ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เป็นปรากฏการณ์ที่ต้องใช้คำว่า “ช๊อก” คนไทยทั้งประเทศเลยทีเดียว เมื่อ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยระดับแม่เหล็กของไทย พ.ศ.นี้ ไม่ยอมขึ้นเวทีสานต่อภารกิจยกที่ 4 ศึก "เค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ ไฟนอล" รอบชิงชนะเลิศรุ่น 70 กิโลกรัมที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อตัดสินแชมป์ให้รู้ดำรู้แดง หลังจากกรรมการให้เสมอกับ เอ็นริเก เคห์ล จากเยอรมนี
ภายหลังทุกคนพยายามตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะจากนั้นไม่นานนักบัวขาวก็ทิ้งปริศนาด้วยการโพสต์ข้อความผ่านสังคมออนไลน์ว่า “ขอโทษที่ทำให้แฟนๆ งง เดี๋ยวคงเข้าใจผมครับ”
ณ ช่วงเวลานั้น ทุกคนได้แต่ตีความกันไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการพนันขันต่อ เนื่องจากก่อนหน้านี้ราว 1 สัปดาห์ บัวขาวขึ้นโรงพักลงบันทึกประจำวันว่า ศึก เค-วัน ที่ตนเองจะขึ้นสังเวียนหนนี้มีการพนันบนโลกออนไลน์
ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เป็นเพราะศึกเค-วันเขียนสคริปต์ให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่
แฟนกีฬามวยมองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า บัวขาวเดินทางมาถึงจุดที่ไม่ต้องการเงิน ไม่อยากให้มวยกลายเป็นธุรกิจ จึงเมินเล่นตามสคริปต์และตัดสินใจแหกกฎลงจากเวทีกะทันหัน เพราะแม้บัวขาวจะเคยเป็นแชมป์เค-วันถึงสองสมัยในปี 2004 กับ 2006 แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาโดนปล้นแชมป์ไปหลายรอบเหมือนกัน
ถึงจุดนี้ทุกคนต่างเชียร์ให้บัวขาวออกมาเปิดโปงวงการถึงเรื่องตื้นลึกหนาบางต่างๆ ทั้งธุรกิจและการพนัน เพราะเป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วว่าวงการมวยกับการพนันอยู่คู่กันมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย มวยตู้หรือมวยสากลระดับอินเตอร์ก็ตาม
แต่แล้วความงงงวยก็ฉายซ้ำออกมาอีกกับท่าทีของ บริษัท เค-วัน โกลบอล โฮลดิง จำกัด เพราะในขณะที่สังคมกำลังดูว่า เค-วันจะมีปฏิกิริยาอย่างไร มร.เน็ท คูรัก กรรมการบริษัทกลับเลือกที่จะไม่ฟ้องร้องทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่า บัวขาวทำผิดกฎชัดเจน โดยประกาศขอดูท่าทีอีกฝ่ายก่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดวิสัยของคนที่เสียหาย คล้ายๆ กับว่า ต้องการเคลียร์ปัญหาเป็นการภายในเสียก่อน
ระหว่างที่ฝุ่นกำลังตลบและคาดเดากันไปต่างๆ นานา ก็มี “พยัคฆ์หน้าหยก” สามารถ พยัคฆ์อรุณ ยอดมวยระดับตำนานของไทย วิเคราะห์ว่า บัวขาว ต้องการยกเลิกสัญญา เพื่อที่จะได้ขึ้นชกรายการอื่นๆ ได้อีก
เนื้อหาระบุว่า “เท่าที่รู้สัญญาของเวทีนี้ ที่ บัวขาว เซ็นอยู่หมดปี 2015 ซึ่งในระยะสัญญาที่ว่านี้ เขาจะไม่สามารถไปต่อยเวทีไหนได้ อันนี้เราคิดนะ แล้วพรรคพวกก็บอกมาว่า จริงไม่จริงไม่รู้ จะมีรายการมวยของประเทศไทยจับ บัวขาว ต่อยที่ฝรั่งเศสด้วย ดังนั้น ถ้าเขายังอยู่ในสัญญาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ผมคิดว่าเรื่องนี้ บัวขาว อาจจะรู้ตัวอยู่ก่อน ไม่ได้คิดแล้วทำเลย เพราะเราจะเห็นได้ว่า เดินลงมาก็มีการ์ดมาคุมขึ้นรถตู้เลย แสดงว่าต้องเตรียมรถตู้ หรือเตรียมอะไรมาแล้ว ดังนั้น ที่ บัวขาว ออกมาพูดว่าคิดคนเดียว ตัดสินใจเดินลงคนเดียว มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร ตนวิเคราะห์อย่างนั้น ซึ่งจะเป็นไปได้แค่ไหนมีแต่บัวขาวเท่านั้นที่รู้”
ขณะเดียวกันก็มีระแคะระคายมาตั้งแต่ก่อนไฟต์แล้วว่า บัวขาวจะไม่ชกให้กับ เค-วัน ในปีหน้า อาจเพราะมีการเปลี่ยนกฎให้แชมป์ครั้งนี้ได้สิทธิ์เป็นตัวยืนป้องกันแชมป์ในปีต่อไป แบบนี้ก็ยิ่งมีน้ำหนักเพิ่มให้กับข่าวลือเรื่องการล็อก ผลตัดสินเข้าไปอีก เพราะถ้า "ดำดอทคอม" เลิกจริง ถ้าได้แชมป์ก็เท่ากับผิดแผนที่ฝ่ายจัดวางไว้ พอผนวกเข้ากันแล้วก็น่าจะเป็นหนึ่งปัจจัยที่ไม่ยอมชกต่อในยกที่ 4 ก็เป็นได้
แล้วก็ถึงวันที่บัวขาว เปิดบัญชาเมฆยิม ซอยโยธินพัฒนา 3 แจกแจงต่อหน้าสาธารณชนเมื่อวันอังคารที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา กรณีชิ่งหรือ "วอล์กเอาท์" โดยมองว่าเป็นฝ่ายเหนือกว่าทุกกระบวนท่า แต่กรรมการให้เสมอ พร้อมรวบรวมมวลน้ำจนมาเอ่อที่ 2 ตาอ้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไปนั้นเป็นคนตัดสินใจเองทั้งหมด อีกทั้ง เค-วัน มีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาจนการแข่งขันเพี้ยนไปหมด จึงต้องทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีศิลปะแม่ไม้มวยไทย
แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ ตอนจบของการแถลงข่าวในวันนั้น ท่าทีของบัวขาวเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยบอกว่าจะชกต่อปี 2015 เนื่องจากยังคงมีสัญญากับทาง เค-วัน ซึ่งเล่นเอาอึ้งกิมกี่กันทั้งบางว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะแทนที่แฟนกีฬามวยชาวไทยจะเห็นบทบู๊ล้างผลาญจากบัวขาวกับเค-วันที่ห้ำหั่นเข้าใส่กันแบบไม่ยั้ง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าบัวขาว “ขี้ไม่สุด” และมิอาจมองเป็นอย่างอื่นได้ว่า ทั้งบัวขาวและเค-วันได้มีการเจรจาต้าอ่วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และเมื่อประมวลข้อเท็จจริงทั้งหมดทั้งมวลก็ทำให้ได้ข้อสรุปว่า เหตุที่บัวขาวมีท่าทีเยี่ยงนั้น ก็เพราะทั้งบัวขาวและ เค-วันตกอยู่ในสภาพที่เรียกว่า “น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า” ถ้าจะปะทะถึงขั้นแตกหัก ทั้งสองฝ่ายก็จะตกอยู่ในสภาพ “หยกศิลาล้วนแหลกลาญ” เนื่องจากต่างก็มีผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน มิได้เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องกติกาหรือการปกป้องศักดิ์ศรีมวยไทยแต่ประการใด
บัวขาวเองแม้จะเกิดกับ “ไทย ไฟต์” แต่ก็มีปัญหา ทำให้พื้นที่และทัวร์นาเมนต์ที่จะโกยเงินรวมถึงโชว์ฝีไม้ลายมือน้อยลง ซึ่งโดยลึกๆ แล้วก็เชื่อว่า บัวขาวยังปรารถนาที่จะชกบนสังเวียนระดับโลกอย่างเค-วันต่อไป
ขณะที่ บริษัท เค-วัน โกลบอล โฮลดิง จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ กำลังขัดสน เพราะความนิยมก็ดำดิ่ง จึงไม่อยากให้ปัญหาลุกลามเนื่องจากจำต้องพึ่งพาซูเปอร์สตาร์อย่างบัวขาวเพื่อกระชากเรตติ้งของเค-วันให้ยังคงอยู่ต่อไป
ทั้งสองฝ่ายจึงจำต้องถอยกันคนละก้าว ไม่เหมือนกรณีข่าวคาวฉาวโฉ่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับ“น้ำเพชร” สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ อดีตรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพราะทั้งสองฝ่ายเดินทางมาถึงจุดที่ต้องบอกว่า ได้เดินทางมาถึงจุดที่ไม่อาจถอยได้อีกต่อไปแล้ว