คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
รายการ K-1 World Max 2014 รอบชิงชนะเลิศที่ระเบิดศึกกันไปเมื่อช่วงดึกคืนวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ เมืองพัทยา บ้านเรา เป็นการพบกันระหว่างขวัญใจชาวไทย “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ กับ เอ็นริโก้ เคห์ล จากเยอรมนี จบลงด้วยผลเสมอเมื่อครบ 3 ยก แต่เมื่อจะต้องชกต่อในยกที่ 4 ปรากฏว่า “เจ้าดำ” ไม่อยู่บนเวทีแล้ว ทำให้นักชกแดนไส้กรอกได้รับการชูมือให้เป็นแชมป์ เค-วัน สำหรับปีนี้ไปในที่สุด โดยผลการตัดสินอย่างเป็นทางการ ถือว่าไฟต์นี้ “เสมอ” แต่ บัวขาว “สละสิทธิ์” ตามที่ ดีเจภูมิ ประกาศบนเวทีว่า “Forfeit”
ไฟต์นี้นั้นว่ากันจริงๆ ต้องถือว่าแฟนมวยตั้งตารอกันเยอะมาก เพราะหวังกันว่ายอดมวยไทยของเราจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ เค-วัน 3 สมัยเป็นคนแรก เพราะคู่ชิงนั้น บัวขาว เคยฟันศอกหน้าแตกเละมาแล้วเมื่อปลายปีที่แล้วในการพบกันในกติกามวยไทย 100% ยิ่งรอบชิงยกมาจัดถึงถิ่นนี่ดูสภาพแวดล้อมก็เหมือน “ปูทาง” ไว้ให้ บัวขาว สร้างประวัติศาสตร์เพื่อเป็นสีสันให้กับวงการ เค-วัน ที่นับวันจะหงอยลงๆ ได้อยู่แล้ว พอออกแบบนี้เลยกลายเป็น แอนตี้ ไคลแม็กซ์ ซะงั้น
ก่อนถึงการชกรายการนี้ ก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ แล้ว ตั้งแต่การที่ต้องเลื่อนกำหนดการออกมาจากสถานการณ์บ้านเมืองของเรา แต่ทาง เค-วัน ก็ยืนยันหนักแน่นว่าการต่อสู้ในรอบชิงจะระเบิดขึ้นที่เมืองไทยแน่นอน จนมีการยืนยันกำหนดแน่นอน ทางยอดนักชกไทยก็ยังเนื้อหอม มีโปรแกรมขึ้นชกอยู่อย่างต่อเนื่องตลอด จนสุดท้ายเพิ่งขึ้นชกในรายการ ท็อป คิง เวิลด์ ซีรีส์ ไปเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากนั้นกลับมาเข้าค่ายเก็บตัวก็มีข่าวเรื่องถูกคุกคามด้านความปลอดภัย จนก่อนรายการ 1 สัปดาห์ “เจ้าดำ” ก็ไปโรงพักเพื่อลงประจำวันไว้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเปิดรับแทงพนันสำหรับไฟต์รอบชิงศึก เค-วัน นี้ ตามที่มีการเสนอข่าวมาเป็นระยะๆ
พอผลการชกออกมาอย่างที่เห็น ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มทันที ส่วนใหญ่ก็ให้น้ำหนักไปทางเรื่องการเปิดรับแทงพนันที่ บัวขาว ได้ชูประเด็นไว้ก่อนแล้ว รวมไปถึงเรื่องการล็อกการตัดสินที่ลือกันหนาหูมากโดยเฉพาะช่วงใกล้ๆ การชก ที่สำคัญมีข่าววงในมาก่อนแล้วด้วยว่า บัวขาว นั้นไม่ต่อสัญญากับ เค-วัน สำหรับปีหน้า พอรวมเข้ากับการที่ เค-วัน เปลี่ยนระบบใหม่ ให้แชมป์ครั้งนี้ได้เป็น “แชมป์ตัวจริง” เป็นตัวยืนได้สิทธิ์ป้องกันแชมป์กับแชมป์ เค-วัน ปีต่อๆ ไป แบบนี้ก็ยิ่งมีน้ำหนักเพิ่มให้กับข่าวลือเรื่องการล็อกการตัดสินเข้าไปอีก เพราะถ้า “เจ้าดำ” เราไม่ต่อสัญญา ถ้าได้แชมป์มาก็เท่ากับผิดแผนที่ เค-วัน จะให้แชมป์เป็นตัวยืนสำหรับปีต่อๆ ไป พอเอามาผนวกเข้ากับการเปิดรับแทงพนันที่ไม่เคยมีมาก่อน ก็คงเห็นภาพชัดเจนว่าทำไม บัวขาว ถึงลงจากเวทีทันทีที่ระฆังหมดยกที่ 3 ดังขึ้น
ตอนนี้ก็ต้องรอดูท่าทีของ “เค-วัน โกลบอล” ต่อไปว่าจะเอายังไง เราไม่รู้ว่าเนื้อหาในสัญญาเขียนไว้อย่างไรสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นแบบนี้ จะมีโอกาสฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบัวขาวได้มากน้อยแค่ไหน ตอนที่เขียนบทความนี้ทาง เค-วัน โกลบอล ยังไม่ได้ออกมาแถลงอะไร ถึงตอนนั้นคงเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นอีกที
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
รายการ K-1 World Max 2014 รอบชิงชนะเลิศที่ระเบิดศึกกันไปเมื่อช่วงดึกคืนวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ เมืองพัทยา บ้านเรา เป็นการพบกันระหว่างขวัญใจชาวไทย “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ กับ เอ็นริโก้ เคห์ล จากเยอรมนี จบลงด้วยผลเสมอเมื่อครบ 3 ยก แต่เมื่อจะต้องชกต่อในยกที่ 4 ปรากฏว่า “เจ้าดำ” ไม่อยู่บนเวทีแล้ว ทำให้นักชกแดนไส้กรอกได้รับการชูมือให้เป็นแชมป์ เค-วัน สำหรับปีนี้ไปในที่สุด โดยผลการตัดสินอย่างเป็นทางการ ถือว่าไฟต์นี้ “เสมอ” แต่ บัวขาว “สละสิทธิ์” ตามที่ ดีเจภูมิ ประกาศบนเวทีว่า “Forfeit”
ไฟต์นี้นั้นว่ากันจริงๆ ต้องถือว่าแฟนมวยตั้งตารอกันเยอะมาก เพราะหวังกันว่ายอดมวยไทยของเราจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ เค-วัน 3 สมัยเป็นคนแรก เพราะคู่ชิงนั้น บัวขาว เคยฟันศอกหน้าแตกเละมาแล้วเมื่อปลายปีที่แล้วในการพบกันในกติกามวยไทย 100% ยิ่งรอบชิงยกมาจัดถึงถิ่นนี่ดูสภาพแวดล้อมก็เหมือน “ปูทาง” ไว้ให้ บัวขาว สร้างประวัติศาสตร์เพื่อเป็นสีสันให้กับวงการ เค-วัน ที่นับวันจะหงอยลงๆ ได้อยู่แล้ว พอออกแบบนี้เลยกลายเป็น แอนตี้ ไคลแม็กซ์ ซะงั้น
ก่อนถึงการชกรายการนี้ ก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ แล้ว ตั้งแต่การที่ต้องเลื่อนกำหนดการออกมาจากสถานการณ์บ้านเมืองของเรา แต่ทาง เค-วัน ก็ยืนยันหนักแน่นว่าการต่อสู้ในรอบชิงจะระเบิดขึ้นที่เมืองไทยแน่นอน จนมีการยืนยันกำหนดแน่นอน ทางยอดนักชกไทยก็ยังเนื้อหอม มีโปรแกรมขึ้นชกอยู่อย่างต่อเนื่องตลอด จนสุดท้ายเพิ่งขึ้นชกในรายการ ท็อป คิง เวิลด์ ซีรีส์ ไปเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากนั้นกลับมาเข้าค่ายเก็บตัวก็มีข่าวเรื่องถูกคุกคามด้านความปลอดภัย จนก่อนรายการ 1 สัปดาห์ “เจ้าดำ” ก็ไปโรงพักเพื่อลงประจำวันไว้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเปิดรับแทงพนันสำหรับไฟต์รอบชิงศึก เค-วัน นี้ ตามที่มีการเสนอข่าวมาเป็นระยะๆ
พอผลการชกออกมาอย่างที่เห็น ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มทันที ส่วนใหญ่ก็ให้น้ำหนักไปทางเรื่องการเปิดรับแทงพนันที่ บัวขาว ได้ชูประเด็นไว้ก่อนแล้ว รวมไปถึงเรื่องการล็อกการตัดสินที่ลือกันหนาหูมากโดยเฉพาะช่วงใกล้ๆ การชก ที่สำคัญมีข่าววงในมาก่อนแล้วด้วยว่า บัวขาว นั้นไม่ต่อสัญญากับ เค-วัน สำหรับปีหน้า พอรวมเข้ากับการที่ เค-วัน เปลี่ยนระบบใหม่ ให้แชมป์ครั้งนี้ได้เป็น “แชมป์ตัวจริง” เป็นตัวยืนได้สิทธิ์ป้องกันแชมป์กับแชมป์ เค-วัน ปีต่อๆ ไป แบบนี้ก็ยิ่งมีน้ำหนักเพิ่มให้กับข่าวลือเรื่องการล็อกการตัดสินเข้าไปอีก เพราะถ้า “เจ้าดำ” เราไม่ต่อสัญญา ถ้าได้แชมป์มาก็เท่ากับผิดแผนที่ เค-วัน จะให้แชมป์เป็นตัวยืนสำหรับปีต่อๆ ไป พอเอามาผนวกเข้ากับการเปิดรับแทงพนันที่ไม่เคยมีมาก่อน ก็คงเห็นภาพชัดเจนว่าทำไม บัวขาว ถึงลงจากเวทีทันทีที่ระฆังหมดยกที่ 3 ดังขึ้น
ตอนนี้ก็ต้องรอดูท่าทีของ “เค-วัน โกลบอล” ต่อไปว่าจะเอายังไง เราไม่รู้ว่าเนื้อหาในสัญญาเขียนไว้อย่างไรสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นแบบนี้ จะมีโอกาสฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบัวขาวได้มากน้อยแค่ไหน ตอนที่เขียนบทความนี้ทาง เค-วัน โกลบอล ยังไม่ได้ออกมาแถลงอะไร ถึงตอนนั้นคงเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นอีกที
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *