ASTVผู้จัดการรายวัน-"ทศพร เทพบุตร" เผยศพ 2 นักท่องเที่ยวเกาหลีกลับประเทศเที่ยงคืน 23 ต.ค. รอแพทย์ตกแต่งศพให้เรียบร้อย ขณะญาติเริ่มทำใจได้แล้ว แต่ยังอยู่ในอาการที่เศร้าเสียใจอยู่ ผกก.สภ.เมือง จ.กระบี่ แจ้ง 2 ข้อหาประมาทเป็นเหตุให้มีบาดเจ็บ-เสียชีวิต เจ้าของเรือซีสตาร์ 29 ยันบริษัทช่วยผู้บาดเจ็บเต็มที่ตั้งแต่วันแรก ผู้เสียชีวิตมีวงเงินประกัน 1 ล้าน ด้านกรมเจ้าท่าเพิ่งตื่น สุ่มดูท่องเที่ยวที่ท่าเรือรอยัล มารีน่า พบเรือทุกลำปฏิบัติตามกฎหมายกำหนด
จากเหตุเรือสปีดโบตชื่อซีสตาร์ 29 ของบริษัท ซีสตาร์ทัวร์ จำกัด บรรทุกนักท่องเที่ยวรวม 43 คน ชนกับเรืออวนลากสินพิชัย 11 บริเวณกองหินมูสัง ห่างจากเกาะพีพี จ.กระบี่ ประมาณ 6 ไมล์ทะเล ขณะจะมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือรอยัล มารีน่า จ.ภูเก็ต ทำให้ให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 36 คน ในจำนวนนี้ บาดเจ็บสาหัส 7 คน และมีนักท่องเที่ยวเกาหลีสูญหาย 2 คน คือ นายยูวิน วู อายุ 31 ปี และน.ส.แอน ซัน ยอง อายุ 28 ปี เหตุเกิดเวลา17.30 น. วันที่ 19 ต.ค.2557 ล่าสุดพบศพทั้งสองคน เมื่อเย็นวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา
วานนี้ (22 ต.ค.) นายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติศักดิ์เกาหลีใต้ ประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเคลื่อนศพนายยูวิน วู และน.ส.แอน ซัน ยอง กลับเกาหลีใต้ว่า เดิมกำหนดจะเดินทางเวลา 24.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ด้วยสายการบินโคเรียน แอร์ แต่ต้องเลื่อนเป็นคืนวันที่ 23 ต.ค. แทน เนื่องจากต้องตกแต่งศพให้เรียบร้อย สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ เพราะสภาพศพเสียหายค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบริเวณศรีษะกับใบหน้า ส่วนของการจัดการด้านเอกสาร ได้รับการอำนวยความสะดวกจากพนักงานสอบสวนสภ.เมือง จ.กระบี่ เป็นอย่างดี ดังนั้น เมื่อตกแต่งศพเสร็จแล้ว สามารถนำกลับไปได้ทันที พร้อมกับพ่อแม่และญาติ ซึ่งขณะนี้เริ่มทำใจได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังเศร้าโศกเสียใจอยู่
พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผกก.สภ.เมือง จ.กระบี่ เจ้าของท้องที่เกิดเหตุ กล่าวว่า นายสุรัตน์ นารถโอสถ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 5 ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นกัปตันเรือซีสตาร์ 29 พนักงานสอบสวนได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่ ส่วนการแจ้งขอกล่าวหานั้น หลังจากพบศพก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือ ขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำผู้เสียหายที่จ.ภูเก็ต และรอผลการชันสูตรของแพทย์ ก็สามารถรวบรวมสำนวนส่งอัยการได้
ด้านพ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รองผกก. 8 ตำรวจน้ำ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่ลงไปค้นหาร่างของผู้เสียชีวิตในเรือลำที่เกิดเหตุและจมอยู่ก้นทะเลตั้งแต่วันแรก เนื่องจากหลังเกิดเหตุได้สอบถามคนขับเรือ และกัปตันเรือประมง ให้การว่าเห็นร่างของทั้ง 2 คนกระเด็นออกนอกเรือ ประกอบกับสภาพเรือสปีดโบต ซึ่งเปิดโล่ง ทำให้การค้นหาวันแรกจึงมุ่งเป้าไปที่ผิวน้ำ เพราะถ้าเสียชีวิตในทะเล เมื่อครบ 24 ชั่วโมงศพก็จะลอยขึ้นมา จึงระดมกำลังค้นหาบนผิวน้ำเป็นหลัก แต่เมื่อครบ 24 ชั่วโมงแล้วยังไม่พบร่างผู้เสียชีวิต จึงได้เปลี่ยนแผน โดยประสานนักประดาน้ำที่สามารถดำน้ำลึกได้กว่า 30 เมตร และมีประสบการณ์ ดำลงไปค้นหา ประกอบกับกัปตันเรือประมงให้รายละเอียดสภาพเรือซีสตาร์ 29 จนทำให้ทราบว่าหัวเรือหักพังเข้ามาที่ตัวเรือ จึงตัดสินใจให้นักประดาน้ำดำลงไปตรวจสอบในเรือช่วงบ่ายของวันที่ 22 ต.ค. จนพบศพผู้เสียชีวิตและนำกลับเข้ามาที่ฝั่ง
นายนิรุจน์ วิชชาพิณ เจ้าของของเรือซีสตาร์ 29 กล่าวถึงการช่วยเหลือและดูแลนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุว่า หลังจากได้รับแจ้งอุบัติเหตุบริษัทเข้าไปดูแลและช่วยเหลือทันทีและอย่างเต็มที่ รวมทั้งจัดหาที่พักให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ติดต่อประสานงานสายการบินที่นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางกลับขอเลื่อนเที่ยวบิน ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตรงนี้ บริษัทผู้รับผิดชอบดูแล เช่นเดียวกับกรณีญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางมา บริษัทก็อำนวยความสะดวกจัดหาที่พักให้ โดยที่ทางญาติไม่ได้ร้องขอ และได้เดินทางไปพบและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดในแล้ว
ส่วนเรื่องของการรักษาพยาบาล ได้ประสานบริษัทประกันดูแลเรียบร้อยแล้ว โดยทำประกันไว้ 2 ส่วน คือ บริษัท วิริยะประกันภีย จำกัด ที่ทำประกันตัวเรือ และคุ้มครองบุคคลที่ 3 ส่วนนี้บริษัทประกันจ่ายค่ารักษาพยาบาลรายละ 15,000 บาท เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีประกันชีวิตของบริษัท เอไอจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กรณีเสียชีวิต 1 ล้านบาท บาดเจ็บ 5 แสนบาท ขณะนี้ได้ประสานงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการจ่ายเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต จะจ่ายได้ภายใน 3 วันทำการ ส่วนตัวเรือมูลค่าความเสียหายประมาณ 4 ล้านบาท
"บริษัทยังให้การดูแลผู้บาดเจ็บและอำนวยความสะดวกจนกว่าทุกคนจะออกจากโรงพยาบาล ซึ่งอุบัติเหตุนั้นไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วในฐานะที่เป็นเจ้าของเรือ ก็ต้องเข้าไปช่วยดูแลเต็มที่"
นายนิรุจน์ กล่าวถึงการกู้เรือซีสตาร์ 29 ว่า บริษัทประกันจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนกรณีเสื้อชูชีพได้จัดเตรียมไว้ครบตามจำนวนทุกคน และที่ผ่านมา ก็ได้กำชับไกด์และลูกเรือให้ดูแลนักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ค่อยสวมกัน
สายวันเดียวกัน นางจิราภรณ์ จันทรศิริ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า นายวิชัย คำคง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งทางน้ำภูมิภาค สาขาภูเก็ต ร่วมตรวจสอบพฤติกรรมของคนขับเรือและลูกเรือสปีดโบต ก่อนนำนักท่องเที่ยวออกจากท่าเทียบเรือรอยัล มารีน่า ภูเก็ต ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งในจ.พังงา และจ.กระบี่ โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า พบว่ามีพนักงานประจำท่าเทียบเรือ ของสำนักงานขนส่งทางน้ำ คอยตรวจสอบความเรียบร้อย จดบันทึกข้อมูลเรือแต่ละลำ ซึ่งเรือทุกลำดำเนินการตามที่กฎหมายทุกอย่าง โดยเฉพาะในการสวมเสื้อชูชีพทันทีที่นักท่องเที่ยวลงเรือ รวมทั้งลูกเรือด้วย
นางจิราภรณ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าปัญหานักท่องเที่ยวไม่สวมเสื้อชูชีพ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังเรือออกจากท่าเรือแล้ว ผู้โดยสารบางคนอาจถอดออก ซึ่งต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้น โดยจะเรียกผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวและไกด์ในสังกัดมาอบรม โดยเฉพาะไกด์ต้องมีส่วนช่วยให้ผู้โดยสาร สวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา ถือเป็นมาตรการที่กำหนดเพิ่มเติมขึ้น
จากเหตุเรือสปีดโบตชื่อซีสตาร์ 29 ของบริษัท ซีสตาร์ทัวร์ จำกัด บรรทุกนักท่องเที่ยวรวม 43 คน ชนกับเรืออวนลากสินพิชัย 11 บริเวณกองหินมูสัง ห่างจากเกาะพีพี จ.กระบี่ ประมาณ 6 ไมล์ทะเล ขณะจะมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือรอยัล มารีน่า จ.ภูเก็ต ทำให้ให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 36 คน ในจำนวนนี้ บาดเจ็บสาหัส 7 คน และมีนักท่องเที่ยวเกาหลีสูญหาย 2 คน คือ นายยูวิน วู อายุ 31 ปี และน.ส.แอน ซัน ยอง อายุ 28 ปี เหตุเกิดเวลา17.30 น. วันที่ 19 ต.ค.2557 ล่าสุดพบศพทั้งสองคน เมื่อเย็นวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา
วานนี้ (22 ต.ค.) นายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติศักดิ์เกาหลีใต้ ประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเคลื่อนศพนายยูวิน วู และน.ส.แอน ซัน ยอง กลับเกาหลีใต้ว่า เดิมกำหนดจะเดินทางเวลา 24.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ด้วยสายการบินโคเรียน แอร์ แต่ต้องเลื่อนเป็นคืนวันที่ 23 ต.ค. แทน เนื่องจากต้องตกแต่งศพให้เรียบร้อย สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ เพราะสภาพศพเสียหายค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบริเวณศรีษะกับใบหน้า ส่วนของการจัดการด้านเอกสาร ได้รับการอำนวยความสะดวกจากพนักงานสอบสวนสภ.เมือง จ.กระบี่ เป็นอย่างดี ดังนั้น เมื่อตกแต่งศพเสร็จแล้ว สามารถนำกลับไปได้ทันที พร้อมกับพ่อแม่และญาติ ซึ่งขณะนี้เริ่มทำใจได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังเศร้าโศกเสียใจอยู่
พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผกก.สภ.เมือง จ.กระบี่ เจ้าของท้องที่เกิดเหตุ กล่าวว่า นายสุรัตน์ นารถโอสถ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 5 ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นกัปตันเรือซีสตาร์ 29 พนักงานสอบสวนได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่ ส่วนการแจ้งขอกล่าวหานั้น หลังจากพบศพก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือ ขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำผู้เสียหายที่จ.ภูเก็ต และรอผลการชันสูตรของแพทย์ ก็สามารถรวบรวมสำนวนส่งอัยการได้
ด้านพ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รองผกก. 8 ตำรวจน้ำ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่ลงไปค้นหาร่างของผู้เสียชีวิตในเรือลำที่เกิดเหตุและจมอยู่ก้นทะเลตั้งแต่วันแรก เนื่องจากหลังเกิดเหตุได้สอบถามคนขับเรือ และกัปตันเรือประมง ให้การว่าเห็นร่างของทั้ง 2 คนกระเด็นออกนอกเรือ ประกอบกับสภาพเรือสปีดโบต ซึ่งเปิดโล่ง ทำให้การค้นหาวันแรกจึงมุ่งเป้าไปที่ผิวน้ำ เพราะถ้าเสียชีวิตในทะเล เมื่อครบ 24 ชั่วโมงศพก็จะลอยขึ้นมา จึงระดมกำลังค้นหาบนผิวน้ำเป็นหลัก แต่เมื่อครบ 24 ชั่วโมงแล้วยังไม่พบร่างผู้เสียชีวิต จึงได้เปลี่ยนแผน โดยประสานนักประดาน้ำที่สามารถดำน้ำลึกได้กว่า 30 เมตร และมีประสบการณ์ ดำลงไปค้นหา ประกอบกับกัปตันเรือประมงให้รายละเอียดสภาพเรือซีสตาร์ 29 จนทำให้ทราบว่าหัวเรือหักพังเข้ามาที่ตัวเรือ จึงตัดสินใจให้นักประดาน้ำดำลงไปตรวจสอบในเรือช่วงบ่ายของวันที่ 22 ต.ค. จนพบศพผู้เสียชีวิตและนำกลับเข้ามาที่ฝั่ง
นายนิรุจน์ วิชชาพิณ เจ้าของของเรือซีสตาร์ 29 กล่าวถึงการช่วยเหลือและดูแลนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุว่า หลังจากได้รับแจ้งอุบัติเหตุบริษัทเข้าไปดูแลและช่วยเหลือทันทีและอย่างเต็มที่ รวมทั้งจัดหาที่พักให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ติดต่อประสานงานสายการบินที่นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางกลับขอเลื่อนเที่ยวบิน ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตรงนี้ บริษัทผู้รับผิดชอบดูแล เช่นเดียวกับกรณีญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางมา บริษัทก็อำนวยความสะดวกจัดหาที่พักให้ โดยที่ทางญาติไม่ได้ร้องขอ และได้เดินทางไปพบและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดในแล้ว
ส่วนเรื่องของการรักษาพยาบาล ได้ประสานบริษัทประกันดูแลเรียบร้อยแล้ว โดยทำประกันไว้ 2 ส่วน คือ บริษัท วิริยะประกันภีย จำกัด ที่ทำประกันตัวเรือ และคุ้มครองบุคคลที่ 3 ส่วนนี้บริษัทประกันจ่ายค่ารักษาพยาบาลรายละ 15,000 บาท เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีประกันชีวิตของบริษัท เอไอจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กรณีเสียชีวิต 1 ล้านบาท บาดเจ็บ 5 แสนบาท ขณะนี้ได้ประสานงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการจ่ายเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต จะจ่ายได้ภายใน 3 วันทำการ ส่วนตัวเรือมูลค่าความเสียหายประมาณ 4 ล้านบาท
"บริษัทยังให้การดูแลผู้บาดเจ็บและอำนวยความสะดวกจนกว่าทุกคนจะออกจากโรงพยาบาล ซึ่งอุบัติเหตุนั้นไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วในฐานะที่เป็นเจ้าของเรือ ก็ต้องเข้าไปช่วยดูแลเต็มที่"
นายนิรุจน์ กล่าวถึงการกู้เรือซีสตาร์ 29 ว่า บริษัทประกันจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนกรณีเสื้อชูชีพได้จัดเตรียมไว้ครบตามจำนวนทุกคน และที่ผ่านมา ก็ได้กำชับไกด์และลูกเรือให้ดูแลนักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ค่อยสวมกัน
สายวันเดียวกัน นางจิราภรณ์ จันทรศิริ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า นายวิชัย คำคง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งทางน้ำภูมิภาค สาขาภูเก็ต ร่วมตรวจสอบพฤติกรรมของคนขับเรือและลูกเรือสปีดโบต ก่อนนำนักท่องเที่ยวออกจากท่าเทียบเรือรอยัล มารีน่า ภูเก็ต ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งในจ.พังงา และจ.กระบี่ โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า พบว่ามีพนักงานประจำท่าเทียบเรือ ของสำนักงานขนส่งทางน้ำ คอยตรวจสอบความเรียบร้อย จดบันทึกข้อมูลเรือแต่ละลำ ซึ่งเรือทุกลำดำเนินการตามที่กฎหมายทุกอย่าง โดยเฉพาะในการสวมเสื้อชูชีพทันทีที่นักท่องเที่ยวลงเรือ รวมทั้งลูกเรือด้วย
นางจิราภรณ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าปัญหานักท่องเที่ยวไม่สวมเสื้อชูชีพ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังเรือออกจากท่าเรือแล้ว ผู้โดยสารบางคนอาจถอดออก ซึ่งต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้น โดยจะเรียกผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวและไกด์ในสังกัดมาอบรม โดยเฉพาะไกด์ต้องมีส่วนช่วยให้ผู้โดยสาร สวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา ถือเป็นมาตรการที่กำหนดเพิ่มเติมขึ้น
