xs
xsm
sm
md
lg

แอร์พอร์ตลิ้งค์ไม่ปลื้ม ชงประจินแยกทางรฟท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน-แอร์พอร์ตลิ้งค์ เตรียมชง”ประจิน”ขอแยกอำนาจบริหาร ทรัพย์สิน หนี้สิน ออกจาก ร.ฟ.ท. แก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ เผยร.ฟ.ท.รวบอำนาจทำจัดซื้อจัดจ้างล่าช้ากระทบการเดินรถ ระบุร.ฟ.ท.ยังคงถือหุ้น 100% “ธวัชชัย”เผยหารือ “สร้อยทิพย์-ออมสิน”แล้วเห็นด้วย แถมปิ๊งไอเดีย ขอเปลี่ยนซื้อรถใหม่ 7 ขบวนเป็นเช่าแทน ชี้ให้เอกชนลงทุนลดภาระภาครัฐกว่า 4.8 พันล.
แถมคุมห้ามรถเสียได้ด้วย
พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัดผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดแอร์พอร์ตลิ้งค์เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีมติที่จะเสนอขอแยกการบริหารงานและการจัดเก็บรายได้ของบริษัท ออกจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดยร.ฟ.ท.ยังคงถือหุ้น 100 % โดยขออำนาจในเรื่องงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง บุคลากร เพื่อทำให้แอร์พอร์ตลิ้งค์มีความคล่องตัวในการบริหารงาน การจัดซื้อจัดจ้างไม่ล่าช้าและเกิดปัญหากระทบต่อการเดินรถเหมือนในปัจจุบัน โดยหากมีกำไรจะนำส่งร.ฟ.ท.ตามปกติ แต่หากขาดทุน แอร์พอร์ตลิ้งค์ต้องรับผิอชอบเอง
โดยเรื่องนี้ได้หารือร่วมกับนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ดร.ฟ.ท. และนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งเห็นด้วย ดังนั้นในขณะนี้จึงเร่งทำแผนเพื่อนำเสนอตามขั้นตอน คือ บอร์ดร.ฟ.ท. หากเห็นชอบจะเสนอไปยัง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป
“ตอนนี้ พยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยมอบอำนาจให้แอร์พอร์ตลิ้งค์จัดซื้ออะไหล่เร่งด่วนได้เลย ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จและในอนาคตจะเกิดปัญหาซ้ำแบบเดิมอีก ดังนั้น หากแยกอำนาจการบริหารให้ชัดเจนจะเป็นผลดีต่อแอร์พอร์ตลิ้งค์ในระยะยาวมากกว่า”พล.อ.ธวัชชัยกล่าว
นอกจากนี้ บอร์ดได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาการให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งยืนยันว่า จะไม่มีการหยุดเดินรถ โดยการซ่อมบำรุงบางส่วน (Partial Overhaul) ระหว่างรอการซ่อมบำรุงใหญ่ ( Overhaul) สามารถดำเนินการได้ตามแผนและมีรถสำหรับวิ่งให้บริการ 4 ขบวนและเพิ่มอีก 2 ขบวนในชั่วโมงเร่งด่วนรวมเป็น 6 ขบวน
พล.อ.ธวัชชัยกล่าวว่า แนวทางในการบริหารแอร์พอร์ตลิ้งค์หลังจากนี้ เห็นว่างานส่วนใหญ่รวมถึงการเดินรถควรจะจ้างแรงงานภายนอก (Outsource) เข้ามาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ เช่น การจัดซื้อรถไฟฟ้าใหม่ 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ วงเงินรวม 4,855 ล้านบาท ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น อาจจะต้องเสนอกลับไปที่ร.ฟ.ท.ใหม่เพื่อขอปรับเปลี่ยนวิธีจากซื้อเป็นเช่าแทนเพื่อลดภาระ
โดยสามารถให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนจัดหาขบวนรถเข้ามาวิ่งให้บริการพร้อมรับผิดชอบค่าบำรุงรักษา ภายใต้สัญญาเช่าใช้รางที่รัฐเป็นเจ้าของ และหากไม่สามารถให้บริการเดินรถได้ตามสัญญาก็จะต้องถูกปรับ ซึ่งนอกจากประหยัดงบประมาณได้กว่า 4,800 ล้านบาทแล้ว ยังมีความมั่นใจในเรื่องการเดินรถด้วย เพราะรัฐเป็นเจ้าของรางและมีสัญญาควบคุมการให้บริการ
นอกจากจากนี้ ยังมีแนวคิดว่าควรให้เอกชนเข้ามาลงทุนก่อสร้างโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยาย ทั้งโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง)- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง (แอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยาย) ระยะทาง 21.8 กม. วงเงิน 3.1 หมื่นล้านบาท และส่วนต่อขยายจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยา ไปถึง ระยอง
แต่คงจะต้องมีการหารือกับร.ฟ.ท.และกระทรวงคมนาคมก่อน โดยเบื้องต้น จะเดินตามแผนเดิมไปก่อน
“ตอนนี้ พยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยมอบอำนาจให้แอร์พอร์ตลิ้งค์จัดซื้ออะไหล่เร่งด่วนได้เลย ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จและในอนาคตจะเกิดปัญหาซ้ำแบบเดิมอีก ดังนั้น หากแยกอำนาจการบริหารให้ชัดเจนจะเป็นผลดีต่อแอร์พอร์ตลิ้งค์ในระยะยาวมากกว่า หลักการง่ายๆ ในการแก้ปัญหาแอร์พอร์ตลิ้งค์คือ ต้องทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการพึงพอใจ และมีความตรงต่อเวลา
ส่วนกำไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ควรมีรายได้ที่พอเพียงกับค่าใช้จ่ายและการลงทุนในด้านการให้บริการ”พล.อ.ธวัชชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เคยศึกษาแผนการแยก ทรัพย์สินและหนี้สินแอร์พอร์ตลิ้งค์ออกจากกัน และทำแผนธุรกิจ (Business Plan) ประมาณการณ์จำนวนผู้โดยสารไว้แล้ว ซึ่งเป็นแผนที่ดี ดังนั้นจะนำผลศึกษาดังกล่าวมาทบทวนปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและวางเป็นแผนอนาคตโดยจะมีแอร์พอร์ตลิ้งค์จะมีโครงข่ายเชื่อม 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง สุวรรรภูมิ และอู่ตะเภา ในขณะที่จะต้องมีการใส่เงินทุนบริษัทที่เหลืออีก 1,860 ล้านบาท ตามมติครม. เข้ามาเพิ่ม ซึ่งเชื่อว่า แอร์พอร์ตลิ้งค์จะเริ่มมีกำไรในปีที่ 5-6 หลังจากเดินตามแผนธุรกิจดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น