xs
xsm
sm
md
lg

“อดีตมือปราบสกอต” วิจารณ์ตร.ไทยคดีฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า “ผิดพลาดมากอย่างเหลือเชื่อ - ล้าหลังไป 20 ปี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<i>(ซ้ายบนสุด)โจ แจ็คสัน (Joe Jackson)อดีตผู้กํากับการตํารวจแผนกอาชญากรรมรุนแรงที่สแตรธไคลด์ สกอตแลนด์ และได้ทำคดีฆาตกรรมมาร่วม 150 คดี รวมไปถึงเป็นผู้แต่งหนังสือ Chasing Killers: Three Decades of Cracking Crime in the UKs Murder Capital และเป็นส่วนหนึ่งของการไล่ล่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเขย่าขวัญระดับตำนานที่ยังปิดไม่ได้ที่เกิดขึ้นในยุค 60 “ไบเบิล จอห์น”  จากการที่หญิง 3 คนถูกสังหารในกลาสโกว์ สกอตแลนด์ในช่วงปลายยุค 60 </i>
เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ตำรวจไทยที่ในขณะนี้ทำการสืบสวนคดีสังหารฮันนาห์ วิเทอริดจ์วัย 23 ปี และเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี ยอมรับกับรอยเตอร์เมื่อวานนี้(28)ว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่คืบหน้าถึงขั้นสามารถจับกุมคนร้ายผู้อยู่เบื้องหลังท่ามกลางความกดดันจากสังคมไทย และสื่อต่างชาติ ที่ยังไม่เห็นความคืบหน้าของคดีนี้ ในขณะนี้โจ แจ็คสัน (Joe Jackson) อดีตตำรวจระดับสูงจากสกอตแลนด์ผ่านการทำคดีมาตกรรมมาอย่างโชกโชน วิจารณ์การทำงานของตำรวจไทยผ่านสื่ออังกฤษ ซันเดย์โพสต์ว่า “แนวทางการสืบสวนของตำรวจไทยนั้นเกินความคาดหมาย มีความผิดพลาดเกิดขึ้นเกือบทุกจุดในแนวทางการวิเคราะห์”

สื่ออังกฤษ ซันเดย์โพสต์ รายงานเมื่อวานนี้(28)ว่า โจ แจ็คสัน (Joe Jackson) อดีตตำรวจระดับสูงของสกอตแลนด์ชื่อดังที่ผ่านการทำคดีด้านฆาตกรรมมาอย่างโชกโชนให้สัมภาษณ์ถึงคดีสังหารนักท่องเที่ยวอังกฤษ 2 คนบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ที่ยังไม่มีความคืบหน้าทั้งที่เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาว่า “แนวทางที่ตำรวจไทยในการสืบสวนนั้นเกินความคาดหมาย มีความผิดพลาดเกิดขึ้นเกือบทุกจุดในแนวทางการวิเคราะห์”

นอกจากนี้แจ็คสันยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “วิธีการทำงานของตำรวจไทยเหมือนจะล้าหลังกว่าเราไปร่วม 20 ปี และนอกจากนี้การที่ตำรวจไทยใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นเสมือนไพ่ใบสุดท้ายที่อยู่ในมือ และไม่ต้องสงสัยว่าจะทำให้ทางพวกเขาต้องมีปัญหาหากสามารถจับใครสักคนขึ้นสู่ศาลได้ในที่สุด”

ทั้งนี้แจ็คสันทำงานในแผนกอาชญากรรมรุนแรงไม่ต่ำกว่า 30ปีที่สกอตแลนด์ และตำแหน่งสุดท้ายของเขาคือ ผู้กํากับการตํารวจแผนกอาชญากรรมรุนแรงที่สแตรธไคลด์ และได้ทำคดีฆาตกรรมมาแล้วถึง150 คดี รวมไปถึงเป็นผู้แต่งหนังสือ Chasing Killers: Three Decades of Cracking Crime in the UK's Murder Capital และยังเป็นส่วนหนึ่งของการไล่ล่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเขย่าขวัญระดับตำนานที่ยังปิดไม่ได้ซึ่งเกิดขึ้นในยุค 60 “คดีไบเบิล จอห์น” จากการที่หญิง 3 คนถูกสังหารในกลาสโกว์ช่วงปลายยุค 60

โดยสื่ออังกฤษรายงานถึงกระแสความโกรธเกรี้ยวไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลังพบว่ารูปหลักฐานทางคดีที่ทางเจ้าหน้าที่เป็นผู้ถ่ายในที่เกิดเหตุจำนวน 5 รูปถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์

ด้านไทย พ.ต.ท. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวานนี้(28)ว่า “ตัวอย่างดีเอ็นเอหลายร้อยตัวอย่าง” ได้ถูกเก็บรวบรวม

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการเวลาเพื่อจะทำการสืบสวนในคดีนี้ซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อต่างชาติให้เสร็จสมบูรณ์ ถึงแม้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่รู้ตัวคนร้ายที่จะนำไปสู่การจับกุม แต่การสอบสวนใกล้เสร็จสิ้นแล้ว”

และพ.ต.ท. กฤษณะ กล่าวต่อไปว่า “ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนพุ่งเป้าไปที่รายชื่อของผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มคนร้าย และตัวอย่างดีเอ็นเอจำนวนหลายร้อยตัวอย่างจากประชาชนบนเกาะเต่าได้ถูกเก็บเพื่อตรวจสอบ”

นอกจากนี้รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดตำรวจไทยตั้งรางวัลนำจับ 700,000 บาท หรือ 21,650 ปอนด์ เพื่อหาเบาะแสคนร้ายที่จะนำไปสู่การจับกุม

ทั้งนี้ผลการชันสูตรศพพบว่า เดวิด มิลเลอร์เสียชีวิตจากการจมน้ำ และถูกของแข็งกระทบศีรษะ รวมถึงมีบาดแผลที่บริเวณหลังฝ่ามือทั้งสองข้าง เชื่อว่าเกิดจากการต่อสู้รวมถึงมีน้ำในปอด คาดว่าอาจถูกทำร้ายและลากลงน้ำก่อนเสียชีวิต และยังถูกของแข็งทุบบริเวณใบหน้าและศีรษะของผู้ตาย ในขณะที่ฮันนาห์ วิเทอริดจ์เสียชีวิตจากบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งบริเวณศรีษะ

ในวันศุกร์(26)ที่ผ่านมา ตำรวจไทยแถลงว่า ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากทีมนักฟุตบอลสมัครเล่นที่จัดงานเลี้ยงฉลองที่เอซีบาร์ในคืนวันที่นักท่องเที่ยวอังกฤษทั้ง 2 เข้าใช้บริการที่บาร์แห่งนี้ในเวลาเดียวกัน

และสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ตำรวจยังเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากคนงานพม่า ซึ่งหลังจากนั้นพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีสังหารโหดนี้เหมือนอย่างที่ถูกตำรวจไทยตั้งข้อสงสัยเมื่อครั้งเริ่มต้นการสอบสวน

ตำรวจไทยต่างตกอยู่ในความกดดันอย่างหนักในการควานหาตัวคนร้ายเพื่อปิดคดีท่ามกลางการจับตาของคนทั้งชาติ และสื่อโลกตะวันตก ซึ่งมีบางส่วนวิพากษ์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปิดล้อมจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็วพอ และส่งผลทำให้คนร้ายสามารถหลบหนีออกนอกเกาะเต่าไปได้

แต่พ.ต.ท. กฤษณะกล่าวโต้ว่า “ทางตำรวจเข้าใจว่าสังคมต้องการคำตอบในเรื่องนี้ ทางเราได้ใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มีทุ่มกำลังเพื่อการสอบสวนคดีฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า แต่ในขณะนี้ทางตำรวจขอเวลาและความเข้าใจเพื่อที่จะให้ทีมสอบสวนสามารถสืบสวนได้อย่างรัดกุมเพื่อจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วในที่สุด”

ซันเดย์โพสต์รายงานว่า ในการทำคดีสังหารนักท่องเที่ยวอังกฤษ มีตำรวจราว 150 นายถูกส่งให้มาทำคดีนี้ที่เกาะเต่า และล่าสุดมีการสนธิกำลังกับทหารจากกองทัพเพื่อล่าตัวหาคนร้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น