00 ได้อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ในไทยโพสต์วันก่อน แม้จะเป็นมวยแทน "ผักกาดหอม" ที่ตั่งข้อสงสัยในทำนองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอำนาจแท้จริงหรือเปล่า เป็น"ผู้คุมเกมแท้จริง" หรือเปล่า ความหมายก็คือ คนที่มีบารมี มีอำนาจแท้จริง เป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่คุมฝ่ายความมั่นคงอยู่ในเวลานี้หรือเปล่า ก็ต้องบอกว่าเป็นคำถาม และข้อสงสัยที่ตรงใจหลายคนในเวลานี้มากขึ้นเรื่อยๆ !!
00 ความเป็นจริงแบบของแท้เป็นอย่างไรไม่รู้ แต่เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบจากทุกหน่วยงาน ล้วนเป็นญาติพี่น้อง เครือข่ายคนใกล้ชิดของ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" คนนี้ทั้งสิ้น เริ่มจาก "วงการสีกากี" ที่มีการประเมินกันว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. มีบทบาทสำคัญยิ่งนัก ว่ากันว่า ผบ.ตร. คนปัจจุบัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นี่ก็อยู่ในสายของเขา รวมไปถึงว่าที่ ผบ.ตร. คนต่อไปที่วางตัวไว้ล่วงหน้า คือ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา นี่ก็ใช่อีก
00 ส่วนใน สนช. เมื่อสำรวจรายชื่อ เส้นสายแล้วก็ล้วนมาจากทีมงานเดียวกันอีก ทั้งในกองทัพ นอกกองทัพ ที่เกษียณฯออกไปแล้ว ล้วนใกล้ชิด "วงษ์สุวรรณ" ทั้งสิ้น หากยังจำกันได้ กรณี 28 สนช. ที่นำทีมโดย พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ฟ้องศาลปกครองขัดขวาง "ไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สิน" นี่ก็ใช่อีก รวมไปถึงการสรรหา สปช. ก็มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา แม้ว่าในความเป็นจริง จะมีการพิจารณาร่วมกันหลายคน แต่แน่นอนว่า บทบาทของเขาย่อมมีไม่น้อย
00 ขณะเดียวกันอาจเป็นครั้งแรกตั้งแต่มี คสช. และรัฐบาลทหาร ที่มีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพโดย ผบ.สส. พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร แล้วก็ออกมาแถลงพร้อมกันยืนยันว่า "กองทัพสนับสนุนรัฐบาล" ฟังดูมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่คำถามก็คือ นี่คือการ "จงใจ" แถลงออกมาหรือไม่ เป็นการแถลงภายหลังจาก "สนช.กลุ่มสีเขียว" โดนถล่มจากสังคมอย่างหนัก ในเรื่องที่ก่อนหน้านี้ "ปัดสวะ" ไม่ยอมพิจารณาวาระถอดถอน สองอดีตประธานสภา สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ นิคม ไวยรัชพานิช เพราะต้องยอมรับว่า กรณีดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือน ต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อรัฐบาลและคสช.ไม่น้อย จนมีคำถามเรื่อง "เสียของ" เริ่มดังกว่าทุกครั้ง !!
00 เรียบร้อยกันไปแล้ว สำหรับการเซ็นต์มอบสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 โดย รมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็นไฟเขียวแบบเงียบๆ ตามอำนาจของรัฐมนตรี แบบไม่มีเสียงอึกทึกให้เป็นที่สังเกต และขั้นตอนหลังจากนี้ ก็จะให้ กพช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธาน "รับทราบ" เท่านั้น ที่ผ่านมายังยืนยันการให้สัมปทานได้ประโยชน์มากกว่า "แบ่งปันผลผลิต" รวมทั้งยังต้องเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน การเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์พลังงานในอ่าวไทยกับกัมพูชา ให้เสร็จสิ้นภายในรัฐบาลนี้ เวลานี้ก็มีการตั้งคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนกันไปแล้ว !!
00 ความเป็นจริงแบบของแท้เป็นอย่างไรไม่รู้ แต่เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบจากทุกหน่วยงาน ล้วนเป็นญาติพี่น้อง เครือข่ายคนใกล้ชิดของ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" คนนี้ทั้งสิ้น เริ่มจาก "วงการสีกากี" ที่มีการประเมินกันว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. มีบทบาทสำคัญยิ่งนัก ว่ากันว่า ผบ.ตร. คนปัจจุบัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นี่ก็อยู่ในสายของเขา รวมไปถึงว่าที่ ผบ.ตร. คนต่อไปที่วางตัวไว้ล่วงหน้า คือ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา นี่ก็ใช่อีก
00 ส่วนใน สนช. เมื่อสำรวจรายชื่อ เส้นสายแล้วก็ล้วนมาจากทีมงานเดียวกันอีก ทั้งในกองทัพ นอกกองทัพ ที่เกษียณฯออกไปแล้ว ล้วนใกล้ชิด "วงษ์สุวรรณ" ทั้งสิ้น หากยังจำกันได้ กรณี 28 สนช. ที่นำทีมโดย พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ฟ้องศาลปกครองขัดขวาง "ไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สิน" นี่ก็ใช่อีก รวมไปถึงการสรรหา สปช. ก็มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา แม้ว่าในความเป็นจริง จะมีการพิจารณาร่วมกันหลายคน แต่แน่นอนว่า บทบาทของเขาย่อมมีไม่น้อย
00 ขณะเดียวกันอาจเป็นครั้งแรกตั้งแต่มี คสช. และรัฐบาลทหาร ที่มีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพโดย ผบ.สส. พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร แล้วก็ออกมาแถลงพร้อมกันยืนยันว่า "กองทัพสนับสนุนรัฐบาล" ฟังดูมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่คำถามก็คือ นี่คือการ "จงใจ" แถลงออกมาหรือไม่ เป็นการแถลงภายหลังจาก "สนช.กลุ่มสีเขียว" โดนถล่มจากสังคมอย่างหนัก ในเรื่องที่ก่อนหน้านี้ "ปัดสวะ" ไม่ยอมพิจารณาวาระถอดถอน สองอดีตประธานสภา สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ นิคม ไวยรัชพานิช เพราะต้องยอมรับว่า กรณีดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือน ต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อรัฐบาลและคสช.ไม่น้อย จนมีคำถามเรื่อง "เสียของ" เริ่มดังกว่าทุกครั้ง !!
00 เรียบร้อยกันไปแล้ว สำหรับการเซ็นต์มอบสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 โดย รมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็นไฟเขียวแบบเงียบๆ ตามอำนาจของรัฐมนตรี แบบไม่มีเสียงอึกทึกให้เป็นที่สังเกต และขั้นตอนหลังจากนี้ ก็จะให้ กพช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธาน "รับทราบ" เท่านั้น ที่ผ่านมายังยืนยันการให้สัมปทานได้ประโยชน์มากกว่า "แบ่งปันผลผลิต" รวมทั้งยังต้องเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน การเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์พลังงานในอ่าวไทยกับกัมพูชา ให้เสร็จสิ้นภายในรัฐบาลนี้ เวลานี้ก็มีการตั้งคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนกันไปแล้ว !!
