ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจน้ำ ทหารเรือ ระดมกำลังค้นหา 2 นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ที่สูญหายจากเหตุเรือสปีดโบตชนกับเรืออวนลากกลางทะเลอันดามัน ห่างจากภูเก็ต 18 ไมล์ทะเล แต่ยังไร้วี่แวว ขณะที่คนขับเรือสปีดโบต ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ รับตัวไปสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นคาดเกิดจากความประมาท
จากกรณีเมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) เวลาประมาณ 17.00 น. ทางตำรวจน้ำภูเก็ต ได้รับแจ้งเกิดเหตุเรือสปีดโบต ชื่อ ซีสตาร์ 29 (sea star) ซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยว และลูกเรือ รวม 43 คน ประกอบด้วย นักท่องเที่ยว จีน 23 คน เกาหลี 4 คน ออสเตรเลีย 2 คน ฝรั่งเศส 1 คน ญี่ปุ่น 1 คน อังกฤษ 1 คน และคนไทย 5 คน เดินทางออกจากเกาะพีพี เพื่อมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือในพื้นที่ จ.ภูเก็ต แต่ระหว่างเรือเดินทางมาถึงบริเวณกองหินมูสัง ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะพีพี ประมาณ 6 ไมล์ทะเล หรือก่อนถึงภูเก็ตประมาณ 18 ไมล์ เรือสปีดโบตได้ชนกับเรืออวนลาก “สินพิชัย 11” เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยว และลูกเรือได้รับบาดเจ็บ จำนวน 35 คน และสูญหาย 2 คน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี
ล่าสุด วันนี้ (20 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ต ตำรวจน้ำกระบี่ เจ้าท่า พร้อมด้วยทัพเรือภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลังคนหาอีกครั้ง โดย พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่ปราบปรามทางน้ำ 3 กองกำกับการ 8 เปิดเผยว่า ในเช้าวันนี้ (20 ต.ค.) ทางตำรวจน้ำภูเก็ต นำเรือตรวจการณ์ 814 หรือเรือคุณพุ่ม ออกไปทำการค้นหานักท่องเที่ยวที่ยังสูญหายอีกครั้ง โดยร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และทัพเรือภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจากกระบี่ ซึ่งจะกำหนดพื้นที่ในการค้นหาตั้งแต่บริเวณกองหินมูสัง และเกาะไก่ ไปจนถึงเกาะพีพี จ.กระบี่ รัศมีวงล้อมพื้นที่ประมาณ 10 x 10 ตารางไมล์
แต่อย่างไรก็ตาม การค้นหาในช่วงเช้าวันนี้ (20 ต.ค.) อาจจะเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เพราะในทะเลจะมีเมฆค่อนข้างมาก มีลมแรงแต่มีคลื่นไม่มากนัก ทั้งนี้ จะทำการค้นหาจนเจอ หากวันนี้ไม่เจอก็จะพักที่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อทำการค้นหาต่อ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี 2 คน ที่สูญหายนั้น คาดว่าน่าจะตกน้ำในช่วงที่เรือชนกัน ในขณะที่คนอื่นๆ สามารถทำการอพยพขึ้นเรือประมงอวนลากได้ทั้งหมด เพราะขณะที่เกิดเหตุเรือทั้ง 2 ลำอยู่ติดกันพอดี
ด้าน พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ ได้ควบคุมตัว นายสุรัตน์ มาศโอสถ อายุ 36 ปี คนขับเรือ สปีดโบต มาสอบสวนที่ สภ.เมืองกระบี่ แล้ว และจากการสอบถามในเบื้องต้น ทราบว่าเรือลำดังกล่าวกำลังนำนักท่องเที่ยว และลูกเรือเพื่อเดินทางกลับไปยังพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนั้นถุงพลาสติกปลิวตกลงไปอยู่ที่พื้นเรือ คนขับจึงก้มลงเก็บเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าเรือสปีดโบตกำลังวิ่งไปเกือบชนกับตัวเรือประมงแล้ว จึงเบี่ยงเรือสปีดโบตออก แต่เรือก็ไปชนกับสายสลิงและบริเวณท้ายเรือประมง ทำให้เรือแตก ส่วนนักท่องเที่ยวได้ทยอยทำขึ้นเรือประมงลำที่ถูกชน หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที เรือสปีดโบตก็จมลงทะเล
พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ กล่าวต่อไปว่า จากการสอบถามคนขับเรือทราบว่า ก่อเกิดเหตุก็เห็นเรือประมงอยู่ข้างหน้า แต่ระหว่างที่ก้มลงเก็บถุงพลาสติกก็พบว่า เรือแล่นมาถึงเรือประมงแล้ว โดยเรือสปีดโบตแล่นด้วยความเร็วประมาณ 30-31 นอต ขณะที่จากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่า นักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับเรือมีบางส่วนที่สวมเสื้อชูชีพ และบางส่วนไม่สวมเสื้อชูชีพ ส่วนการตั้งข้อหานั้นขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาเพราะจะต้องรอผลการค้นหานักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่สูญหายไปก่อนว่าเป็นอย่างไรจึงจะแจ้งข้อหาได้ ซึ่งในเบื้องต้นเป็นเรื่องของการขับเรือโดยประมาทอย่างแน่นอน ส่วนคนขับเรือประมงขระนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเชิญตัวมาสอบปากคำเช่นกัน
สำหรับการสอบปากคำนักท่องเที่ยว และคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บนั้น พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ กล่าวว่า เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทางตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ จะทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตให้ดำเนินการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บให้
ขณะที่ พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ในวันนี้ทางทัพเรือภาคที่ 3 จะนำเฮลิคอปเตอร์ออกบินค้นหาผู้ประสบภัยด้วย โดยจะบินค้นหาผู้สูญหายตามความเร็วและกระแสน้ำในรัศมีบริเวณจุดเกิดเหตุตั้งแต่ 10-150 ไมล์ทะเล