ชุมพร - กลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน แยกเดินรณรงค์กลุ่มละ 2-3 คน เลี่ยงกฎอัยการศึก เดินรณรงค์เชิญชวนชาวบ้านในพื้นที่ จ.ชุมพร ทหารรุดเจรานานเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ไร้ผลทำอะไรไม่ได้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (7 ก.ย.) ที่ตลาดเขตเทศบาลเมืองหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นางแสงนภา สุทธิภาค อายุ 50 ปี และนางยุพิน ใจเย็น อายุ 41 ปี พร้อมด้วยเครือข่ายกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจำนวนหนึ่ง ออกเดินรณรงค์เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปพลังงานของประเทศใหม่ทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชน และประเทศชาติ โดยกลุ่มดังกล่าวได้แบ่งออกเดินเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 3 คน เพื่อออกเดินแจกเอกสารไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองหลังสวน ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้าน
ต่อมา ได้มี พ.อ.พิเศษ สุรินทร์ เกตุแก้ว รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบก (ผบก.จทบ.)ชุมพร พร้อมด้วยสารวัตรทหาร ได้เข้าไปพูดคุยกับ นางแสงนภา และนางยุพิน เพื่อขอให้ยุติการเดินรณรงค์ พร้อมแนะนำให้ใช้ช่องทางการแสดงออกผ่านสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่ คสช. และ รัฐบาลกำลังดำเนินการแต่งตั้ง อีกทั้งยังเป็นเวทีที่จะได้เสนอความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ และไม่ผิดกฎหมาย
แต่นางแสงนภา ได้อธิบาย ว่า ที่ออกมาเดินรณรงค์ก็เพื่อต้องการให้มีการปฏิรูประบบพลังงานของประเทศทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งในปัจจุบันพลังงานของประเทศกลับไปเอื้อประโยชน์อยู่ในกลุ่มทุนมากกว่า โดยเฉพาะน้ำมันที่เป็นผลประโยชน์ของคนทั้งประเทศ พร้อมยังชี้แจงว่า กลุ่มไม่ได้กระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด เนื่องจากเดินกันเพียงกลุ่มละ 2-3 คนเท่านั้น และไม่ได้ผิดกฎอัยการศึก
หลังจากการเจรจาพูดคุยผ่านไปเกือบ 30 นาที ก็เริ่มมีชาวบ้านมาดูเหตุการณ์มากขึ้น ทำให้ พ.อ.พิเศษ สุรินทร์ รอง ผบก.จทบ.ชุมพร เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์บานปลายจึงได้เดินทางกลับไปในที่สุด และกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงานก็ออกเดินรณรงค์ และแจกเอกสารในตลาดเมืองหลังสวน และพื้นที่อื่นๆใน จ.ชุมพร ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงานในเขตภาคใต้ ได้ออกเดินจาก จ.สงขลา เมื่อวันที่ 19 ส.ค.57 โดยออกเชิญชวนชาวบ้าน และแจกเอกสารในแต่ละจังหวัดในภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลุกกระแสในการปฏิรูปพลังงาน โดยอาศัยเครือข่ายเป็นกลไกขับเคลื่อน ที่ผ่านมา แกนนำบางส่วนได้ถูกทหารเชิญตัวไปปรับความเข้าใจถึง 2 ครั้ง เนื่องจากอ้างว่าเป็นการประทำผิดกฎอัยการศึก ที่ชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป พร้อมทั้งเจรจาเพื่อขอให้กลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ให้ยุติการเคลื่อนไหว แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวยังปรับกลยุทธ์ในการออกเดินรณรงค์โดยการแยกกันเดินรณรงค์กลุ่มละ 2-3 คน เพื่อเลี่ยงกฎอัยการศึก