ASTVผู้จัดการรายวัน - ขาหุ้นปฏิรูปพลังงานออกแถลงการณ์ หยุดเดินชั่วคราว ลดเผชิญหน้าฝ่ายทหาร เลี่ยงประเด็นปฏิรูปพลังงานถูกบิดเบือน เหตุหมดหวังพึ่ง"คสช.-ประยุทธ์" เปลี่ยนกลยุทธ์ให้การศึกษา-สร้างกระแส-จับมือนักวิชาการจัดเวทีทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ รอประชนตื่นตัวมากพอจะรวมพลเดินทัพเข้ากรุงเทพฯอีก ด้านชาวบ้านเหนือคลอง จ.กระบี่ เซ็งนายอำเภอส่อหนุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ลั่นจากนี้ไปจะปกป้องบ้านตัวเองทุกวิถีทาง เพราะพึ่งพาราชการไม่ได้แล้ว
วานนี้(15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน" ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เรื่อง "ประกาศหยุดการเดินไว้ชั่วคราว ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และยืนยันในเจตจำนงเดิม" สรุปว่าเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน เป็นการรวมตัวของภาคประชาสังคม ที่มีจุดหมายผลักดันการปฏิรูปพลังงานให้ประโยชน์ได้ตกกับคนไทยทั้งชาติ แทนที่จะตกกับกลุ่มทุนและบรรษัทข้ามชาติ โดยเครือข่ายได้เลือกการเดินเท้าจากอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม เพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร
แต่ถูกทางทหารเจรจาและจับกุมถึง 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 20 สิงหาคม ขาหุ้นสงขลา 11 คนถูกจับที่อ.รัตภูมิ ควบคุมตัวที่ค่ายเสนาณรงค์ จ.สงขลา วันที่ 24 สิงหาคม ขาหุ้นกรุงเทพมหานคร 7 คน ถูกจับและควบคุมตัวที่สโมสรกองทัพบก และวันที่ 2 กันยายน ขาหุ้นสุราษฎร์ธานี 8 คน ถูกจับและควบคุมตัวที่ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี รวมทั้ขัดขวางการเดินเท้าด้วยการส่งทหารมาเจรจาแทบทุกวัน โดยเหตุผลประการเดียว คือ รอให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติก่อน แล้วนำเรื่องไปเสนอสภา และการทำเช่นนี้ขัดต่อกฎอัยการศึก
อย่างไรก็ตามตรรกะของฝ่ายทหาร "เป็นเพียงข้ออ้างที่ไร้หลักการ" เพราะเมื่อเดินเกิน 5 คน ก็อ้างว่าขัดกฎอัยการศึก แต่เมื่อขาหุ้นปรับรูปแบบด้วยการเดินไม่เกิน 5 คน ก็ยังถูกจับและขู่ว่าจะจับให้หมด โดยไม่มีข้อกฎหมายอ้างอิง เป็นการใช้อำนาจเถื่อนในนามชายชุดเขียว ที่ไม่มีความชอบธรรมใดๆ นอกจากข่มขู่ด้วยอำนาจปืน แท้จริงแล้วการสกัดดังกล่าวเพื่อทำตามคำสั่งนาย และมีคำสั่งที่เด็ดขาดให้กองทัพภาคที่ 4 สกัดไว้ไม่ให้ข้ามเขตจ.ชุมพร หากสกัดไม่อยู่ทางกองทัพภาคที่ 1 จะสกัดและจับกุมอย่างเด็ดขาดที่จ.ประจวบคีรีขันธ์
ขณะที่ฝ่ายทหารให้รอสภาปฏิรูปแห่งชาติ แต่นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กลับแถลงนโยบายกระทรวงพลังงานในวันที่ 12 กันยายนว่า "สิ่งแรกที่จะดำเนินการให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ คือ การพิจารณาเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และการต่ออายุสัญญาสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุลงในอีก 5-6 ปีข้างหน้าของแหล่งเอราวัณ และบงกชในอ่าวไทย" ซึ่งเป็นการประกาศนโยบายที่ไม่ใส่ใจกับสภาปฏิรูปแห่งชาติ ตรรกะที่ทหารใช้กับขาหุ้นกลับไม่ใช้กับรัฐบาล แสดงว่าเป็นตรรกะเทียม เป็นเพียงการเล่นลิ้น ไร้สัจจะ ไร้หลักการของชายชุดเขียว
ถึงวันนี้ เครือข่ายขาหุ้นได้หารือกันแล้ว และมีข้อสรุปว่า คณะรักษความสงบแห่งชาติ(คสช.) และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่อาจเป็นความหวังในการปฏิรูปพลังงานได้ เพราะมีแนวโน้มที่จะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุน ดังนั้นปัญหาอุปสรรคของการปฏิรูปพลังงาน จึงอยู่ที่ตัวรัฐบาลเอง รวมทั้งคสช.
เครือข่ายขาหุ้นมีความเห็นเอกฉันท์ว่า จะหยุดกิจกรรม "การเดินวันละโยชน์เพื่อประโยชน์ชาติ"ชั่วคราว เพื่อลดการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหาร อันจะทำให้ประเด็นปฏิรูปพลังงานถูกบิดเบือนไป และขอฝากธงอันหมายถึงสัญลักษณ์ของภารกิจการมีส่วนร่วมของประชาชน อย่างไรก็ตามเจตนารมณ์และกิจกรรมของเครือข่ายขาหุ้นยังคงอยู่และหนักแน่นเข้มข้นขึ้น โดยจะเน้นการให้การศึกษากับประชาชน สร้างกระแสในกลุ่มประชาชนทั่วไป ผสานพลังของนักวิชาการในการจัดเวทีขับเคลื่อน รวมทั้งการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ และการให้ข้อมูลกับสังคมผ่านสื่อหลากหลายประเภท
ทั้งนี้ เมื่อความตื่นตัวในการมีส่วนร่วมของประชาชนมีมากพอแล้ว เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจากทั่วทุกสารทิศ จะรวมพลเดินทัพเข้าสู่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง เพื่อทวงคืนอธิปไตยด้านพลังงาน และผลักดันข้อเสนอของเครือข่ายขาหุ้นทั้ง 5 ข้อให้เป็นจริง
วันเดียวกัน ที่อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ชาวบ้านต.ตลิ่งชัน ประมาณ 50 คนเข้าพบนายอำเภอเหนือคลอง เพื่อยืนยันการคัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ซึ่งใช้เรือขนาด10,000 เดทเวทตัน ขนถ่านหินจากประเทศอินโดนีเซีย แต่เส้นทางเดินเรือผ่านพื้นที่ทำประมง และแหล่งอาศัยของพะยูนซึ่งใกล้สูญพันธุ์ ชาวบ้านต.ตลิ่งชัน และตำบลใกล้เคียง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน มีความกังวลเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม ขณะที่บริษัทที่ปรึกษาจัดเวทีประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3 วันที่ 28 กันยายนนี้ โดยที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วมแต่อย่างใด
นอกจากนี้ชาวบ้านได้ข่าวว่าทางอำเภอสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยจัดทำแผนรองรับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบแล้ว แต่นายอำเภอกลับตอบว่ามีเพียงแผนพัฒนาหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงรู้สึกผิดหวังที่วันนี้ไม่สามารถพึ่งพาข้าราชการได้ อีกทั้งยังผลักภาระให้เป็นเรื่องของชาวบ้านกับบริษัทที่ปรึกษา ดังนั้นจากนี้ไปชาวบ้านจะปกป้องบ้านของตัวเองทุกวิถีทาง เพราะไม่สามารถพึ่งพาราชการได้ รวมทั้งคสช.ก็พึ่งพาไม่ได้เช่นกัน
***เครือปตท.จัดกิจกรรมต้านโกง
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์ พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ในฐานะบริษัทฯ ผู้จัดงาน "PTT Group CG Day 2014" กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานว่า งานในครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์และสร้างจิตสำนึกในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบให้กับบุคลากรทุกระดับของกลุ่มปตท. ตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้สามารถตอบสนองประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรมและเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การจัดงาน "PTT Group CG Day 2014" ภายใต้ชื่อ The Power is in your Hands เป็นการตอกย้ำถึงความโปร่งใส ที่จะสามารถต่อต้านการทุจริตในทุกรูปแบบ ทั้งนี้ การกำหนดนโยบายของบริษัทฯ อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอจะต้องได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติอย่างจริงจังทุกภาคส่วนขององค์กร ในการขับเคลื่อนให้ระบบตรวจสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพนักงานในกลุ่ม ปตท. จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดความโปร่งใส
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารระดับสูงจาก 7 บริษัทในกลุ่ม ปตท. กล่าวในการเสวนาหัวข้อ "บทบาทของกลุ่ม ปตท. ในการช่วยสังคมต้านภัยคอร์รัปชัน" ว่า กลุ่ม ปตท. ได้ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน โดยได้นำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของกลุ่มปตท. มาใช้เป็นหลัก เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ด้านการกับกำดูแลกิจการที่ดีผ่านการทำงานร่วมกันในรูปแบบ "คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี กลุ่ม ปตท." ที่จะช่วยสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความเข้าใจและเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม รวมถึงส่งเสริมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง องค์กร สังคม และประเทศชาติต่อไป
วานนี้(15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน" ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เรื่อง "ประกาศหยุดการเดินไว้ชั่วคราว ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และยืนยันในเจตจำนงเดิม" สรุปว่าเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน เป็นการรวมตัวของภาคประชาสังคม ที่มีจุดหมายผลักดันการปฏิรูปพลังงานให้ประโยชน์ได้ตกกับคนไทยทั้งชาติ แทนที่จะตกกับกลุ่มทุนและบรรษัทข้ามชาติ โดยเครือข่ายได้เลือกการเดินเท้าจากอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม เพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร
แต่ถูกทางทหารเจรจาและจับกุมถึง 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 20 สิงหาคม ขาหุ้นสงขลา 11 คนถูกจับที่อ.รัตภูมิ ควบคุมตัวที่ค่ายเสนาณรงค์ จ.สงขลา วันที่ 24 สิงหาคม ขาหุ้นกรุงเทพมหานคร 7 คน ถูกจับและควบคุมตัวที่สโมสรกองทัพบก และวันที่ 2 กันยายน ขาหุ้นสุราษฎร์ธานี 8 คน ถูกจับและควบคุมตัวที่ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี รวมทั้ขัดขวางการเดินเท้าด้วยการส่งทหารมาเจรจาแทบทุกวัน โดยเหตุผลประการเดียว คือ รอให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติก่อน แล้วนำเรื่องไปเสนอสภา และการทำเช่นนี้ขัดต่อกฎอัยการศึก
อย่างไรก็ตามตรรกะของฝ่ายทหาร "เป็นเพียงข้ออ้างที่ไร้หลักการ" เพราะเมื่อเดินเกิน 5 คน ก็อ้างว่าขัดกฎอัยการศึก แต่เมื่อขาหุ้นปรับรูปแบบด้วยการเดินไม่เกิน 5 คน ก็ยังถูกจับและขู่ว่าจะจับให้หมด โดยไม่มีข้อกฎหมายอ้างอิง เป็นการใช้อำนาจเถื่อนในนามชายชุดเขียว ที่ไม่มีความชอบธรรมใดๆ นอกจากข่มขู่ด้วยอำนาจปืน แท้จริงแล้วการสกัดดังกล่าวเพื่อทำตามคำสั่งนาย และมีคำสั่งที่เด็ดขาดให้กองทัพภาคที่ 4 สกัดไว้ไม่ให้ข้ามเขตจ.ชุมพร หากสกัดไม่อยู่ทางกองทัพภาคที่ 1 จะสกัดและจับกุมอย่างเด็ดขาดที่จ.ประจวบคีรีขันธ์
ขณะที่ฝ่ายทหารให้รอสภาปฏิรูปแห่งชาติ แต่นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กลับแถลงนโยบายกระทรวงพลังงานในวันที่ 12 กันยายนว่า "สิ่งแรกที่จะดำเนินการให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ คือ การพิจารณาเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และการต่ออายุสัญญาสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุลงในอีก 5-6 ปีข้างหน้าของแหล่งเอราวัณ และบงกชในอ่าวไทย" ซึ่งเป็นการประกาศนโยบายที่ไม่ใส่ใจกับสภาปฏิรูปแห่งชาติ ตรรกะที่ทหารใช้กับขาหุ้นกลับไม่ใช้กับรัฐบาล แสดงว่าเป็นตรรกะเทียม เป็นเพียงการเล่นลิ้น ไร้สัจจะ ไร้หลักการของชายชุดเขียว
ถึงวันนี้ เครือข่ายขาหุ้นได้หารือกันแล้ว และมีข้อสรุปว่า คณะรักษความสงบแห่งชาติ(คสช.) และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่อาจเป็นความหวังในการปฏิรูปพลังงานได้ เพราะมีแนวโน้มที่จะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุน ดังนั้นปัญหาอุปสรรคของการปฏิรูปพลังงาน จึงอยู่ที่ตัวรัฐบาลเอง รวมทั้งคสช.
เครือข่ายขาหุ้นมีความเห็นเอกฉันท์ว่า จะหยุดกิจกรรม "การเดินวันละโยชน์เพื่อประโยชน์ชาติ"ชั่วคราว เพื่อลดการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหาร อันจะทำให้ประเด็นปฏิรูปพลังงานถูกบิดเบือนไป และขอฝากธงอันหมายถึงสัญลักษณ์ของภารกิจการมีส่วนร่วมของประชาชน อย่างไรก็ตามเจตนารมณ์และกิจกรรมของเครือข่ายขาหุ้นยังคงอยู่และหนักแน่นเข้มข้นขึ้น โดยจะเน้นการให้การศึกษากับประชาชน สร้างกระแสในกลุ่มประชาชนทั่วไป ผสานพลังของนักวิชาการในการจัดเวทีขับเคลื่อน รวมทั้งการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ และการให้ข้อมูลกับสังคมผ่านสื่อหลากหลายประเภท
ทั้งนี้ เมื่อความตื่นตัวในการมีส่วนร่วมของประชาชนมีมากพอแล้ว เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจากทั่วทุกสารทิศ จะรวมพลเดินทัพเข้าสู่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง เพื่อทวงคืนอธิปไตยด้านพลังงาน และผลักดันข้อเสนอของเครือข่ายขาหุ้นทั้ง 5 ข้อให้เป็นจริง
วันเดียวกัน ที่อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ชาวบ้านต.ตลิ่งชัน ประมาณ 50 คนเข้าพบนายอำเภอเหนือคลอง เพื่อยืนยันการคัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ซึ่งใช้เรือขนาด10,000 เดทเวทตัน ขนถ่านหินจากประเทศอินโดนีเซีย แต่เส้นทางเดินเรือผ่านพื้นที่ทำประมง และแหล่งอาศัยของพะยูนซึ่งใกล้สูญพันธุ์ ชาวบ้านต.ตลิ่งชัน และตำบลใกล้เคียง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน มีความกังวลเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม ขณะที่บริษัทที่ปรึกษาจัดเวทีประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3 วันที่ 28 กันยายนนี้ โดยที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วมแต่อย่างใด
นอกจากนี้ชาวบ้านได้ข่าวว่าทางอำเภอสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยจัดทำแผนรองรับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบแล้ว แต่นายอำเภอกลับตอบว่ามีเพียงแผนพัฒนาหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงรู้สึกผิดหวังที่วันนี้ไม่สามารถพึ่งพาข้าราชการได้ อีกทั้งยังผลักภาระให้เป็นเรื่องของชาวบ้านกับบริษัทที่ปรึกษา ดังนั้นจากนี้ไปชาวบ้านจะปกป้องบ้านของตัวเองทุกวิถีทาง เพราะไม่สามารถพึ่งพาราชการได้ รวมทั้งคสช.ก็พึ่งพาไม่ได้เช่นกัน
***เครือปตท.จัดกิจกรรมต้านโกง
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์ พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ในฐานะบริษัทฯ ผู้จัดงาน "PTT Group CG Day 2014" กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานว่า งานในครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์และสร้างจิตสำนึกในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบให้กับบุคลากรทุกระดับของกลุ่มปตท. ตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้สามารถตอบสนองประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรมและเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การจัดงาน "PTT Group CG Day 2014" ภายใต้ชื่อ The Power is in your Hands เป็นการตอกย้ำถึงความโปร่งใส ที่จะสามารถต่อต้านการทุจริตในทุกรูปแบบ ทั้งนี้ การกำหนดนโยบายของบริษัทฯ อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอจะต้องได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติอย่างจริงจังทุกภาคส่วนขององค์กร ในการขับเคลื่อนให้ระบบตรวจสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพนักงานในกลุ่ม ปตท. จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดความโปร่งใส
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารระดับสูงจาก 7 บริษัทในกลุ่ม ปตท. กล่าวในการเสวนาหัวข้อ "บทบาทของกลุ่ม ปตท. ในการช่วยสังคมต้านภัยคอร์รัปชัน" ว่า กลุ่ม ปตท. ได้ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน โดยได้นำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของกลุ่มปตท. มาใช้เป็นหลัก เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ด้านการกับกำดูแลกิจการที่ดีผ่านการทำงานร่วมกันในรูปแบบ "คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี กลุ่ม ปตท." ที่จะช่วยสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความเข้าใจและเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม รวมถึงส่งเสริมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง องค์กร สังคม และประเทศชาติต่อไป