xs
xsm
sm
md
lg

ร้องทนายช่วย2หม่อง-ผู้ใหญ่วอนำลูกตรวจDNA

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-พ่อ แม่ และญาติ สองผู้ต้องหาชาวพม่าฆ่าสองนักท่องเที่ยวอังกฤษ เข้าพบสภาทนายไทยช่วยลูก เชื่อตกเป็นแพะเกาะเต่า นายกสภาทนายความรับเรื่องตั้งกรรมการ 12 คนที่ปรึกษา 8 คนดูแลคดี เผยต้องรอทางอัยการส่งสำนวนฟ้องก่อนจึงจะวางแนวทางการต่อสู้คดีได้ "ผู้ใหญ่วอ" คนดังเกาะเต่า พร้อมนำลูกชายตรวจดีเอ็นเอยืนยันความบริสุทธิ์ในคดีฆาตกรรม ด้านอัยการภาค 8 เผยสำนวนคดีเกาะเต่าคืบหน้ากว่า 95% "บิ๊กตู่" ลั่นคดีเกาะเต่ายึดผลตรวจดีเอ็นเอ โวสกอตแลนด์ยาร์ดพอใจการทำงานของตำรวจไทย

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (29 ต.ค.) ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายวิน เมือง เอกอัครราชทูตสหภาพเมียนมาร์ประจำประเทศไทย นายโทโท ไทค์ นางเมเต้น บิดามารดาของนายวินซอทู และนางพิวเชวนุ, นายอูเทียน ชเวออง มารดาและลุงของนายซอลิน ผู้ต้องหาคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้าพบนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายสุนทร พยัคฆ์ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย นายสุวิทย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ นายชวน คงเพชร อุปนายกฝ่ายกิจกรรม นายปรีชา ภูริลดาพันธ์ ผู้ช่วยเลขานุการนายกสภาทนายความ (ส่วนภูมิภาค) เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการต่อสู้คดีและร้องขอความเป็นธรรมให้กับบุตรชายซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า โดยใช้เวลาในการเข้าพบประมาณ 1 ชั่วโมง

หลังเสร็จจากการปรึกษาหารือ นายเดชอุดม กล่าวว่า สภาทนายความจะรับเรื่องดังกล่าวไว้ โดยจะตั้งคณะกรรมการ 12 คน และที่ปรึกษา 8 คน เพื่อดูแลคดี ซึ่งตนจะเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ ทนายที่เข้ามาทำคดี เป็นทนายอาสาทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายโจทก์ และจะไม่มีทนายซึ่งเป็นคนนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แนวทางการต่อสู้คดี ต้องรอทางอัยการส่งฟ้องสำนวนคดีนี้ก่อน คาดว่าน่าจะเป็นช่วงต้นเดือนพ.ย.นี้ จากนั้นจะมีการประชุมระหว่างทีมทนายกับเจ้าหน้าที่ของทางสถานทูตสหภาพเมียนมาร์เป็นระยะในช่วงระหว่างทำคดี จะสามารถระบุแนวทางในการต่อสู้คดีที่ชัดเจนได้ ถ้าหากได้ข้อมูลจากสำนวนแล้ว เชื่อว่าจะทำให้การต่อสู้คดีเข้มข้นแน่นอน แต่การรวบรวมข้อมูลนั้น ต้องอาศัยสื่อด้วยจากการตรวจสอบข่าวทุกข่าวที่เกิดขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับกรณีที่พบอัตลักษณ์บุคคล (ดีเอ็นเอ) ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ซึ่งตรงกับที่พบในที่เกิดเหตุ จนนำไปสู่การสรุปคดีว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว นายเดชอุดม กล่าวว่า ทีมทนายจะต้องตรวจสอบสำนวนคดีก่อน หากยังไม่เห็นสำนวนคดี ก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้

ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาร้องว่ามีการใช้กำลังบีบบังคับให้สารภาพนั้น ทีมทนายจะต้องตรวจเอกสารคำให้การรับสารภาพอย่างละเอียด เพื่อหาขั้นตอนในการได้มาซึ่งคำรับสารภาพเหล่านั้น โดยยืนยันว่าจะทำด้วยความโปร่งใสเป็นธรรมแน่นอน

ด้านนายธวัชชัย เสียงแจ้ว อธิบดีอัยการภาค 8 ในฐานะหัวหน้าคณะอัยการพิจารณาสำนวนในคดีนี้ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังนำส่งประเด็นที่ให้ไปแก้ไขไม่ครบ ซึ่งเป็นพยานเอกสารและบุคคล พนักงานสอบสวนคงต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดพอสมควร ดังนั้น ทางอัยการจึงต้องใช้เวลารอสรุปสำนวนอีกระยะหนึ่ง ยังไม่สามารถกำหนดวันเวลาส่งฟ้องศาลที่ชัดเจน แต่โดยภาพรวมสำนวนมีความคืบหน้ากว่า 95% แล้ว

ทั้งนี้ ในส่วนที่มีการร้องเรียนมายังอัยการฯ ทางอัยการพร้อมที่จะพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ต้องหาตามที่ผู้ต้องหาได้ร้องเรียนมา แต่ในส่วนที่ร้องมาในเรื่องกว้างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีจะไม่รับพิจาณา

ทางด้านนายวรพันธุ์ ตู้วิเชียร หรือผู้ใหญ่วอ เจ้าของเอซีบาร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อนำตัวลูกชายตรวจดีเอ็นเอ และจะแถลงข่าวไขข้อสงสัย หลังยังมีกระแสโซเชียลมีเดีย ยังคงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าลูกชายของผู้ใหญ่เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า

นายวรพันธ์ ระบุว่า พร้อมที่จะนำตัวลูกชายออกมายืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นการทำเพื่อประเทศชาติ และถ้าหากผลพิสูจน์ดีเอ็นเอออกมาว่าลูกชายตนเองเป็นคนร้าย ก็พร้อมที่จะให้ตำรวจดำเนินคดีทางกฎหมาย แต่ในทางกลับกัน หากลูกชายไม่ใช่คนร้าย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะยืนยันหรือไม่ว่า จะหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ครอบครัวของตนเองเสียหายอีก

ที่กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดมาร่วมสังเกตการณ์ด้วยว่า เท่าที่ติดตามและรับฟังจากทุกฝ่าย ขณะนี้ผู้ที่มาเฝ้าสังเกตการณ์มีความพอใจในขั้นตอนการทำงานของไทย และยอมรับว่าเราทำได้ดี และดีกว่าที่เขาคิดมาก เขายังบอกด้วยว่าเป็นแนวทางการทำงานแบบเดียวกัน ก็ขอให้เราสบายใจได้ ส่วนผู้ต้องหาเราก็เปิดโอกาสให้ต่อสู้ ไม่ได้ขัดข้อง หากคิดว่าไม่ใช่ จะตรวจดีเอ็นเออีกครั้งเราก็ยอม ซึ่งปัญหาอยู่ที่ดีเอ็นเอ ถ้าใช่ก็คือใช่ เพราะดีเอ็นเอมันเปลี่ยนกันไม่ได้ หากคิดว่าตรวจดีเอ็นเอครั้งแรกไม่เป็นธรรมก็ตรวจอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่ใครจะไปลงโทษ เวลานี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่

สำหรับเรื่องของการฟ้องศาล การฝากขัง สำนวนต่างๆ เป็นเรื่องของการให้เวลาในการต่อสู้คดีเท่านั้นเอง จริงๆ แล้วหลักฐานไม่กี่ชิ้นมันก็โอเคแล้ว แต่อย่าเพิ่งไปพูดเลยเรื่องกฎหมายตอนนี้ จะได้สบายใจกันบ้าง

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าคดีจะไม่พลิก นายกฯ กล่าวว่า จะพลิกได้ยังไง ถ้าคดีจะพลิก ก็พลิกที่ขบวนการต่อสู้ของเขา แต่ถ้าหลักฐานดีเอ็นเอมันใช่จะพลิกได้อย่างไร ต้องยันกันด้วยหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ เรื่องกระบวนการต่อสู้ทางคดีก็มีหลายอย่าง เขาก็รู้อยู่ ที่ผ่านมา เห็นบางคนสู้คดีหลุดก็มี แต่กรณีนี้ตนคิดว่ามันล็อคที่หลักฐานตัวนี้ ตนให้ความสำคัญตรงนี้ ส่วนดีเอ็นเอของลูกชายกำนันในเกาะเต่าที่จะมีการตรวจ ก็ต้องดูว่าตรวจแล้วตรงกับเหยื่อหรือไม่ ถ้าไม่ตรงก็ไม่ใช่

เมื่อถามว่า ถึงเวลานี้คิดว่าคดีจบลงหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่จบ ยังไม่สิ้นสุด จบก็ต้องมีการฟ้อง มีการลงโทษ เวลานี้ยังอยู่ในกระบวนการ แต่ในกระบวนการชั้นต้นตำรวจทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการพิสูจน์ ตรวจสอบ สังเกตการณ์กัน คนที่สังเกตการณ์เขาก็พอใจ แต่เขาพูดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องทางการเมือง เรื่องภายในประเทศเรา และเมื่อเขากลับไปเขาก็จะไปบอกคนในประเทศเขาว่าการดำเนินการมีความถูกต้องอย่างไร และขั้นตอนต่อไปคือเรื่องอัยการ จะฟ้องหรือไม่อย่างไร ต้องมีการหาสำนวนเพิ่มเติม ต้องให้เวลาทั้งสองฝ่ายเคลียร์เพื่อความชัดเจนขึ้น และต่อไปก็เป็นเรื่องของการตัดสิน
กำลังโหลดความคิดเห็น