xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” จี้คดีฆาตกรรมแหม่มเกาะเต่า เชื่อมือ ตร.ไทย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“ประวิตร” ติดตามความคืบหน้าคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษ ที่เกาะเต่า มั่นใจการทำงานตำรวจ ด้านผบช.ภ.8 เผยคนร้ายมีจำนวนหนึ่งทั้งรู้เห็นและลงมือก่อเหตุ ยืนยันไม่มีมาเฟียในพื้นที่ ตำรวจดูแลได้หมด เชื่อแนวทางการสืบสวนเดินมาถูกทางแล้ว ชี้ดีเอ็นเอไม่ใช่คำตอบสุดท้าย


วันนี้ (29 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิต 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า โดยมี พล.ต.อ.วัชรพล ประสาราชกิจ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รรท.ผบก.สส.บช.น. และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

พล.อ.ประวิตร กล่าวภายหลังการประชุมว่า ตำรวจทำคดีอย่างเต็มที่ พยายามติดตามหาพยานหลักฐานอะไรทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกคนเหนื่อยมากทำงานอย่างเต็มที่ไม่ให้เสียชื่อเสียงตำรวจและชื่อเสียงของประเทศไม่ต้องเป็นห่วง พอใจการทำงานของตำรวจ ตำรวจทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ วันนี้ตนเองก็ได้ซักถามถึงความคืบหน้าต่างๆ ตำรวจก็พยายามอธิบาย แต่บอกไม่ได้ว่าตอนนี้ใกล้หรือไกลที่จะได้ตัวคนร้าย ทั้งนี้ ตนเองมั่นใจในตำรวจ แต่มั่นใจหรือไม่มั่นใจว่าจะจับคนร้ายได้หรือไม่เป็นเรื่องทางคดี ตนเองไม่ได้สั่งการอะไรเพิ่มเติม ตำรวจมีความรู้เชี่ยวชาญกว่าตนเองเยอะ และยืนยันว่าไม่มีมาเฟียในพื้นที่ตำรวจสามารถดูแลได้หมด ตอนนี้คิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้ตัวคนร้ายตามที่ตำรวจคาดหวัง

“อยากฝากสื่อมวลชนช่วยดูเรื่องข่าวต่างๆ เราทำเต็มที่แล้ว ว่าที่ผบ.ตร.ก็ได้ส่งคนลงพื้นที่เป็นจำนวนมากทุกคนทุ่มเทไม่มีใครอยู่เฉย ตนเองก็ร้อนใจ ต้องขอบคุณตำรวจโดยเฉพาะชั้นผู้น้อยที่ทำงานกันอย่างหนัก อย่าเร่งรัดว่าจะมีข่าวดีเมื่อไหร่ตำรวจทำอย่างเต็มที่แล้ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า เราพยายามว่าจะเจอคนร้ายแต่ยังไม่เจอ เท่าที่ทำมาเมื่อมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปเราก็ทำการตรวจสอบ เมื่อไม่ใช่ก็ตัดไปและไปตรวจสอบจุดอื่นต่อ ตอนนี้เราพยายามสืบสวนจากกล้องวงจรปิด 200 กว่าตัวซึ่งดูไปบางส่วนแล้ว บางส่วนที่ใกล้ที่เกิดเหตุเราก็ดูกว่าใครเข้าที่เกิดเหตุได้ช่วงเวลา 02.00 - 04.00 น. เราก็เอาบุคคลเหล่านั้นมาพิสูจน์ทราบหรือคนบางกลุ่มที่มีเบาะแสในพื้นที่ เช่น เคยทำงานแล้วหายไปแบบมีพิรุธ สิ่งเหล่านี้เราก็ได้ตรวจสอบพอสมควรแล้วแต่ยังไม่เจอคนที่ลงมือก่อเหตุ ถ้าเจอตัวเรามีพยาน มีวัตถุพยาน ที่สามารถเชื่อมโยงถึงตัวคนร้ายอยู่ ตอนนี้เรายังไม่ถึงตัวทั้งหมดทิศทางที่เราทำงาน ขณะนี้เชื่อว่าเราไปตามแนวทางนิติวิทยาศาสตร์ วัตถุพยานต่างๆ เราเชื่อว่าเรามาถูกทางแล้ว เพียงแต่ว่าขณะนี้คนร้ายถ้าฟังภาษาไทยรู้เรื่องเชื่อว่าตัวเขาเองรู้แล้ว จากสภาพทีเกิดเหตุเชื่อว่าคนร้ายมีจำนวนหนึ่งแน่นอนว่ามากกว่า 2 คน บางส่วนลงมือ บางส่วนไม่ได้ลงมือ คนไม่ลงมือแล้วคิดกลับใจพวกเราหรือญาติพี่น้องอยากเขามาหาตำรวจก็จะทำให้โทษน้อยลง เชื่อว่ามีคนที่รู้เห็นในเหตุการณ์เรากำลังหาวิธีที่จะเข้าถึงบุคคลเหล่านี้อยู่

พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวอีกว่า ตอนนี้เรากำลังดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดที่อยู่รอบจุดเกิดเหตุบ้านเรือนอาคาร 47 แห่ง ตราวจสอบคนที่ทำงานในนั้น เข้าออกได้ ไปจำนวนหนึ่งได้เบาะแสจำนวนหนึ่งหลังจากตี 1 แล้วบุคคลจำนวนนี้ยังตื่นอยู่ กำลังติดต่อกับบุคคลเหล่านี้ว่าเห็นอะไรบ้างอย่างไร ขอร้องว่าตำรวจก็ทำเต็มที่ประชาชนก็ให้กำลังใจ เราพยายามจนถึงที่จุดทุกหน่วยมาช่วยกันเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องประเทศชาติ นอกจากนี้ เรายังตั้งทีมทำงานติดตามโซเชียลมีเดียร์เพราะสิ่งเหล่านี้มากดดันการทำงานของเราก็ต้องทำความข้าใจ ถ้าเราไม่ฟังเลยก็ไม่ได้ ซึ่งกระแสในเฟชบุคโซเชียลเขาก็รู้ส่วนหนึ่ง เราก็รู้ส่วนหนึ่งเราก็ต้องตรวจสอบ ซึ่งพยานต่างๆที่เข้าไปอยู่สำนวนการสอบสวนจะต้องรู้เห็นเหตุการณ์จริงๆบางส่วนให้เบาะแสแต่ คนละวัน ลางสังหรณ์ของตนเองเชื่อว่าจะมีข่าวดี ส่วนดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยที่เพิ่งส่งมาตรวจยังไม่ทราบผลว่าตรงหรือไม่

ขณะที่ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) กล่าวว่า การตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยของตำรวจในขณะนี้ ไม่ใช่การเหวี่ยงแห แต่หากพบมีจุดน่าสงสัย ก็จำเป็นจะต้องเก็บหลักฐานให้รอบด้าน ซึ่งดีเอ็นเอ เป็นเพียงหลักฐานส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่สิ่งชี้ขาดถึงตัวคนร้าย เพราะต้องนำไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ด้วย และเชื่อว่าหลักฐานที่มีขณะนี้ จะสามารถพิสูจน์ตัวคนร้ายได้
กำลังโหลดความคิดเห็น