เจ้าของเรือ “ซีสตาร์ 29” พร้อมช่วยเต็มที่คนเจ็บ-ตาย ตร.เพิ่มข้อหาคนขับ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าของเรือซีสตาร์ 29 เผยหลังเกิดเหตุอุบัติเหตุเรือสปีดโบต ชนกับเรือประมง ทางบริษัทให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตเต็มที่ พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกทุกด้าน ขณะที่การทำประกันนั้นทางบริษัททำประกันไว้ 2 บริษัท วงเงินประกันกรณีเสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท ส่วนคนขับเรือ ตร.กระบี่ เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต

นายนิรุจน์ วิชชาพิณ เจ้าของของเรือซีสตาร์ 29 ซึ่งประสบอุบัติเหตุชนกับเรือประมงอวนลาก ที่บริเวณกองหินมูสัง ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะพีพี ประมาณ 6 ไมล์ทะเล จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 35 คน และเสียชีวิต 2 คน โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะนำนักท่องเที่ยวเดินทางกลับจากกระบี่เพื่อมาขึ้นฝั่งที่จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการช่วยเหลือและดูแลนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ ว่า หลังจากได้รับแจ้งว่าเรือประสบอุบัติเหตุทางบริษัทก็เข้าไปดูแล และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทันที และให้การดูแลอย่างเต็มที่ ตั้งแต่นักท่องเที่ยวเกิดอุบัติเหตุ จนกระทั่งนักท่องเที่ยวถูกส่งไปยังโรงพยาบาล ทางบริษัทก็ได้ตามไปดูแล และอำนวยความสะดวก รวมทั้งการจัดหาที่พักให้แก่นักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล

นอกจากนั้น ยังดำเนินการติดต่อประสานงานกับทางสายการบินแต่ละสายการบินที่นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางกลับ แต่ไม่สามารถเดินทางกลับได้ในวันเวลาที่กำหนด ก็ดำเนินการประสานงานและเลื่อนเที่ยวบิน ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจุดนี้ทางบริษัทก็เป็นผู้รับผิดชอบดูแล เช่นเดียวกับกรณีของญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาติดตามค้นหานักท่องเที่ยวชาวเกาหลีทั้ง 2 คนนั้นทางบริษัทก็อำนวยความสะดวกในเรื่องของการจัดหาที่พักให้โดยที่ทางญาติไม่ได้ร้องขอ และเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) ตนก็ได้เดินทางไปพบ และขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดในครั้งนี้

ทำประกันภัย 2 บริษัท กรณีเสียชีวิตจ่าย 1 ล้านบาท

ส่วนเรื่องของการรักษาพยาบาลนั้น ทางบริษัทได้ประสานกับทางบริษัทประกันในการดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้ว โดยมีการทำประกันไว้ 2 ส่วน คือ บริษัทวิริยะ ที่ทำประกันตัวเรือและคุ้มครองบุคคลที่ 3 ในส่วนนี้ ทางบริษัทประกันจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีได้รับบาดเจ็บรายละ 15,000 บาท กรณีเสียชีวิตรายละ 100,000 บาท นอกจากนั้น ยังมีประกันชีวิตของบริษัท AIG กรณีเสียชีวิต จำนวน 1 ล้านบาท และบาดเจ็บวงเงินรายละ 5 แสนบาท ขณะนี้ได้มีการติดต่อประสานงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนของการจ่ายเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตจะจ่ายได้ภายใน 3 วันทำการ ส่วนตัวเรือนั้นก็ได้ทำประกันไว้เช่นกัน ซึ่งเรือเพิ่งต่อมาประมาณ 2 ปี มูลค่าความเสียหายประมาณ 4 ล้านบาท

นายนิรุจน์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า สำหรับการดูแลนักท่องเที่ยว และผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ทางบริษัทยังให้การดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง จนกว่าทุกคนจะออกจากโรงพยาบาล ซึ่งวันนี้ (22 ต.ค.) ตนก็จะเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกทางด้านต่างๆ ให้แก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งในส่วนของกรณีนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตก็จะไปพบกับทางญาติอีกครั้ง หลังจากเมื่อคืนได้ไปพบ และขอโทษไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุนั้นไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วในฐานะที่เป็นเจ้าของเรือที่เกิดเหตุก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตอย่างเต็มที่

กู้เรือซากเรือบริษัทประกันกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ

นายนิรุจน์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงกรณีการกู้เรือซีสตาร์ 29 ที่ประสบอุบัติเหตุ ว่า เรื่องของการกู้เรือนั้น ในส่วนของบริษัทประกันจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการซึ่งจะต้องกู้เรือขึ้นมาอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนกรณีเรื่องของเสื้อชูชีพ ทางบริษัทได้จัดเตรียมเสื้อชูชีพสำหรับผู้โดยสารไว้ครบตามจำนวนทุกคน และที่ผ่านมา ก็ได้มีการกำชับไกด์ และลูกเรือให้ดูแลนักท่องเที่ยวให้สวมใส่เสื้อชูชีพตลอดที่อยู่บนเรือ แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยสวมกัน

ตร.เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มคนขับเรือประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต

ขณะที่ พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ กล่าวถึงการแจ้งข้อหาต่อ นายสุรัตน์ นารถโอสถ กัปตันเรือซีสตาร์ 29 ที่เกิดอุบัติเหตุชนกับเรือประมง ว่า ขณะนี้ในส่วนของกัปตันเรือลำดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่แล้ว ส่วนการแจ้งขอกล่าวหานั้น หลังจากพบศพผู้สูญหายทั้ง 2 คน จากเหตุเรือล้มทางพนักงานสอบสวนก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มแล้ว สำหรับรายนี้ก็ต้องแจ้งข้อหาขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำผู้เสียหาย โดยพนักงานสอบสวนได้เดินทางมาสอบปากคำผู้เสียหายที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว หลังจากนี้ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาต่อทางผู้ต้องหาต่อไป

ตำรวจน้ำเผยเหตุตัดสินใจใช้นักประดาน้ำค้นหาผู้เสียหายจากเหตุเรือชน

ด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.8 ตำรวจน้ำ กล่าวถึงการค้นหาร่างของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่สูญหายจากเหตุการณ์เรือสปีดโบตชนกับเรือประมง ว่า สาเหตุที่ทางตำรวจน้ำไม่ลงไปค้นหาร่างของผู้เสียชีวิตที่เรือลำที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงวันแรก ก็เนื่องจากหลังเกิดเหตุได้มีการสอบถามในส่วนของคนขับเรือ และกัปตันเรือประมง ทราบว่า ขณะเกิดเหตุเห็นร่างของทั้ง 2 กระเด็นออกนอกเรือ ประกอบกับสภาพเรือสปีดโบตที่เป็นลักษณะโล่ง ทำให้การค้นหาในวันแรกทางเจ้าหน้าที่จึงมุ่งเป้าไปที่การค้นหาบนผิวน้ำ เพราะถ้ากรณีเสียชีวิตในนำ หรือในทะเลเมื่อครบเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ศพก็จะลอยขึ้นมาจึงระดมกำลังในการค้นหากระจายครอบคลุมพื้นที่

แต่เมื่อเห็นว่าครบ 24 ชั่วโมงแล้วยังไม่พบร่างของผู้เสียชีวิต ก็ได้เปลี่ยนแผนการค้นหาโดยประสานไปยังนักประดาน้ำที่มีความชำนาญที่สามารถดำน้ำลึกได้มากกว่า 30 เมตร และมีประสบการณ์ลงไปดำน้ำในการค้นหายังจุดที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบถามกัปตันเรือประมงลำที่ถูกชนถึงสภาพเรือซีสตาร์ 29 ทำให้ทราบว่า สภาพเรือมีลักษณะหัวเรือพังยับเข้ามาที่ตัวเรือ จึงตัดสินใจให้นักประดาน้ำดำลงไปตรวจสอบในช่วงบ่ายของวันที่ 22 ต.ค. จนกระทั่งเจอผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และนำกลับเข้ามาที่ฝั่ง

เลื่่อนนำศพกลัับเกาหลีคืน 23 ต.ค.นี้

นายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติศักดิ์ประเทศเกาหลีใต้ ประจำจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการเคลื่อนย้ายศพของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี 2 คน คือ นางสาว An Sun Yang อายุ 28 ปี และ นาย Go Min Woo อายุ 31 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือสปีดโบต ซีสตาร์ 29 ชนกับเรือประมงอวนลาก สินพิชัย 11 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา กลับประเทศเกาหลี ว่า การนำศพของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีกลับประเทศ เดิมกำหนดจะเดินทางเที่ยงคืนนี้ (22 ต.ค.57) ด้วยเครื่องบินของสายการบินโคเรียนแอร์ ต้องเลื่อนออกไปเป็นคืนวันที่ 23 ตุลาคมนี้แทน

เนื่องจากจะต้องมีการตกแต่งศพให้มีความเรียบร้อยและสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ เนื่องจากสภาพศพเสียหายค่อนข้างมาก โดยเฉพาะที่บริเวณศีรษะกับใบหน้า โดยแพทย์จะต้องใช้เวลาในการตกแต่งสภาพศพก่อน ส่วนของการจัดการด้านเอกสารต่างๆ ได้รับความร่วมมือและอำนวยความสะดวกจากทางพนักงานสอบสวน สภ.กระบี่เป็นอย่างดี และไม่มีปัญหาอะไร เมื่อการตกแต่งศพแล้วเสร็จก็สามารถนำกลับประเทศเกาหลีได้ ทางด้านญาติของผู้เสียชีวิตนั้นก็จะเดินทางกลับไปพร้อมกัน โดยขณะนี้ก็เริ่มทำใจได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในอาการที่เศร้าเสียใจอยู่