ASTVผู้จัดการรายวัน - พบแล้วศพ 2 นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เหยื่อซีสตาร์ 29 ชนเรืออวนลาก ติดอยู่ในเรือจมก้นทะเลลึก 30 เมตร พ่อ-แม่ร่ำไห้ใจจะขาด ญาติ-กงสุลขอบคุณช่วยหาจนพบ เผยทั้ง 2 คนเป็นแฟนกัน ฝ่ายชายเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ฝ่ายหญิงพนักงานธนาคาร มีแผนจะแต่งงานเร็วๆนี้ ผู้ว่าฯสั่งอำนวยความสะดวกทำเอกสารให้ญาตินำศพกลับประเทศ ย้ำเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัยเข้มข้มรับไฮซีซั่น ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
จากเหตุเรือสปีดโบตชื่อซีสตาร์ 29 ของบริษัท ซีสตาร์ทัวร์ จำกัด บรรทุกนักท่องเที่ยวรวม 43 คน ชนกับเรืออวนลากสินพิชัย 11 บริเวณกองหินมูสัง ห่างจากเกาะพีพี จ.กระบี่ ประมาณ 6 ไมล์ทะเล ขณะจะมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือรอยัล มารีน่า จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 18 ไมล์ทะเล ทำให้ให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 36 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 7 คน และมีนักท่องเที่ยวเกาหลีสูญหาย 2 คน คือ นายยูวิน วู อายุ 31 ปี และน.ส.แอน ซัน ยอง อายุ 28 ปี เหตุเกิดเวลา17.30 น. วันที่ 19 ตุลาคมนั้น
เมื่อเวลา 07.00 น. วานนี้(21 ต.ค.)พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.8 ตำรวจน้ำ พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่สืบสวนทางน้ำ ตำรวจน้ำจังหวัดภูเก็ต นำเรือ ต. 814 ทำการค้นหาตั้งแต่เกาะพีพี เกาะไก่ และเกาะยาว ซึ่งอยู่ในรัศมีพื้นที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.30 น. กลุ่มครูสอนดำน้ำ พบศพน.ส.แอน ซัน ยอง ติดอยู่บริเวณหัวเรือซีสตาร์ 29 ที่จมอยู่ก้นทะเลลึกประมาณ 30 เมตร จึงนำศพออกมาขึ้นเรือ ต.814 จากนั้นอาสาหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นำศพบรรจุใส่ซองพลาสติกสีขาว ขณะที่บิดา มารดา และพี่ชายโผเข้ากอดพร้อมกับร้องไห้ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปลอบใจเพื่อให้เพื่อสงบสติอารมณ์
ต่อมา เวลา 16.45 น. ครูสอนดำน้ำลงดำค้นหาจนพบศพนายยูวิน วู บริเวณก้นทะเล จึงนำร่างขึ้นมาบนเรือ ต. 814 ท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อแม่ พี่สาวที่เดินทางมารอการค้นหา จากนั้นเรือ ต.814 ได้นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนกลับมาที่ท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ให้แพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งสองศพมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ คาดว่าอาจกระแทกกับตัวเรือ ทำให้ไม่ได้สติและจมลงสู่ก้นทะเลพร้อมกับเรือ
ญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเล่าว่า นายยูวิน วู เป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในกรุงโซล ส่วนน.ส.แอน ซัน ยอง เป็นพนักงานธนาคารในกรุงโซล ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน และจะแต่งงานกันในเร็วๆนี้ โดยเดินทางมาท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต และจะไปเที่ยวต่อที่เกาะพีพี และอ่าวมาหยา จ.กระบี่
พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รองผกก. 8 ตำรวจน้ำ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาผู้สูญหาpเต็มที่ ทั้งทางพื้นน้ำและทางอากาศในระยะ 20 ไมล์ทะเล เป็นวงกลมรอบจุดที่เกิดเหตุ ไปจนถึงหมู่เกาะพีพี เกาะไก่ เกาะเขียว และบริเวณใกล้เคียงทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่พบ จึงตัดสินใจให้นักประดาน้ำซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มมาสเตอร์พีพีดอน ซึ่งเป็นครูสอนดำน้ำ 12 คน ดำลงไปตรวจสอบยังจุดที่เรือจม ซึ่งมีความลึกประมาณ 30 เมตร ซึ่งเที่ยวแรกพบร่างน.ส.แอน ซัน ยอง ติดอยู่ส่วนหัวของเรือ ส่วนนายยูวิน วู ซึ่งพบในเวลาต่อมาก็ติดอยู่ในเรือเช่นกัน
"ช่วงติดตามค้นหา ญาติและครอบครัวของของผู้สูญหาย พร้อมด้วยนายลี ชุน มิน กงสุลเกาหลีประจำประเทศไทย ฝ่ายตำรวจ นายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติมศักดิ์เกาหลีประจำจังหวัดภูเก็ต ร่วมติดตามการค้นหาบนเรือ ต. 814 ท่ามกลางการความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่ร้องไห้เสียงดังตลอดเวลา เนื่องจากยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามทีมค้นหาว่าทำไม่มีกู้เรือซีสตาร์ 29 ตั้งแต่วันแรก ได้รับการชี้แจงว่า จากการสอบภามผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่าจังหวะที่เรือชนนั้นนักท่องเที่ยวและลูกเรือกระเด็นตกน้ำ จึงเข้าใจว่าจมน้ำหายไป ประกอบกับเรือเสียหายอย่างหนัก และจมที่ระดับความลึก 30 เมตร ซึ่งตามหลักแล้วจะไม่กู้เรือ เพราะความลึกระดับนี้ไม่กีดขวางเส้นทางเดินเรือ แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนนักประดาน้ำ พ.ต.ท.ประเสริฐ ก็ตัดสินใจให้ดำลงไปตรวจสอบเรือ จึงพบศพท้งสองคน
เวลา 16.20 น. เรือ ต. 814 ซึ่งมีพ.ต.ท.ปัญญาเป็นผู้บังคับการเรือ พร้อมด้วยพ.ต.ท.ประเสริฐ นายลี ชุน มิน กงสุลเกาหลีประจำประเทศไทย ฝ่ายตำรวจ และญาติผู้เสียชีวิต นำศพนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนมาถึงท่าเทียบเรือรัษฎา โดยมีนายนิสิต จันทรสมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติศักดิ์เกาหลีประจำจังหวัดภูเก็ต รอให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า หลังนำศพลงจากเรือ ต. 814 ได้นำขึ้นรถเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
นายลี ชุน มิน กล่าวว่า ทางการเกาหลีและญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ขอขอบคุณตำรวจ นักประดาน้ำ และเจ้าหน้าที่ซึ่งช่วยกันระดมกำลังค้นหาจนพบและกู้ศพขึ้นมาได้ รู้สึกพอใจกับการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เพราะจะต้องพาญาติผู้เสียชีวิตไปโรงพยาบาล และสถานีตำรวจ เพื่อจัดการเรื่องเอกสารขอรับศพจากโรงพยาบาล ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย จะนำศพกลับเกาหลีได้ เวลา 00.30 น. วันที่ 23 ตุลาคม เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ขณะที่นายนิสิต กล่าวว่า จังหวัดต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ ในการค้นหาร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ซึ่งล่าสุดได้ให้ตำรวจอำนวยความสะดวก เรื่องของการจัดทำเอกสารให้กับญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
ก่อนหน้านี้ เวลา 12.30 น วันเดียวกัน นายนิสิต กล่าวภายหลังเยี่ยมนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บว่า ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสรักษาตัวอยู่หลายคน จึงได้ประสานกงสุลจีนเข้ามาอำนวยความสะดวกให้ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยนั้นมีอยู่แล้ว ทั้งการสวมเสื้อชูชีพ ทั้งคนขับเรือ เจ้าหน้าที่ประจำเรือ ต้องให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา จะตามใจไม่ได้ เพราะคืบก็ทะเลศอกก็ทะเล ไม่มีอะไรแน่นอน ขณะที่คนขับเรือก็ต้องมีใบอนุญาต รู้เส้นทางเดินเรือ เรือทุกลำต้องมีเครื่องมือสื่อสารสำรองเพื่อติดต่อสื่อสารกันได้เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ขณะที่สภาพของเรือต้องพร้อม มีอุปกรณ์ประจำเรือครบตามที่กฎหมายกรมเจ้าท่ากำหนด
"ตอนนี้เรามีศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งจะให้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจนี้ดูแลต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูท่องเที่ยว แต่ก็ต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เตือนนักท่องเที่ยวให้สวมเสื้อชูชีพ ห้ามนักท่องหัวเรือ เป็นต้น"
จากเหตุเรือสปีดโบตชื่อซีสตาร์ 29 ของบริษัท ซีสตาร์ทัวร์ จำกัด บรรทุกนักท่องเที่ยวรวม 43 คน ชนกับเรืออวนลากสินพิชัย 11 บริเวณกองหินมูสัง ห่างจากเกาะพีพี จ.กระบี่ ประมาณ 6 ไมล์ทะเล ขณะจะมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือรอยัล มารีน่า จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 18 ไมล์ทะเล ทำให้ให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 36 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 7 คน และมีนักท่องเที่ยวเกาหลีสูญหาย 2 คน คือ นายยูวิน วู อายุ 31 ปี และน.ส.แอน ซัน ยอง อายุ 28 ปี เหตุเกิดเวลา17.30 น. วันที่ 19 ตุลาคมนั้น
เมื่อเวลา 07.00 น. วานนี้(21 ต.ค.)พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.8 ตำรวจน้ำ พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่สืบสวนทางน้ำ ตำรวจน้ำจังหวัดภูเก็ต นำเรือ ต. 814 ทำการค้นหาตั้งแต่เกาะพีพี เกาะไก่ และเกาะยาว ซึ่งอยู่ในรัศมีพื้นที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.30 น. กลุ่มครูสอนดำน้ำ พบศพน.ส.แอน ซัน ยอง ติดอยู่บริเวณหัวเรือซีสตาร์ 29 ที่จมอยู่ก้นทะเลลึกประมาณ 30 เมตร จึงนำศพออกมาขึ้นเรือ ต.814 จากนั้นอาสาหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นำศพบรรจุใส่ซองพลาสติกสีขาว ขณะที่บิดา มารดา และพี่ชายโผเข้ากอดพร้อมกับร้องไห้ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปลอบใจเพื่อให้เพื่อสงบสติอารมณ์
ต่อมา เวลา 16.45 น. ครูสอนดำน้ำลงดำค้นหาจนพบศพนายยูวิน วู บริเวณก้นทะเล จึงนำร่างขึ้นมาบนเรือ ต. 814 ท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อแม่ พี่สาวที่เดินทางมารอการค้นหา จากนั้นเรือ ต.814 ได้นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนกลับมาที่ท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ให้แพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งสองศพมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ คาดว่าอาจกระแทกกับตัวเรือ ทำให้ไม่ได้สติและจมลงสู่ก้นทะเลพร้อมกับเรือ
ญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเล่าว่า นายยูวิน วู เป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในกรุงโซล ส่วนน.ส.แอน ซัน ยอง เป็นพนักงานธนาคารในกรุงโซล ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน และจะแต่งงานกันในเร็วๆนี้ โดยเดินทางมาท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต และจะไปเที่ยวต่อที่เกาะพีพี และอ่าวมาหยา จ.กระบี่
พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รองผกก. 8 ตำรวจน้ำ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาผู้สูญหาpเต็มที่ ทั้งทางพื้นน้ำและทางอากาศในระยะ 20 ไมล์ทะเล เป็นวงกลมรอบจุดที่เกิดเหตุ ไปจนถึงหมู่เกาะพีพี เกาะไก่ เกาะเขียว และบริเวณใกล้เคียงทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่พบ จึงตัดสินใจให้นักประดาน้ำซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มมาสเตอร์พีพีดอน ซึ่งเป็นครูสอนดำน้ำ 12 คน ดำลงไปตรวจสอบยังจุดที่เรือจม ซึ่งมีความลึกประมาณ 30 เมตร ซึ่งเที่ยวแรกพบร่างน.ส.แอน ซัน ยอง ติดอยู่ส่วนหัวของเรือ ส่วนนายยูวิน วู ซึ่งพบในเวลาต่อมาก็ติดอยู่ในเรือเช่นกัน
"ช่วงติดตามค้นหา ญาติและครอบครัวของของผู้สูญหาย พร้อมด้วยนายลี ชุน มิน กงสุลเกาหลีประจำประเทศไทย ฝ่ายตำรวจ นายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติมศักดิ์เกาหลีประจำจังหวัดภูเก็ต ร่วมติดตามการค้นหาบนเรือ ต. 814 ท่ามกลางการความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่ร้องไห้เสียงดังตลอดเวลา เนื่องจากยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามทีมค้นหาว่าทำไม่มีกู้เรือซีสตาร์ 29 ตั้งแต่วันแรก ได้รับการชี้แจงว่า จากการสอบภามผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่าจังหวะที่เรือชนนั้นนักท่องเที่ยวและลูกเรือกระเด็นตกน้ำ จึงเข้าใจว่าจมน้ำหายไป ประกอบกับเรือเสียหายอย่างหนัก และจมที่ระดับความลึก 30 เมตร ซึ่งตามหลักแล้วจะไม่กู้เรือ เพราะความลึกระดับนี้ไม่กีดขวางเส้นทางเดินเรือ แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนนักประดาน้ำ พ.ต.ท.ประเสริฐ ก็ตัดสินใจให้ดำลงไปตรวจสอบเรือ จึงพบศพท้งสองคน
เวลา 16.20 น. เรือ ต. 814 ซึ่งมีพ.ต.ท.ปัญญาเป็นผู้บังคับการเรือ พร้อมด้วยพ.ต.ท.ประเสริฐ นายลี ชุน มิน กงสุลเกาหลีประจำประเทศไทย ฝ่ายตำรวจ และญาติผู้เสียชีวิต นำศพนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนมาถึงท่าเทียบเรือรัษฎา โดยมีนายนิสิต จันทรสมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติศักดิ์เกาหลีประจำจังหวัดภูเก็ต รอให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า หลังนำศพลงจากเรือ ต. 814 ได้นำขึ้นรถเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
นายลี ชุน มิน กล่าวว่า ทางการเกาหลีและญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ขอขอบคุณตำรวจ นักประดาน้ำ และเจ้าหน้าที่ซึ่งช่วยกันระดมกำลังค้นหาจนพบและกู้ศพขึ้นมาได้ รู้สึกพอใจกับการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เพราะจะต้องพาญาติผู้เสียชีวิตไปโรงพยาบาล และสถานีตำรวจ เพื่อจัดการเรื่องเอกสารขอรับศพจากโรงพยาบาล ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย จะนำศพกลับเกาหลีได้ เวลา 00.30 น. วันที่ 23 ตุลาคม เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ขณะที่นายนิสิต กล่าวว่า จังหวัดต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ ในการค้นหาร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ซึ่งล่าสุดได้ให้ตำรวจอำนวยความสะดวก เรื่องของการจัดทำเอกสารให้กับญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
ก่อนหน้านี้ เวลา 12.30 น วันเดียวกัน นายนิสิต กล่าวภายหลังเยี่ยมนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บว่า ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสรักษาตัวอยู่หลายคน จึงได้ประสานกงสุลจีนเข้ามาอำนวยความสะดวกให้ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยนั้นมีอยู่แล้ว ทั้งการสวมเสื้อชูชีพ ทั้งคนขับเรือ เจ้าหน้าที่ประจำเรือ ต้องให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา จะตามใจไม่ได้ เพราะคืบก็ทะเลศอกก็ทะเล ไม่มีอะไรแน่นอน ขณะที่คนขับเรือก็ต้องมีใบอนุญาต รู้เส้นทางเดินเรือ เรือทุกลำต้องมีเครื่องมือสื่อสารสำรองเพื่อติดต่อสื่อสารกันได้เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ขณะที่สภาพของเรือต้องพร้อม มีอุปกรณ์ประจำเรือครบตามที่กฎหมายกรมเจ้าท่ากำหนด
"ตอนนี้เรามีศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งจะให้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจนี้ดูแลต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูท่องเที่ยว แต่ก็ต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เตือนนักท่องเที่ยวให้สวมเสื้อชูชีพ ห้ามนักท่องหัวเรือ เป็นต้น"