ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ประกาศหยุดการเดินไว้ชั่วคราว พร้อมกับปรับเปลี่ยนกลยุทธ์แต่ยังยืนยันในเจตจำนงเดิม คือ จะเคลื่อนไหวจนกว่าประชาชนจะได้เป็นเจ้าของพลังงานตัวจริง
วันนี้ (15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ได้ออกแถลงการณ์ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ฉบับที่ 3 เรื่อง “ประกาศหยุดการเดินไว้ชั่วคราว ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และยืนยันในเจตจำนงเดิม” โดยระบุว่า เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน เป็นการรวมตัวของภาคประชาสังคมในหลายพื้นที่ที่มีจุดหมายร่วมกันในการสร้างการมีส่วนร่วมในการผลักดันการปฏิรูปพลังงานในอันที่จะทำให้ผลประโยชน์ได้ตกแก่พี่น้องคนไทยทั้งชาติ แทนที่ผลประโยชน์จะตกแก่กลุ่มทุนและบรรษัทข้ามชาติเช่นในอดีต เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานได้มีข้อเรียกร้องหลัก 5 ประการดังนี้
1.เพื่อประเทศได้ประโยชน์สูงสุด ขอให้เปลี่ยนระบบสัมปทานปิโตรเลียมเป็นระบบแบ่งปันผลผลิตซึ่งได้พิสูจน์จากนานาประเทศว่าจะทำให้ประเทศได้ความเป็นเจ้าของปิโตรเลียมคืนมา 2.ขอให้จัดตั้งบริษัทแห่งชาติเพื่อควบคุมปิโตรเลียมให้ประชาชนใช้ก่อนในราคาที่เป็นธรรม 3.ขอให้มีการแบ่งพื้นที่ปิโตรเลียม และพื้นที่ผลิตอาหาร/การท่องเที่ยวอย่างชัดเจนเพื่อการพัฒนาที่สมดุล 4.เพื่อความปลอดภัยทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ขอให้ปลดโรงไฟฟ้าถ่านหินจากแผนผลิตพลังงานไฟฟ้าดังที่นานาประเทศกำลังปฏิบัติ 5.เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าและประชาชนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของการผลิตไฟฟ้าได้ ขอให้ผลักดันกฎหมาย พ.ร.บ.พลังงานหมุนเวียนโดยเร็ว
จากจุดมุ่งหมาย และข้อเรียกร้องทั้ง 5 ประการ เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานได้เลือกขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมในการปฏิรูปพลังงานครั้งนี้ด้วยการเดินเท้าจากหาดใหญ่ ถึงกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2557 ที่หอนาฬิกาอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ตลอดระยะเวลาการขับเคลื่อนกิจกรรมการเดินของขาหุ้นปฏิรูปพลังงานได้ถูกทางทหารเข้ามาเจรจา และจับกุมถึง 3 ครั้ง อันได้แก่ วันที่ 20 สิงหาคม 2557 ขาหุ้นสงขลา 11 คนถูกจับที่อำเภอรัตภูมิ และนำมาควบคุมตัวที่ค่ายเสนาณรงค์ จังหวัดสงขลา วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ขาหุ้นกรุงเทพมหานคร 7 คน ได้ถูกจับ และควบคุมตัวที่สโมสรกองทัพบก
และวันที่ 2 กันยายน 2557 ขาหุ้นสุราษฎร์ธานี 8 คน ก็ถูกจับ และควบคุมตัวที่ค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งมีการเข้าขัดขวางการเดินเท้าด้วยการส่งทหารมาเจรจาแทบทุกวันตั้งแต่จากหาดใหญ่ จนถึงชุมพร ทั้งนี้ เหตุผลที่ทางฝ่ายทหารใช้นั้นมีเหตุผล และวิธีคิดหลักเพียงประการเดียวคือ
“ขอให้รอได้ไหม รอให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติก่อน แล้วค่อยนำเรื่องไปเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติ การทำเช่นนี้ขัดต่อกฎอัยการศึก และรออีกไม่นานก็จะมีสภาปฏิรูปแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ตรรกะของฝ่ายทหารใช้ในการเข้ามาเจรจา หรือควบคุมตัวนั้นได้รับการพิสูจน์ว่า “เป็นเพียงข้ออ้างที่ไร้หลักการ” เพราะเมื่อเดินเกิน 5 คน ก็อ้างว่าขัดกฎอัยการศึก และให้รอสภาปฏิรูป เมื่อทางขาหุ้นฯ ปรับรูปแบบการเคลื่อนไหวด้วยการเดินไม่เกิน 5 คน ก็ยังถูกจับ และขู่ว่าจะจับให้หมดโดยไม่มีเหตุผล หรือข้อกฎหมายที่ใช้อ้างอิง เป็นการใช้อำนาจเถื่อนในนามชายชุดเขียวที่ไม่มีความชอบธรรมใดๆ นอกจากข่มขู่ด้วยอำนาจปืน
แท้จริงแล้วการสกัดดังกล่าวเพื่อทำตามคำสั่งนาย ที่สั่งการมาแล้วว่าจะทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้ขาหุ้นปฏิรูปพลังงานเดินเข้ากรุงเทพฯ และมีคำสั่งที่เด็ดขาดให้กองทัพภาคที่ 4 สกัดไว้ไม่ให้ข้ามเขตจังหวัดชุมพรขึ้นมา หากสกัดไม่อยู่ทางกองทัพภาคที่ 1 จะสกัด และจับกุมอย่างเด็ดขาดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ในขณะที่ฝ่ายทหารให้ขาหุ้นฯ รอการเกิดขึ้นมาของสภาปฏิรูปแห่งชาติแล้วจึงยื่นข้อเรียกร้อง แต่นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กลับได้แถลงนโยบายของกระทรวงพลังงาน ในวันที่ 12 กันยายน 2557 ว่า “สิ่งแรกที่จะดำเนินการให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ก็คือ การพิจารณาเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และการต่ออายุสัญญาสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุลงในอีก 5-6 ปีข้างหน้าของแหล่งเอราวัณ และบงกช ในอ่าวไทย”
ซึ่งเป็นการประกาศนโยบายที่ไม่ใส่ใจต่อการจะมีสภาปฏิรูปแห่งชาติเลย ตรรกะเดียวกันนี้ที่ทหารใช้กับขาหุ้นฯ กลับไม่ใช้กับรัฐบาล แสดงว่าเป็นตรรกะเทียม เป็นเพียงการเล่นลิ้นไร้สัจจะไร้หลักการของชายชุดเขียว ถึงวันนี้ เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ได้มีประชุมหารือกันแล้ว และมีข้อสรุปว่า คสช.และรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น ไม่อาจจะเป็นความหวังในการปฏิรูปพลังงานได้
เพราะมีแนวโน้มที่จะซูเอี๋ย และเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุน ไม่ว่าการจะต่อสัมปทานเดิม การจะให้สัมปทานรอบใหม่ ทั้งๆ ที่เกือบทุกประเทศในโลกล้วนเลิกการให้สัมปทานมาใช้การจัดสรรผลประโยชน์ด้วยการแบ่งปันผลผลิตกันหมดแล้ว ดังนั้น ปัญหาอุปสรรคของการปฏิรูปพลังงานจึงอยู่ที่ตัวรัฐบาลเอง รวมทั้ง คสช.ที่ไม่เท่าทันต่อวาทกรรมอันหลอกลวงที่กลุ่มทุนพลังงานครอบใส่ให้มาตลอดหลายสิบปี
เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ได้มีการประชุม และมีความเห็นเอกฉันท์ว่า จะหยุดกิจกรรม “การเดินวันละโยชน์ เพื่อประโยชน์ชาติ” ไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อลดการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหาร อันจะทำให้ประเด็นความตั้งใจในเรื่องการปฏิรูปพลังงานของเครือข่ายขาหุ้นถูกบิดเบือนไป และเครือข่ายขาหุ้นฯ ขอฝากธงอันหมายถึงสัญลักษณ์ของภารกิจการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปพลังงานไว้ให้แก่ประชาชนคนไทยทุกคนที่ต้องร่วมมือร่วมใจในการผลักดันการปฏิรูปพลังงานให้สำเร็จให้จงได้
และเป็นเพียงการฝากไว้เพื่อเราขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจะมารับคืนเพื่อเดินเท้าสู่กรุงเทพมหานคร เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เจตนารมณ์ และกิจกรรมของเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจะยังคงอยู่ และจะหนักแน่นเข้มข้นขึ้นด้วย โดยจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ เน้นการให้การศึกษาแก่ประชาชน การสร้างกระแสในกลุ่มประชาชนทั่วไป การผสานพลังของนักวิชาการในการจัดเวทีขับเคลื่อน รวมทั้งการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ และการให้ข้อมูลแก่สังคมผ่านสื่อหลากหลายประเภท
ทั้งนี้ จนเมื่อความตื่นตัวในการมีส่วนร่วมของประชาชนมีมากพอแล้ว เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจะรวมพลเดินทัพเข้าสู่กรุงเทพมหานคร จากทั่วทุกสารทิศอีกครั้ง เพื่อทวงคืนอธิปไตยด้านพลังงาน และผลักดันข้อเสนอของเครือข่ายขาหุ้นฯทั้ง 5 ข้อหลักให้เป็นจริง ด้วยจิตคารวะต่อพี่น้องประชาชนคนไทย ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน 15 กันยายน 2557