัฐบาลเองในตอนนั้น ปัญหาความวุ่นวายหลายอย่างในปลายรัฐบาล ที่ทำอะไรลำบาก ปฏิวัติรอบนี้ ทักษิณจึงควรส่งไวน์เปตรุส ไวน์ชั้นยอดราคาแพงมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ สัก 12 ลัง

การปฏิวัติครั้งนี้จึงไม่มีอะไรเสียหายต่อทักษิณและพรรคของทักษิณ ไม่มีการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพื่อเอาความผิดรัฐบาลของทักษิณเหมือนการปฏิวัติในยุคของบิ๊กบัง

แม้ คสช.จะตั้งสภาปฏิรูปขึ้นมาก็ไม่ส่งผลสะเทือนอะไรต่อทักษิณ เพราะการปฏิรูปเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายเรียกร้องอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็เกี่ยงกันว่าจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้งหรือหลังเลือกตั้งเท่านั้นเอง และก็เห็นว่า คสช.ก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับการปฏิรูปนัก เพราะด้านหนึ่งก็ปล่อยให้สภาปฏิรูปถกเถียงกันไป ด้านหนึ่งก็ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาและหลายคนก็เชื่อว่ามีพิมพ์เขียวอยู่แล้ว ถ้าจริงใจก็ต้องรอผลการปฏิรูปเสียก่อนว่ามีข้อเสนออย่างไรจึงจะร่างรัฐธรรมนูญออกมาให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูป

เรื่องพลังงานซึ่งเป็นหัวข้อหนึ่งในการปฏิรูป 11 หัวข้อก็เห็นชัดว่า คสช.ไม่ได้มีความจริงใจที่จะรับฟังเสียงของสภาปฏิรูป เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่รีบเร่งออกมาเปิดประมูลสัมปทานรอบที่ 21 ในขณะที่ยังมีเสียงคัดค้านของประชาชนจำนวนมาก แม้เมื่อสองสามวันก่อนพล.อ.ประยุทธ์บอกว่าพร้อมจะรับฟังเสียงจากสภาปฏิรูป แต่อีกด้านกระทรวงพลังงานก็ยังคงเดินหน้าเปิดให้เอกชนทั้งในและนอกประเทศยื่นข้อเสนอขอสำรวจเข้ามา

ผมคิดว่า มวลมหาประชาชนที่เคยออกมาร่วมชุมนุมกับกปปส.จำนวนหนึ่งก็เริ่มมองเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของการปฏิวัติครั้งนี้ พระสุเทพจึงต้องออกมาการันตี คสช.เพื่อปรามมวลชนของตัวเองเอาไว้

ประยุทธ์จึงเป็นคนมีบุญที่ได้รับการการันตีทั้งทักษิณและพระสุเทพ

ดูเหมือนที่ประยุทธ์ยังห่วงก็คือ มวลชนสายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แม้จะเหลือน้อยลงเพราะคนที่เคยร่วมกันชุมนุมแตกออกไป แต่ถ้าคนกลุ่มนี้ออกมาเคลื่อนไหวก็ยังมีพลังไม่น้อย และยังเป็นกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องพลังงาน ประยุทธ์จึงส่งทหารไปด้อมๆ มองๆ ที่บ้านของสนธิ ลิ้มทองกุล เพื่อเตือนว่า ทหารกำลังจับตาดูอยู่ ในขณะที่สนธิเองยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลยนอกจากกลับมาทำหน้าที่สื่อมวลชนในการบอกความจริงกับสังคมเท่านั้น

อีกด้านก็ปล่อยให้แนวร่วมปล่อยข่าวทำลายสนธิว่า มีการเจรจากับทักษิณ ทั้งๆ ที่สื่อในเครือของสนธิยังคงโจมตีทักษิณอยู่ตลอดเวลา ควบคู่ไปกับวิจารณ์การทำงานของ คสช.แม้จะมีเสรีภาพที่จำกัดก็ตาม ส่วน NEWS1 ที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาออกอากาศแทนสถานีโทรทัศน์ASTV ที่ถูก คสช.สั่งปิด ก็ถูกเรียกไปเตือน 2 ครั้ง โดยเหตุผลทั้ง 2 ครั้งก็คือ การวิจารณ์ระบอบทักษิณและพวกนั่นเอง

ดังนั้นฝ่ายที่ห้าม NEWS1 ไม่ให้พูดถึงระบอบทักษิณก็คือ คสช.

จึงมีคำถามกลับไปยังมวลชนที่ออกมาต่อสู้กับระบอบทักษิณว่า วันนี้คิดอย่างไรที่ คสช.ไม่แตะต้องระบอบทักษิณเลย นี่เป็นหนทางที่จะทำให้บ้านเมืองของเรากลับมาสู่ความสงบสุขปรองดองสามัคคีจริงๆ หรือ นี่คือเป้าหมายที่เราออกมาต่อสู้เจ็บและตายหรือไม่ เราจะตอบตัวเองได้อย่างไรในวันที่พรรคของทักษิณกลับมามีอำนาจอีกหลังการเลือกตั้ง

ถึงวันนั้นเราจะหันมาโทษตัวเองหรือโทษใคร
กำลังโหลดความคิดเห็น