"ประวิตร" มั่นใจตำรวจคลี่คลายคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษ ผบช.ภ.8 เผยมีคนร้ายรู้เห็นแต่ไม่ลงมือ กำลังหาทางเข้าถึงตัวให้ได้ ด้าน"กอบกาญจน์" ดันตั้งศูนย์ตำรวจท่องเที่ยว ติดกล้องวงจรปิด จัดระเบียบปาร์ตี้ พร้อมจัดเฮลิคอปเตอร์ให้ 1 ลำใช้กรณีฉุกเฉิน ด้านอดีตมือปราบสกอตแลนด์ วิจารณ์ตร.ไทยผิดพลาด-ล้าหลัง ขณะที่คนไทยทำงามหน้าอีก ลวงสาวเดนมาร์ควัย 23 ปีขยี้กามในไร่มัน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนที่ จ.ภูเก็ต พบศพสาวถูกฆ่าเปลือยทิ้งทะเล ยังไม่รู้ต่างชาติหรือหญิงไทย
จากเหตุคนร้ายลงมือฆ่าโหด นายเดวิด วิลเลี่ยม และ น.ส.ฮันนาห์ วิคทอเรีย นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อายุ 24 ปี ทั้งสองคน บริเวณชายหาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 15 ก.ย. ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจภูธรภาค 8 ได้ร่วมกับสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่องนั้น
เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (29 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ว่า ตำรวจทำคดีอย่างเต็มที่ พยายามหาพยานหลักฐานทุกอย่าง ทุกคนเหนื่อยมาก เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงตำรวจและชื่อเสียงของประเทศ ตนพอใจการทำงานของตำรวจ แต่บอกไม่ได้ว่าตอนนี้ใกล้หรือไกล ที่จะได้ตัวคนร้าย และไม่ได้สั่งการอะไรเพิ่มเติม เพราะตำรวจมีความรู้ และเชี่ยวชาญกว่าตนเยอะ ซึ่งต้องขอบคุณตำรวจโดยเฉพาะชั้นผู้น้อยที่ทำงานอย่างหนัก ส่วนสื่อก็อย่าเร่งรัดว่าจะมีข่าวดีเมื่อไร เพราะตำรวจทำเต็มที่แล้ว
ด้านพล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ. 8 กล่าวว่า ขณะนี้เราไปตามแนวทางนิติวิทยาศาสตร์ วัตถุพยาน เชื่อว่ามาถูกทางแล้ว เพียงแต่ขณะนี้ถ้าคนร้ายฟังภาษาไทยรู้เรื่อง เชื่อว่าตัวเขาเองก็รู้แล้ว โดยจากสภาพที่เกิดเหตุเชื่อว่าคนร้ายมีมากกว่า 2 คน บางคนลงมือ บางส่วนไม่ได้ลงมือ ซึ่งคนที่ไม่ลงมือแล้วคิดกลับใจ ญาติพี่น้องมาหาตำรวจก็จะทำให้โทษน้อยลง ซึ่งเรากำลังหาวิธีที่จะเข้าถึงบุคคลเหล่านี้อยู่
พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวว่า การตรวจดีเอ็นเอในขณะนี้ ไม่ใช่การเหวี่ยงแห แต่หากพบจุดน่าสงสัยก็จำเป็นต้องเก็บหลักฐานให้รอบด้าน แต่ไม่ใช่สิ่งชี้ขาดถึงตัวคนร้าย เพราะต้องนำไปประกอบกับหลักฐานอื่นด้วย เชื่อว่าหลักฐานที่มีขณะนี้สามารถพิสูจน์ตัวคนร้ายได้
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นักท่องเที่ยวไม่กังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ต้องการให้มีตำรวจเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มกำลังตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ และตำรวจท้องที่ประจำจุด ตลอดจนฝีกอบรมอาสาสมัคร ซึ่งเป็นคนท้องถิ่นเพิ่มอีก 50 คน เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้จะตั้งศูนย์ตำรวจท่องเที่ยวบนเกาะเต่า พร้อมโครงการพานักท่องเที่ยวกลับที่พักด้วยความปลอดภัย ติดตั้งกล้องวงจรปิด จัดทำคู่มือนักท่องเที่ยว และขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จัดระเบียบปาร์ตี้บนเกาะเต่า หากดำเนินการสำเร็จ จะเป็นโมเดลสำหรับเกาะอื่นต่อไป
พร้อมกันนี้จะจัดเฮลิคอปเตอร์ไว้ใช้ดูแลนักท่องเที่ยวกรณีฉุกเฉิน ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี 1 ลำ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า 1 ลำ
ซัดตำรวจไทยยังล้าหลัง
ด้านนายโจ แจ็คสัน อดีตผู้กํากับการตํารวจ แผนกอาชญากรรมรุนแรง เมืองสแตรธไคลด์ ประเทศสกอตแลนด์ ที่ผ่านการทำคดีฆาตกรรมมาอย่างโชกโชน ผู้แต่งหนังสือ Chasing Killers: Three Decades of Cracking Crime in the UK's Murder Capital และเป็นส่วนหนึ่งของการคลี่คลายคดี "ไบเบิล จอห์น" ฆาตกรรมต่อเนื่องเขย่าขวัญระดับตำนานที่ยังปิดคดีไม่ได้ในยุค 60 จากการที่หญิงสาว 3 คน ถูกสังหารในกลาสโกว์ วิจารณ์การทำงานของตำรวจไทย ผ่านซันเดย์โพสต์ สื่ออังกฤษ ว่าแนวทางการสืบสวนของตำรวจไทยมีความผิดพลาดเกือบทุกจุด และวิธีการทำงานดูเหมือนจะล้าหลังกว่าสกอตแลนด์ไปเกือบ 20 ปี การที่ตำรวจไทยใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เป็นเหมือนไพ่ใบสุดท้ายที่อยู่ในมือ ซึ่งจะทำให้มีปัญหา หากจับใครสักคนได้ในที่สุด
ด้านพ.ต.ท.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้านต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวันที่ 28 กันยายน ว่าตัวอย่างดีเอ็นเอหลายร้อยตัวอย่างได้ถูกเก็บรวบรวมไว้ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการเวลาที่จะสืบสวนคดีนี้ซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อต่างชาติให้สมบูรณ์ แม้ยังไม่รู้ตัวคนร้าย แต่การสอบสวนใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ตำรวจเข้าใจดีว่าสังคมต้องการคำตอบ จึงใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มีสอบสวนคดี แต่ต้องขอเวลาให้ทีมสอบสวนทำงานได้อย่างรัดกุมเพื่อจับกุมคนร้ายให้ได้
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทีมสืบสวนสอบสวนในพื้นที่ รวมทั้งที่ได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลางกำลังเร่งคลี่คลายคดี โดยพล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 จะชี้แจงให้ประชาชนทราบเป็นระยะ ซึ่งขอิยืนยันว่าทุกหน่วยทำงานกันอย่างเต็มที่และจะทำให้ดีที่สุด แต่คงไม่สามารถวางกรอบเวลาได้ เพราะต้องให้เวลาในการสืบสวนสอบสวน ส่วนผลดีเอ็นเอล่าสุด ยังไม่ได้รับรายงานว่าตรงกับดีเอ็นเอที่พบที่ศพหรือไม่ ส่วนตัวคนร้ายก็ยังไม่ชัดเจนว่าอยู่ในพื้นที่หรือออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
ลวงสาวเดนมาร์กข่มขืนในไร่มัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่คดีสังหาร 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ยังไม่สามารถคลี่คลายได้ ก็เกิดเหตุคนร้ายล่อลวงนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย ไปข่มขืนถึงที่ห้องพักของตนเองที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้วนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 27 ก.ย. เช่นกัน ก็เกิดเหตุคนร้ายอายุประมาณ 25-30 ปี ล่อลวงนักท่องเที่ยวสาวชาวเดนมาร์ก อายุ 23 ปี ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ข่มขืนในไร่มันสำปะหลัง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ เมื่อเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน โดยญาติตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ผู้เสียหายมีญาติทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยา เดินทางมาพักผ่อนในประเทศไทยหลายครั้ง ครั้งนี้เดินทางมาไม่ถึงเดือน และเดินทางไปดูที่ดินที่ อ.บางละมุง จนมาพบคนร้ายที่หลอกลวงว่าเป็นคนขับแท็กซี่พัทยาจนผู้เสียหายหลงเชื่อ ถูกลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งจากการตรวจที่เกิดเหตุพบหลักฐานเป็นเส้นผม และเสื้อผ้าของคนร้าย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้สเก็ตซ์ภาพคนร้ายตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูล พร้อมออกเร่งไล่ล่ามาดำเนินคดีแล้ว
ฆ่าเปลือยทิ้งศพลงทะเล
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต เวลา 07.00 น.วานนี้ (29 ก.ย.) ร.ต.อ.จิรศักดิ์ สังข์วิสุทธิ์ พนักงานสอบสวนสภ.เชิงทะเล อ.ถลาง รับแจ้งพบศพเกยชายหาดสุรินทร์ จึงไปตรวจสอบบริเวณริมหาดสุรินทร์ หมู่ 3 ต.เชิงทะเล พบศพหญิงสาวสภาพเปลือยกายเน่าเปื่อย ศีรษะเหลือแต่หัวกะโหลก เนื้อเหลือช่วงเอวถึงขา มือ 2 ข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือก ห่างจากศพ 10 เมตร พบกรามล่าง และกระดูกซี่โครง 1 ซี่ โดยผู้เสียชีวิตน่าจะมีอายุ 25-40 ปี เสียชีวิตนานกว่า 7 วัน เบื้องต้นนำศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลถลาง เพื่อส่งต่อยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ตรวจสอบหาสาเหตุการตาย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ศพหญิงสาวผิวขาว ขาเรียว ไม่ทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ สาวไทย อวัยวะเพศและหน้าอกหายไป คาดว่าถูกคนร้ายฆ่า และนำมาทิ้งทะเล เพื่ออำพรางคดี แต่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาด
จากเหตุคนร้ายลงมือฆ่าโหด นายเดวิด วิลเลี่ยม และ น.ส.ฮันนาห์ วิคทอเรีย นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อายุ 24 ปี ทั้งสองคน บริเวณชายหาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 15 ก.ย. ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจภูธรภาค 8 ได้ร่วมกับสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่องนั้น
เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (29 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ว่า ตำรวจทำคดีอย่างเต็มที่ พยายามหาพยานหลักฐานทุกอย่าง ทุกคนเหนื่อยมาก เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงตำรวจและชื่อเสียงของประเทศ ตนพอใจการทำงานของตำรวจ แต่บอกไม่ได้ว่าตอนนี้ใกล้หรือไกล ที่จะได้ตัวคนร้าย และไม่ได้สั่งการอะไรเพิ่มเติม เพราะตำรวจมีความรู้ และเชี่ยวชาญกว่าตนเยอะ ซึ่งต้องขอบคุณตำรวจโดยเฉพาะชั้นผู้น้อยที่ทำงานอย่างหนัก ส่วนสื่อก็อย่าเร่งรัดว่าจะมีข่าวดีเมื่อไร เพราะตำรวจทำเต็มที่แล้ว
ด้านพล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ. 8 กล่าวว่า ขณะนี้เราไปตามแนวทางนิติวิทยาศาสตร์ วัตถุพยาน เชื่อว่ามาถูกทางแล้ว เพียงแต่ขณะนี้ถ้าคนร้ายฟังภาษาไทยรู้เรื่อง เชื่อว่าตัวเขาเองก็รู้แล้ว โดยจากสภาพที่เกิดเหตุเชื่อว่าคนร้ายมีมากกว่า 2 คน บางคนลงมือ บางส่วนไม่ได้ลงมือ ซึ่งคนที่ไม่ลงมือแล้วคิดกลับใจ ญาติพี่น้องมาหาตำรวจก็จะทำให้โทษน้อยลง ซึ่งเรากำลังหาวิธีที่จะเข้าถึงบุคคลเหล่านี้อยู่
พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวว่า การตรวจดีเอ็นเอในขณะนี้ ไม่ใช่การเหวี่ยงแห แต่หากพบจุดน่าสงสัยก็จำเป็นต้องเก็บหลักฐานให้รอบด้าน แต่ไม่ใช่สิ่งชี้ขาดถึงตัวคนร้าย เพราะต้องนำไปประกอบกับหลักฐานอื่นด้วย เชื่อว่าหลักฐานที่มีขณะนี้สามารถพิสูจน์ตัวคนร้ายได้
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นักท่องเที่ยวไม่กังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ต้องการให้มีตำรวจเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มกำลังตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ และตำรวจท้องที่ประจำจุด ตลอดจนฝีกอบรมอาสาสมัคร ซึ่งเป็นคนท้องถิ่นเพิ่มอีก 50 คน เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้จะตั้งศูนย์ตำรวจท่องเที่ยวบนเกาะเต่า พร้อมโครงการพานักท่องเที่ยวกลับที่พักด้วยความปลอดภัย ติดตั้งกล้องวงจรปิด จัดทำคู่มือนักท่องเที่ยว และขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จัดระเบียบปาร์ตี้บนเกาะเต่า หากดำเนินการสำเร็จ จะเป็นโมเดลสำหรับเกาะอื่นต่อไป
พร้อมกันนี้จะจัดเฮลิคอปเตอร์ไว้ใช้ดูแลนักท่องเที่ยวกรณีฉุกเฉิน ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี 1 ลำ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า 1 ลำ
ซัดตำรวจไทยยังล้าหลัง
ด้านนายโจ แจ็คสัน อดีตผู้กํากับการตํารวจ แผนกอาชญากรรมรุนแรง เมืองสแตรธไคลด์ ประเทศสกอตแลนด์ ที่ผ่านการทำคดีฆาตกรรมมาอย่างโชกโชน ผู้แต่งหนังสือ Chasing Killers: Three Decades of Cracking Crime in the UK's Murder Capital และเป็นส่วนหนึ่งของการคลี่คลายคดี "ไบเบิล จอห์น" ฆาตกรรมต่อเนื่องเขย่าขวัญระดับตำนานที่ยังปิดคดีไม่ได้ในยุค 60 จากการที่หญิงสาว 3 คน ถูกสังหารในกลาสโกว์ วิจารณ์การทำงานของตำรวจไทย ผ่านซันเดย์โพสต์ สื่ออังกฤษ ว่าแนวทางการสืบสวนของตำรวจไทยมีความผิดพลาดเกือบทุกจุด และวิธีการทำงานดูเหมือนจะล้าหลังกว่าสกอตแลนด์ไปเกือบ 20 ปี การที่ตำรวจไทยใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เป็นเหมือนไพ่ใบสุดท้ายที่อยู่ในมือ ซึ่งจะทำให้มีปัญหา หากจับใครสักคนได้ในที่สุด
ด้านพ.ต.ท.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้านต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวันที่ 28 กันยายน ว่าตัวอย่างดีเอ็นเอหลายร้อยตัวอย่างได้ถูกเก็บรวบรวมไว้ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการเวลาที่จะสืบสวนคดีนี้ซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อต่างชาติให้สมบูรณ์ แม้ยังไม่รู้ตัวคนร้าย แต่การสอบสวนใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ตำรวจเข้าใจดีว่าสังคมต้องการคำตอบ จึงใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มีสอบสวนคดี แต่ต้องขอเวลาให้ทีมสอบสวนทำงานได้อย่างรัดกุมเพื่อจับกุมคนร้ายให้ได้
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทีมสืบสวนสอบสวนในพื้นที่ รวมทั้งที่ได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลางกำลังเร่งคลี่คลายคดี โดยพล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 จะชี้แจงให้ประชาชนทราบเป็นระยะ ซึ่งขอิยืนยันว่าทุกหน่วยทำงานกันอย่างเต็มที่และจะทำให้ดีที่สุด แต่คงไม่สามารถวางกรอบเวลาได้ เพราะต้องให้เวลาในการสืบสวนสอบสวน ส่วนผลดีเอ็นเอล่าสุด ยังไม่ได้รับรายงานว่าตรงกับดีเอ็นเอที่พบที่ศพหรือไม่ ส่วนตัวคนร้ายก็ยังไม่ชัดเจนว่าอยู่ในพื้นที่หรือออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
ลวงสาวเดนมาร์กข่มขืนในไร่มัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่คดีสังหาร 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ยังไม่สามารถคลี่คลายได้ ก็เกิดเหตุคนร้ายล่อลวงนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย ไปข่มขืนถึงที่ห้องพักของตนเองที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้วนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 27 ก.ย. เช่นกัน ก็เกิดเหตุคนร้ายอายุประมาณ 25-30 ปี ล่อลวงนักท่องเที่ยวสาวชาวเดนมาร์ก อายุ 23 ปี ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ข่มขืนในไร่มันสำปะหลัง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ เมื่อเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน โดยญาติตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ผู้เสียหายมีญาติทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยา เดินทางมาพักผ่อนในประเทศไทยหลายครั้ง ครั้งนี้เดินทางมาไม่ถึงเดือน และเดินทางไปดูที่ดินที่ อ.บางละมุง จนมาพบคนร้ายที่หลอกลวงว่าเป็นคนขับแท็กซี่พัทยาจนผู้เสียหายหลงเชื่อ ถูกลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งจากการตรวจที่เกิดเหตุพบหลักฐานเป็นเส้นผม และเสื้อผ้าของคนร้าย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้สเก็ตซ์ภาพคนร้ายตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูล พร้อมออกเร่งไล่ล่ามาดำเนินคดีแล้ว
ฆ่าเปลือยทิ้งศพลงทะเล
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต เวลา 07.00 น.วานนี้ (29 ก.ย.) ร.ต.อ.จิรศักดิ์ สังข์วิสุทธิ์ พนักงานสอบสวนสภ.เชิงทะเล อ.ถลาง รับแจ้งพบศพเกยชายหาดสุรินทร์ จึงไปตรวจสอบบริเวณริมหาดสุรินทร์ หมู่ 3 ต.เชิงทะเล พบศพหญิงสาวสภาพเปลือยกายเน่าเปื่อย ศีรษะเหลือแต่หัวกะโหลก เนื้อเหลือช่วงเอวถึงขา มือ 2 ข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือก ห่างจากศพ 10 เมตร พบกรามล่าง และกระดูกซี่โครง 1 ซี่ โดยผู้เสียชีวิตน่าจะมีอายุ 25-40 ปี เสียชีวิตนานกว่า 7 วัน เบื้องต้นนำศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลถลาง เพื่อส่งต่อยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ตรวจสอบหาสาเหตุการตาย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ศพหญิงสาวผิวขาว ขาเรียว ไม่ทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ สาวไทย อวัยวะเพศและหน้าอกหายไป คาดว่าถูกคนร้ายฆ่า และนำมาทิ้งทะเล เพื่ออำพรางคดี แต่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาด