ตำรวจน้ำ-ทหารเรือยังคว้าน้ำเหลวค้นหา 2 นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่สูญหาย ขณะกงสุลพอใจกับการปฏิบัติงาน แต่ทูตฝากขอช่วยหาให้เจอ "พ่อ-แม่"บินด่วนมาภูเก็ตขอดูจุดที่เกิดเหตุ "พล.ต.อ.เรืองศักดิ์"เผยผบ.ตร.เป็นห่วง สั่งตั้งศูนย์เฉพาะกิจค้นหาจนกว่าจะพบ ด้านตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาคนขับสปีดโบต แต่ชี้ประมาทแน่นอน เจ้าท่าตื่นบังคับสวมเสื้อชูชีพทุกคน ฝ่าฝืนไม่ให้เรือออกจากท่า ขณะผู้บาดเจ็บยังนอนโรงพยาบาล 26 คน มีสาหัส 7 คน
เหตุเรือสปีดโบตชื่อซีสตาร์ 29 ของบริษัท ซีสตาร์ทัวร์ จำกัด บรรทุกนักท่องเที่ยวรวม 43 คน ชนกับเรืออวนลากสินพิชัย 11 บริเวณกองหินมูสัง ห่างจากเกาะพีพี จ.กระบี่ ประมาณ 6 ไมล์ทะเล ขณะจะมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือรอยัล มารีน่า จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 18 ไมล์ทะเล ทำให้ให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 36 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 7 คน และมีนักท่องเที่ยวเกาหลีสูญหาย 2 คน คือ Mr.go min woo อายุ 31 ปี และ Ms.jan sun yang อายุ 28 ปี เหตุเกิดเวลา17.30 น. วันที่ 19 ตุลาคมนั้น
วานนี้(20 ต.ค.) พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่ปราบปรามทางน้ำ 3 กองกำกับการ 8 เปิดเผยว่า ตำรวจน้ำภูเก็ต นำเรือตรวจการณ์ 814 หรือเรือคุณพุ่ม ออกค้นหานักท่องเที่ยวที่ยังสูญหาย ร่วมกับชุดประดาน้ำมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำกระบี่ และเจ้าท่า โดยกำหนดพื้นที่ค้นหาตั้งแต่กองหินมูสัง และเกาะไก่ จนถึงเกาะพีพี จ.กระบี่ รัศมี 10 คูณ 10 ตารางไมล์ ซึ่งคาดว่าชาวเกาหลี 2 คนน่าจะตกน้ำช่วงที่เรือชนกัน ขณะที่คนอื่นสามารถอพยพขึ้นเรือประมงได้ เพราะขณะที่เกิดเหตุเรือทั้ง 2 ลำอยู่ใกล้กันพอดี
พ.ต.อ. พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผกก.สภ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตำรวจสภ.เมือง ได้ควบคุมตัวนายนายวิรัตน์ มาศโอสถ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 5 ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ คนขับสปีดโบตมาสอบสวนแล้ว เบื้องต้นทราบว่าเมื่อถึงที่เกิดเหตุมีถุงพลาสติกปลิวตกลงไปที่พื้นเรือ คนขับจึงก้มลงเก็บ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าเกือบชนกับตัวเรือประมงแล้ว จึงเบี่ยงเรือออก แต่เรือไปชนกับสายสลิงท้ายเรือประมง ทำให้เรือแตก ส่วนนักท่องเที่ยวได้ทยอยช่วยนำขึ้นเรือประมงลำที่ถูกชน จากนั้นประมาณ 20 นาทีสปีดโบตก็จมลงทะเล
"เรือสปีดโบตใช้เร็ว 30-31 น็อต ส่วนนักท่องเที่ยวบางส่วนสวมเสื้อชูชีพ บางส่วนไม่สวม ส่วนข้อหายังไม่ได้แจ้ง เพราะต้องรอผลการค้นหานักท่องเที่ยวเกาหลีก่อน แต่เบื้องต้นเป็นการขับเรือโดยประมาทแน่นอน ส่วนนายท้ายเรือประมงอยู่ระหว่างเชิญตัวมาสอบปากคำ ส่วนนักท่องเที่ยวและคนไทยที่บาดเจ็บ เนื่องจากรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจ.ภูเก็ต จึงจะทำหนังสือขอความร่วมมือสภ.เมือง จภูเก็ต สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บให้"
ด้านนายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ นายอำเภอเมือง จ.ภูเก็ต เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์ 26 คน ในจำนวนอาการสาหัส 7 คน โดยแยกรักษาตัวในโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต 8 คน โรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต 5 คน โรงพยาบาลมิชชั่น 3 คน โรงพยาบาลสิริโรจน์ 4 คน และโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 6 คน บริษัทเจ้าของเรือจะดูแลค่าใช้จ่าย ขณะที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด จะดูแลในเรื่องตั๋ว เปลี่ยนไฟล์ ส่วนราชการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จะช่วยประสานงานเพื่อให้ได้รับความสะดวกเต็มที่
นายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้มีการเลื่อนไฟล์ออกไปโดยไม่มีกำหนดให้กับผู้บาดเจ็บ 4 คน กงสุลติดต่อเข้ามาขอให้เลื่อนไฟล์อีก 6 คน และได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ชั้น 2 สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต โทร. 076-327-100
เวลา 14.15 น. Mr.Lee Min หัวหน้ากงสุลเกาหลีประจำประเทศไทย นายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติมศักดิ์เกาหลีประจำจังหวัดภูเก็ต ไปยังเรือ ต. 814 หรือเรือคุณพุ่ม หารือร่วมกับพ.ต.ท.ปัญญา ซึ่งหลังฟังการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ ทางหัวหน้ากงสุลพอใจกับการปฏิบัติงาน และได้รายงานให้กับทางเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ทราบถึงแนวทางการค้นหา โดยทางเอกอัครทูตฝากว่าขอให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และเรือเพื่อค้นหาให้พบโดยเร็วที่สุด เพราะญาติกังวลใจ และขอให้ทางการไทยทำเครื่องหมายบริเวณที่เกิดเหตุด้วย
นายทศพร กล่าวว่า พ่อ-แม่และญาติของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่สูญหาย จะเดินทางมาที่จ.ภูเก็ต ซึ่งตนจะร่วมพูดคุยถึงแนวทางการค้นหา เพื่อให้ความเชื่อมั่นว่าทางการไทยจะค้นหาจนกว่าจะพบทั้ง 2 คน ส่วนวันที่ 21 ตุลาคม ญาติจะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้ประสานพ.ต.ท.ปัญญาขอให้พาไป รวมทั้งให้ข้อมูลการค้นหาด้วย
เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. กล่าวภายหลังการประชุมมาตรการป้องกั้นไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. เป็นห่วงเหตุที่เกิดขึ้น จึงได้มอบหมายให้ลงมาดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้บางส่วนได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว และมาติดตามความคืบหน้าการค้นหานักท่องเที่ยวที่สูญหาย แต่ก็ยังไม่พบแม้ทุกหน่วยจะค้นหาอย่างเต็มกำลังทั้งทางน้ำและทางอากาศแล้วก็ตาม
เพื่อไม่ให้เกิดลักษณะซ้ำอีก จึงกำหนดมาตรการก่อนจะให้เรือออกจากฝั่ง ทุกฝ่ายต้องเข้มงวดกวดขัน ทั้งตำรวจประจำท่าเรือ ตำรวจท่องเที่ยว ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และเจ้าท่า เรือจะออกจากฝั่งได้ต้องจะต้องมีเสื้อชูชีพพร้อม นายท้ายเรือต้องพร้อมทำงาน มีใบนายท้ายเรือ มรใบประกาศเรือที่บ่งบอกความพร้อมของเรือ เครื่องมือสื่อสารใช้ในช่วงฉุกเฉิน และตัวเรือที่ทางเจ้าท่าต้องตรวจสภาพ
"ขณะนี้ได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจติดตามการค้นหานักท่องเที่ยวที่สูญหาย โดยให้ตำรวจภูธรภาค 8 เป็นหัวหน้าทำงานร่วมกับตำรวจน้ำ ฝ่ายปกครอง มูลนิธิกู้ภัย ฝ่ายพยาบาล"
ล่าสุด เวลา 18.00 น. การค้นหาได้ยุติลง โดยเรือตำรวจน้ำจะจอดลอยลำใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อออกค้นหาในช่วงเช้า
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งให้อธิบดีกรมเจ้าท่า เร่งหาสาเหตุและต้องแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก เพราะเพิ่งเกิดเหตุ 2 นักท่องเที่ยวชาวอินเดียจมน้ำเสียชีวิตจากเหตุเรือหางยาวล่มหน้าหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม
ทั้งนี้ ขอให้เข้มงวดมาตรการความปลอดภัย โดยก่อนจะลงเรือต้องสวมเสื้อชูชีพทุกคน ตรวจสอบใบอนุญาตเดินเรือ แต่ครั้งนี้เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่จะเป็นความประมาทของคนขับเรือหรือไม่ยังไม่ชัดเจน
ด้านนายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า เรือลำที่เกิดแหตุมีใบอนุญาตเดินเรือ พนักงานขับเรือมีใบอนุญาตขับเรือถูกต้องตามกฎหมาย ไม่บรรทุกผู้โดยสารเกินอัตรา ซึ่งเจ้าหน้าที่รายงานสาเหตุน่าจะมาจากสภาพอากาศขณะนั้น ซึ่งมีฝนตกหนัก ทำให้บดบังทัศนวิสัยการเดินเรือ ประกอบกับพนักงานขับสปีดโบ๊ตด้วยความเร็ว
เหตุเรือสปีดโบตชื่อซีสตาร์ 29 ของบริษัท ซีสตาร์ทัวร์ จำกัด บรรทุกนักท่องเที่ยวรวม 43 คน ชนกับเรืออวนลากสินพิชัย 11 บริเวณกองหินมูสัง ห่างจากเกาะพีพี จ.กระบี่ ประมาณ 6 ไมล์ทะเล ขณะจะมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือรอยัล มารีน่า จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 18 ไมล์ทะเล ทำให้ให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 36 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 7 คน และมีนักท่องเที่ยวเกาหลีสูญหาย 2 คน คือ Mr.go min woo อายุ 31 ปี และ Ms.jan sun yang อายุ 28 ปี เหตุเกิดเวลา17.30 น. วันที่ 19 ตุลาคมนั้น
วานนี้(20 ต.ค.) พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่ปราบปรามทางน้ำ 3 กองกำกับการ 8 เปิดเผยว่า ตำรวจน้ำภูเก็ต นำเรือตรวจการณ์ 814 หรือเรือคุณพุ่ม ออกค้นหานักท่องเที่ยวที่ยังสูญหาย ร่วมกับชุดประดาน้ำมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำกระบี่ และเจ้าท่า โดยกำหนดพื้นที่ค้นหาตั้งแต่กองหินมูสัง และเกาะไก่ จนถึงเกาะพีพี จ.กระบี่ รัศมี 10 คูณ 10 ตารางไมล์ ซึ่งคาดว่าชาวเกาหลี 2 คนน่าจะตกน้ำช่วงที่เรือชนกัน ขณะที่คนอื่นสามารถอพยพขึ้นเรือประมงได้ เพราะขณะที่เกิดเหตุเรือทั้ง 2 ลำอยู่ใกล้กันพอดี
พ.ต.อ. พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผกก.สภ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตำรวจสภ.เมือง ได้ควบคุมตัวนายนายวิรัตน์ มาศโอสถ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 5 ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ คนขับสปีดโบตมาสอบสวนแล้ว เบื้องต้นทราบว่าเมื่อถึงที่เกิดเหตุมีถุงพลาสติกปลิวตกลงไปที่พื้นเรือ คนขับจึงก้มลงเก็บ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าเกือบชนกับตัวเรือประมงแล้ว จึงเบี่ยงเรือออก แต่เรือไปชนกับสายสลิงท้ายเรือประมง ทำให้เรือแตก ส่วนนักท่องเที่ยวได้ทยอยช่วยนำขึ้นเรือประมงลำที่ถูกชน จากนั้นประมาณ 20 นาทีสปีดโบตก็จมลงทะเล
"เรือสปีดโบตใช้เร็ว 30-31 น็อต ส่วนนักท่องเที่ยวบางส่วนสวมเสื้อชูชีพ บางส่วนไม่สวม ส่วนข้อหายังไม่ได้แจ้ง เพราะต้องรอผลการค้นหานักท่องเที่ยวเกาหลีก่อน แต่เบื้องต้นเป็นการขับเรือโดยประมาทแน่นอน ส่วนนายท้ายเรือประมงอยู่ระหว่างเชิญตัวมาสอบปากคำ ส่วนนักท่องเที่ยวและคนไทยที่บาดเจ็บ เนื่องจากรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจ.ภูเก็ต จึงจะทำหนังสือขอความร่วมมือสภ.เมือง จภูเก็ต สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บให้"
ด้านนายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ นายอำเภอเมือง จ.ภูเก็ต เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์ 26 คน ในจำนวนอาการสาหัส 7 คน โดยแยกรักษาตัวในโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต 8 คน โรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต 5 คน โรงพยาบาลมิชชั่น 3 คน โรงพยาบาลสิริโรจน์ 4 คน และโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 6 คน บริษัทเจ้าของเรือจะดูแลค่าใช้จ่าย ขณะที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด จะดูแลในเรื่องตั๋ว เปลี่ยนไฟล์ ส่วนราชการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จะช่วยประสานงานเพื่อให้ได้รับความสะดวกเต็มที่
นายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้มีการเลื่อนไฟล์ออกไปโดยไม่มีกำหนดให้กับผู้บาดเจ็บ 4 คน กงสุลติดต่อเข้ามาขอให้เลื่อนไฟล์อีก 6 คน และได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ชั้น 2 สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต โทร. 076-327-100
เวลา 14.15 น. Mr.Lee Min หัวหน้ากงสุลเกาหลีประจำประเทศไทย นายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติมศักดิ์เกาหลีประจำจังหวัดภูเก็ต ไปยังเรือ ต. 814 หรือเรือคุณพุ่ม หารือร่วมกับพ.ต.ท.ปัญญา ซึ่งหลังฟังการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ ทางหัวหน้ากงสุลพอใจกับการปฏิบัติงาน และได้รายงานให้กับทางเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ทราบถึงแนวทางการค้นหา โดยทางเอกอัครทูตฝากว่าขอให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และเรือเพื่อค้นหาให้พบโดยเร็วที่สุด เพราะญาติกังวลใจ และขอให้ทางการไทยทำเครื่องหมายบริเวณที่เกิดเหตุด้วย
นายทศพร กล่าวว่า พ่อ-แม่และญาติของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่สูญหาย จะเดินทางมาที่จ.ภูเก็ต ซึ่งตนจะร่วมพูดคุยถึงแนวทางการค้นหา เพื่อให้ความเชื่อมั่นว่าทางการไทยจะค้นหาจนกว่าจะพบทั้ง 2 คน ส่วนวันที่ 21 ตุลาคม ญาติจะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้ประสานพ.ต.ท.ปัญญาขอให้พาไป รวมทั้งให้ข้อมูลการค้นหาด้วย
เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. กล่าวภายหลังการประชุมมาตรการป้องกั้นไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. เป็นห่วงเหตุที่เกิดขึ้น จึงได้มอบหมายให้ลงมาดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้บางส่วนได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว และมาติดตามความคืบหน้าการค้นหานักท่องเที่ยวที่สูญหาย แต่ก็ยังไม่พบแม้ทุกหน่วยจะค้นหาอย่างเต็มกำลังทั้งทางน้ำและทางอากาศแล้วก็ตาม
เพื่อไม่ให้เกิดลักษณะซ้ำอีก จึงกำหนดมาตรการก่อนจะให้เรือออกจากฝั่ง ทุกฝ่ายต้องเข้มงวดกวดขัน ทั้งตำรวจประจำท่าเรือ ตำรวจท่องเที่ยว ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และเจ้าท่า เรือจะออกจากฝั่งได้ต้องจะต้องมีเสื้อชูชีพพร้อม นายท้ายเรือต้องพร้อมทำงาน มีใบนายท้ายเรือ มรใบประกาศเรือที่บ่งบอกความพร้อมของเรือ เครื่องมือสื่อสารใช้ในช่วงฉุกเฉิน และตัวเรือที่ทางเจ้าท่าต้องตรวจสภาพ
"ขณะนี้ได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจติดตามการค้นหานักท่องเที่ยวที่สูญหาย โดยให้ตำรวจภูธรภาค 8 เป็นหัวหน้าทำงานร่วมกับตำรวจน้ำ ฝ่ายปกครอง มูลนิธิกู้ภัย ฝ่ายพยาบาล"
ล่าสุด เวลา 18.00 น. การค้นหาได้ยุติลง โดยเรือตำรวจน้ำจะจอดลอยลำใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อออกค้นหาในช่วงเช้า
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งให้อธิบดีกรมเจ้าท่า เร่งหาสาเหตุและต้องแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก เพราะเพิ่งเกิดเหตุ 2 นักท่องเที่ยวชาวอินเดียจมน้ำเสียชีวิตจากเหตุเรือหางยาวล่มหน้าหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม
ทั้งนี้ ขอให้เข้มงวดมาตรการความปลอดภัย โดยก่อนจะลงเรือต้องสวมเสื้อชูชีพทุกคน ตรวจสอบใบอนุญาตเดินเรือ แต่ครั้งนี้เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่จะเป็นความประมาทของคนขับเรือหรือไม่ยังไม่ชัดเจน
ด้านนายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า เรือลำที่เกิดแหตุมีใบอนุญาตเดินเรือ พนักงานขับเรือมีใบอนุญาตขับเรือถูกต้องตามกฎหมาย ไม่บรรทุกผู้โดยสารเกินอัตรา ซึ่งเจ้าหน้าที่รายงานสาเหตุน่าจะมาจากสภาพอากาศขณะนั้น ซึ่งมีฝนตกหนัก ทำให้บดบังทัศนวิสัยการเดินเรือ ประกอบกับพนักงานขับสปีดโบ๊ตด้วยความเร็ว
