“ประยุทธ์”คงอยู่ไม่ยาว

ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

รายชื่อสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) จำนวน 250 คนประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว ตรงตามโผที่มีออกมาก่อนหน้าเกินกว่า90% และแม้หน้าตาสปช.ชุดนี้จะไม่สวยเลิศเลอ แต่ไม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากนัก

เพราะการคัดเฟ้น สปช. ไม่แตกต่างจากการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)จำนวน 220 คน หรือการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงกระทรวงต่างๆ โดยคนที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ถูกลากเข้ามาเป็น สนช. สปช. หรือได้ตำแหน่งใหญ่โตในกระทรวงต่างๆ

คนที่สังคมตั้งแง่ ไม่ต้องการให้มีบทบาททางการเมือง กลับถูกผลักดันให้กลับเข้ามามีตำแหน่ง ข้าราชการที่มีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ เคยก้มหัวทำงานตามใบสั่งนักการเมือง ซึ่งควรจะต้องถูกเก็บเข้ากรุ กลับได้รับแต่งตั้งให้ได้รับตำแหน่งใหญ่โต

การแต่งตั้งพวกพ้องเข้ามามีบทบาทสำคัญทางการเมือง หรือเป็นใหญ่เป็นโตคุมหน่วยงานราชการสำคัญ อาจเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมานาน จนทุกฝ่ายต้องทำใจยอมรับ ไม่อยากจะทักท้วงกันเท่าไหร่

เพราะใครขึ้นมาเป็นใหญ่ กุมอำนาจบริหารประเทศ มักจะเอาพวกเอาพ้องตัวเองไว้ก่อน

แต่สำหรับ คสช. สำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การบริหารประเทศจะยึดมาตรฐานต่ำๆระดับเดียวกับนักการเมืองหรือ

และถ้าบริหารในมาตรฐานเดียวกับนักการเมือง พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิรูปประเทศ คืนความสุขประชาชนได้อย่างไร เพราะการแต่งตั้งพวกพ้อง การผลักดันคนที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดขึ้นมาเป็นใหญ่ เป็นต้นเหตุที่ทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องพังพินาศ

คนดี มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ความสำเร็จจากการทำงานมายาวนาน แสดงความมุ่งมั่นเสียสละเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และเป็นบุคคลที่สังคมให้การยอมรับ ควรเป็นคุณสมบัติสำคัญที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องตระหนก เพื่อผลักดันให้มีตำแหน่งสำคัญทางการเมืองหรือเติบโตในระบบราชการ

แต่คนดีมีอุดมการณ์ถูกคักเลือกเข้ามามีบทบาทในการปฏิรูปประเทศในสัดส่วนที่น้อยมาก ส่วนข้าราชการดีๆ แทบไม่ได้ถูกแต่งตั้งให้ขึ้นมาเป็นใหญ่ในหน่วยงานใดเลย

พล.อ.ประยุทธ์อาจมีข้ออ้าง การแต่งตั้งรัฐมนตรีที่เป็นทหารเกษียณหลายคน เพราะความเป็นพี่เป็นน้อง ความเป็นเพื่อน เห็นฝีมือ รู้พฤติกรรมกันดี

แต่หลายคนที่ได้เป็น สปช. เห็นชัดว่า เข้ามาเพราะเส้นหรือสายสัมพันธ์ทางการเมืองล้วนๆ ไม่มีคุณสมบัติอื่นใดเลย โดยเฉพาะนายชัย ชิดชอบ บิดาของนายเนวิน ชิดชอบ อดีต ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์หลายสมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยหลายกระทรวง

คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่า นายชัยมีคุณสมบัติใด คสช.จึงตัดสินใจคัดเลือกให้มาเป็นหนึ่งใน สปช.ด้านการเมือง เคยแสดงจุดยืนทางการเมืองที่อยู่ข้างประชาชนอย่างเด่นชัดรึก็เปล่า เคยสร้างคุณงามความดีกับสังคมเมื่อไหร่ก็จำไม่ได้ เคยทำประโยชน์ให้ประเทศตรงไหนก็ไม่ปรากฏ

ความรู้ความสามารถไม่เคยเห็นว่ามี หรือ คสช.จะใช้หลักเกณฑ์เลือกผู้สูงวัยไว้ประดับสปช. แต่ผู้สูงวัยที่มีความรู้ความสามารถ และเป็นที่ยอมรับของสังคมก็มีอยู่มากมาย

ทำไมจึงต้องเลือกผู้สูงวัยที่ไม่เคยมีจุดยืนทางการเมืองอย่างนายชัยเข้ามาด้วย

พล.อ.ประยุทธ์เรียกร้องขอกำลังใจในการทำงานแก้ปัญหาของประเทศ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องไม่ทำร้ายกำลังใจของคนอื่นเช่นกัน

คนจำนวนไม่น้อยตั้งความคาดหวังไว้กับพล.อ.ประยุทธ์สูงมาก อยากให้อยู่ยาวๆ สัก 3-4 ปีก็ไม่ว่า ขอให้ปฏิรูปประเทศให้ได้ ขอให้เปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่าก็พอ

แต่เพียง 4 เดือนเศษๆ ความคาดหวังกับพล.อ.ประยุทธ์เริ่มจะลดน้อยถอยลงแล้ว ไม่เฉพาะการแต่งตั้งคนให้เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือแต่งตั้งข้าราชการให้ขึ้นมาเป็นใหญ่คุมหน่วยงานต่างๆเท่านั้น แต่กลัวว่า จะเห็นแก่พวกพ้อง มากกว่าจะเห็นแก่ประชาชนส่วนใหญ่ และมุ่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจเบ็ดเสร็จ สามารถทุบโต๊ะแก้ไขทุกปัญหาได้ทันที แต่หลายปัญหากลับยังแก้ไม่ได้ ลอตเตอรี่ก็ยังขายเกินราคา การทุจริตในหน่วยงานรัฐยังดำเนินต่อไป ข้าราชการไม่ดียังไม่ถูกกำจัด แต่กลับได้รับแต่งตั้งให้ขึ้นมาเป็นใหญ่

นักการเมืองตัวร้ายๆ บ่อนทำลายความสงบสุขของสังคม ได้รับการอภัย ภายใต้นโยบายปรองดอง ไม่มีการตามล่าตามล้าง หรือไล่ดำเนินคดีกับพฤติกรรมความผิดย้อนหลัง

ความรู้สึกกลัวกลับมาหลอกหลอนกันอีกแล้ว กลัวว่าการรัฐประหารของพล.อ.ประยุทธ์จะ “เสียของ”เหมือนกับการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

กลัวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะคิดถึงแต่พวกพ้องน้องพี่ มากกว่าจะคำนึงถึงหัวอกของประชาชนที่รอคอยอัศวินม้าขาวคนใหม่

และกลัวว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจอยู่ได้ไม่ยาวเสียแล้ว ดีไม่ดี 1 ปี อาจจะนานเกินไปเสียด้วยซ้ำ

เพราะกระแสศรัทธาผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และกำลังเข้าสู่โหมดกระแสตก

ถ้ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ต้องเอวัง ก่อนเวลาอันควร คงโทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเองที่ไม่เชื่อมั่นในศรัทธาประชาชน แต่ผูกโยงอำนาจของตัวเองไปกับกลุ่มเพื่อนพ้องน้องพี่และกลุ่มการเมืองบางขั้ว จนแก้ปัญหาอะไรก็ติดขัดไปหมด ลูบหน้าปะจมูกไปหมด

ฉากสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์อาจจบลง โดยไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย เมื่อไม่สามารถปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้น ประชาชนยังมีทุกข์เหมือนเดิม ใครจะปล่อยให้อยู่ยาวๆ ไปหาสวรรค์วิมานทำไม