สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
คนไทย-คนจีน-คนทุกชาติในโลก ล้วนเกลียดคอร์รัปชั่นเข้ากระดูกดำ ทุกชาติจึงต้องการ“อัศวิน”ขี่“ม้า”สีอะไรก็ได้ ขอเพียงมาปราบคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง ซึ่งผลงานที่ดีงามในการปราบคนโกงชาติของ “อัศวิน”คนนั้น จะทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษ-วีรสตรีของชาติเลยล่ะ..
สภาพปัญหาคอร์รัปชั่น ในประเทศระบอบสังคมนิยมผสมทุนนิยมแบบจีนๆนั้น มีทั้งการรับสินบน การยักยอกเงินหลวง การใช้เงินหลวงอย่างฟุ่มเฟือย เอื้อประโยชน์ให้คนใกล้ชิด ฯลฯโดยเฉพาะการคอร์รัปชั่น แม้จีนจะมีกฎหมายเกี่ยวกับคอร์รัปชั่น แต่ก็มีระบบเส้นสายที่ทำให้การบังคับใช้กฏหมาย ไร้ความแน่นอนและไร้ประสิทธิภาพ
เมื่อ“สี จิ้นผิง”ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เขาได้ประกาศนโยบายปราบคนโกงชาติ อย่างกล้าหาญและไม่อ้อมค้อมว่า
ถ้าไม่ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจังแล้ว พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็อยู่ไม่ได้ และถือว่าภารกิจในการปราบทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นภาระใจกลางอย่างหนึ่งของชาติจีนในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ชี้เป็นชี้ตายต่ออนาคตของจีน
“สีฯ”จึงเตือนว่า ผู้นำระดับสูงทั้งหมดและทั่วทั้งพรรคคอมฯจีน ต้องระมัดระวัง“กระสุนเคลือบน้ำตาล” ที่เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อพรรคคอมฯจีน กองทัพปลดแอกประชาชนจีน รัฐบาลจีน ประเทศจีน และประชาชาติจีนทั้งมวลด้วย
“สีฯ”ได้เปล่งวาทกรรมอันแหลมคมมากมาย เช่น “สีฯ”ประกาศอย่างมุ่งมั่นว่า เมื่อชักธงรบคอร์รัปชั่น ใครจะอยู่ใครจะตาย การยกย่องหรือเหยียบย่ำ-มิใช่ประเด็น! 14 มกราคม 2557 “สีฯ”เตือนข้าราชการรัฐบาลทุกระดับว่า“มืออย่าแบ แบต้องถูกจับ”!
“สีฯ”ยังสั่งให้คณะกรรมการตรวจสอบวินัยทุกระดับของพรรค “ต้องมีสิทธิ์ตรวจสอบอย่างอิสระและมีอำนาจ” ต้องไม่เป็น“เสือกระดาษ”หรือ“หุ่นไล่กา” ดังนั้น สมาชิกพรรคทุกระดับจะต้องปฏิบัติตามวินัยของพรรค และวินัยพรรคต้องเป็น“สายไฟฟ้าแรงสูงที่มีกระแสไฟอย่างแท้จริง” อีกด้วย!
“สีฯ”ได้ย้ำให้สมาชิกพรรค “ต้องเดินหน้าส่งเสริมความซื่อสัตย์สุจริตภายในพรรคฯ และปราบการทุจริตให้ถึงที่สุด ด้วยการใช้ยาแรงเพื่อรักษาโรคให้หายขาด ด้วยวิธีการลงโทษอย่าหนัก ด้วยความกล้าหาญในการขูดกระดูกเพื่อขับพิษ และชายชาตรีต้องตัดข้อมือทิ้งหลังถูกงูพิษกัด เพื่อไม่ให้ทำลายร่างกายทุกส่วน”
แต่แค่นี้ยังเจ๋งไม่พอ..“สีฯ”ยังแถลงเปรี้ยงปร้างว่า การปราบคอร์รัปชั่นต้อง“ฆ่า”ทั้ง“เสือ”กับ“แมลงวัน” นั่นคือ ต้องกำจัดคอร์รัปชั่นทุกระบบในพรรคและรัฐบาลจีน นโยบายปราบคนชั่วโกงชาติครั้งนี้ ถูกใจชาวจีนกว่า 1,300 ล้านคนอย่างยิ่ง จึงได้รับการตอบสนองจากทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง
แม้จีนจะไม่มี“ปปช.”เหมือนไทย แต่จีนมี“คณะกรรมการกลางตรวจสอบวินัย” หรือ Central Commission for Discipline Inspection (CCDI) ที่เจ๋งกว่า ปปช.ไทยทั้งการสืบสวนสอบสวน และตั้งข้อหาได้แม้ระดับสมาชิกสูงสุดของพรรคคอมฯจีน
หน่วยงานสำคัญในการปราบคอร์รัปชั่น CCDI นี้ “ท่านผู้นำสีฯ”มอบหมายให้มือขวาของเขา“หวัง ฉีซาน” ซึ่งเป็นแกนนำในการรณรงค์เคลื่อนไหวต่อต้านคนโกงกินชาติ ขึ้นเป็นหัวหน้าใหญ่ของ CCDI จนมีบางเสียงวิจารณ์ว่า“ท่านผู้นำสีฯ”กำลังยืมมือหน่วยปราบการทุจริตประพฤติมิชอบ มาจัดการกับศัตรูทางการเมือง เพื่อสร้างฐานการเมืองตนและพวกพ้องให้แข็งแกร่ง
แต่ประธานาธิบดี“สีฯ”ไม่สน เขาเดินหน้าปราบคอร์รัปชั่นอย่างเอาเป็นเอาตาย มิใช่ปราบด้วยวาทกรรมเท่ๆที่ดูดีเท่านั้น หรือแค่สร้างภาพ พูดโกหกปาวๆทุกวี่วัน ดังผู้นำบางชาติกำลังทำอยู่ในเวลานี้
นโยบายปราบคนชั่วโกงชาติของ“สีฯ” ได้รับการตอบสนองอย่างคึกคัก เช่น กระทรวงศึกษาจีนได้ออกกฎเหล็ก 6 ข้อ บังคับใช้กับครู-ผู้ปกครอง-นักเรียน ดังนี้
1.ห้ามใช้วิธีการใดๆในการเรียกร้อง หรือรับเงิน หรือรับของขวัญจากผู้ปกครองและนักเรียน รวมไปถึงตราสารหุ้น หรือบัตรกำนัล บัตรของขวัญทุกประเภท 2.ห้ามเข้าร่วมงานเลี้ยงใดๆของผู้ปกครองและนักเรียน ที่อาจส่งผลต่อการสอบ การให้คะแนน 3.ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมบันเทิงต่างๆ อาทิ การท่องเที่ยว ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ ฯลฯ ที่ผู้ปกครองหรือนักเรียนจัด
4.ห้ามผู้ปกครองและนักเรียน ชำระเงินหรือจ่ายค่าใช้จ่ายใดที่ครูอาจารย์ หรือญาติครูอาจารย์พึงจ่าย 5.ห้ามแนะนำ จำหน่ายสินค้าเชิงพาณิชย์ที่ครูได้ค่าตอบแทน ให้กับนักเรียน อาทิ หนังสือ นิตยสาร สิ่งของ ประกันต่างๆ 6.ห้ามอาศัยอำนาจหน้าที่ในการรับผลประโยชน์อันไม่ควรทุกอย่าง
ใครละเมิดกฎเหล็ก 6 ข้อนี้ จะโดนลงโทษทั้งเบาและหนักแล้วแต่กรณี ซึ่งมีทั้งเพิกถอนใบประกอบอาชีพครู หรือส่งขึ้นศาลลงโทษ โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์กระทรวงศึกษาจีน ได้เผยแพร่ให้รู้ถึงกฎนี้อย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังมีเบอร์โทรศัพท์สายตรง ให้กับผู้พบเห็นการทำผิดแจ้งต่อทางกระทรวงฯ
นอกจากนี้กระทรวงศึกษาจีนฯ ยังมีการออกหนังสือภาพวาด จ่ายแจกให้กับครูและนักเรียน โดยมีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและสนุก รวมทั้งประชดประชันปัญหาการทุจริต เพื่อสร้างมุมมองและความเข้าใจ ต่อผลเสียของการคอร์รัปชั่น และยังสร้างกระแสความซื่อสัตย์สุจริต ให้เกิดขึ้นตั้งแต่ในโรงเรียน ในชุมชน เพื่อวางรากฐานตั้งแต่เด็ก และส่งผลต่อผู้ปกครองที่เคยชินกับการคอร์รัปชั่นไปในตัวด้วย
นอกจากนั้นยังมีการสร้าง“เกมปราบคนโกงชาติ” ให้เล่นผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้ชาวจีนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สนุกสนานและเกลียดชังคนคอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างกว้างขวาง จนเกมฯนี้เป็นที่นิยมกันทั่วประเทศ
กระทรวงศึกษาฯเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่การรณรงค์ปราบคอร์รัปชั่น ตามที่“ท่านผู้นำสีฯ”สั่งนั้น เกิดขึ้นทุกกระทรวง-ทุกองค์กร-ทุกระดับทั่วประเทศจีน อีกทั้งยังทำกันอย่างถึงลูกถึงคนอีกต่างหาก
ดังนั้น เฉพาะเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้ว (2556) เจ้าหน้าที่ของจีนถูกสอบสวนเกือบ 37,000 คน ฐานต้องสงสัยในคดีคอร์รัปชั่นกว่า 27,236 คดี ซึ่งในจำนวนนี้ 12,824 คดีก่อให้เกิดความสูญเสียเป็นมูลค่าสูงถึง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 2.96 หมื่นล้านบาท
เว็บไซต์“ไชน่าเดลี” วันที่ 7 ตุลาคม 2557 รายงานว่า ทางการจีนได้ไล่ข้าราชการ“ผี”ทั่วประเทศออกถึง 162,629 ตำแหน่ง หลังตรวจพบว่า มีชื่อกินเงินเดือนของรัฐ แต่ไม่เคยมีตัวตนมาทำงาน โดยมณฑลที่มีข้าราชการ“ผี”มากที่สุด คือ มณฑลเหอเป่ย ซึ่งมีถึง 55,793 ตำแหน่ง ตามด้วยมณฑลเสฉวน 28,466 ตำแหน่ง และมณฑลเหอหนานอีก15,022 ตำแหน่ง
ส่วนพรรคคอมฯจีนนั้น ได้ออกกฎห้ามสมาชิกพรรคเที่ยวไนท์คลับส่วนตัว หลังมีการใช้สถานที่มั่วสุมแบบนี้เป็นแหล่งคอร์รัปชั่น รับสินบน ทำธุรกิจผิดกฎหมาย และใช้มั่วสุมทางเพศ ฯลฯ อีกทั้งพรรคยังได้ตั้งหน่วยปราบคอร์รัปชั่นขึ้นโดยตรง และรับเรื่องร้องเรียนกว่า 1.95 ล้านกรณี ดำเนินการสอบสวนไป 172,532 กรณี ผลการสอบสวนทำให้เจ้าหน้าที่กว่า182,038 คน ถูกลงโทษทางวินัย ตั้งแต่ตักเตือน-ไล่ออกจากพรรค บางคนถึงกับติดคุกติดตะรางกันเลย
เวลาผ่านไปแค่ปีเศษๆ “ท่านผู้นำสีฯ”กับข้าราชการและชาวจีนผู้รักชาติ โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมของจีน ได้ช่วยกันปราบและจับทั้ง“เสือ”และ“แมลงวัน” ระดับโปลิตบูโรและกรรมการกลางพรรค, นายพล, รัฐมนตรี, ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ, ผู้บริหารส่วนกลางและส่วนมณฑล, นายกเทศมนตรีเมือง ฯลฯ โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น
ทำให้“เสือ”กับ“แมลงวัน”ในจีน ถูกปลด-ถูกจับติดคุก-ถูกประหารชีวิตกันระนาว!!!
ตอนหน้ามาดู“ท่านผู้นำสีฯ”จับ“เสือตัวใหญ่”กันดีกว่า...